พระนครศรีอยุธยา - น้ำมาฉับพลันทะลักท่วมในพื้นที่ “บางบาล-เสนา” เมืองกรุงเก่าแล้ว ชาวบ้านวุ่นเก็บสิ่งของหนีไม่ทันได้รับความเสียหาย ครวญปีนี้น้ำมาเร็วกว่าวิกฤต 54 เชื่อปีนี้จะวิกฤตหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่วน ”วัดไชยวัฒนาราม” กรมศิลปากร เตรียมยกแนวเขื่อนน็อกดาวน์ขึ้นป้องกัน
วันนี้ (10 ก.ย.) สถานการณ์น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นกว่า 50 เซนติเมตร ในคืนเดียวส่งผลให้แม่น้ำน้อยสูงขึ้นตาม และทะลักเข้าคลองบางหลวง อำเภอบางบาล ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนตำบลบางหลวง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน นอกจากนั้น น้ำยังไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน จึงต้องเร่งเก็บพืชผักที่จมน้ำก่อนที่จะได้รับความเสียหาย
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นน้ำท่วมรวดเร็วอย่างนี้มาก่อน ปีที่ผ่านมา แม้น้ำจะมากแต่ก็ขยับตัวขึ้นทีละเล็กละน้อยเท่านั้น แต่มาปีนี้คืนเดียวขึ้นสูงกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านเตรียมตัวไม่ทัน ข้าวของจมน้ำเสียหายเป็นจำนวนมาก สวนกล้วยเสียหาย
นายธงชัย ฉันธใบดิษฐ์ อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 11 หมู่ 8 ต.บางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แม่น้ำเจ้าพระยาในปีนี้วิกฤตหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ไหลทะลักเข้าท่วมคลองบางหลวง ระดับน้ำขึ้นสูงเร็วมากไม่เคยมีปรากฏการณ์มาก่อน ชั่วโมงละ 10 ซม. ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทะลักเข้าท่วมถนนเส้นเข้าออกหมู่บ้าน จนรถเล็กไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้เป็นบางช่วง ส่วนกล้วยหอม กล้วยไข่ นับร้อยไร่ที่ปลูกไว้ก็จมน้ำแล้ว
ส่วนในพื้นที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้วเช่นกัน โดยนายอดิศักดิ์ อังคณานุจารี อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ต.ตาลาน อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกำลังขนย้ายของใต้ถุนบ้านหนีน้ำที่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วตามลำพัง กล่าวว่า วันนี้น้ำได้ขึ้นเร็วมากของใช้บางอย่างขนไม่ทันต้องปล่อยจมน้ำเพราะอยู่บ้านเพียง 2 ตายาย ปีที่แล้วน้ำท่วมใหญ่นาน 6 เดือนได้ทำความสะอาดบ้านและขนของลงจากบ้าน
"ปีนี้น้ำมาอีกชาวบ้าน ตำบลตาลาน มี 8 หมู่บ้านต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะคนแก่และเด็ก ปีที่แล้วมีหลายบ้านที่ไม่ได้เงินค่าชดเชยบ้านบางหลังท่วมถึงหน้าต่าง แต่ก็ไม่ได้ไปประท้วงอะไรกับใคร ปีนี้ถ้าน้ำท่วมหนักขอให้ทางราชการช่วยเหลียวแลให้ทั่วถึงนึกว่าสงสารคนจน อย่างไรก็ต้องอยู่กับน้ำตอนนี้ได้เตรียมเรือไว้สัญจรแล้ว"
นายหาญสิบ สิทธิ์ชัยพรหมมา อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 11 ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า บ้านไม้ทรงไทยริมแม่น้ำน้อย เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำน้อยมีระดับสูงขึ้น ทำให้ตลิ่งหน้าบ้านทรุด และถูกแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักเข้าแม่น้ำน้อยสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เมื่อคืนที่ผ่านมา ต้องระดมชาวบ้านมารื้อบ้านทั้งหมดออกหนีน้ำ ไปอยู่บ้านญาติก่อน ถ้าปล่อยไว้เกรงว่ากระแสน้ำจะพัดพาบ้านพังทลายลงตามน้ำ สำหรับสถานการณ์ในแม่น้ำน้อยกำลังไหลบ่าไปพื้นที่ลุ่ม สร้างความเสียหายอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มใน อ.เสนา อ.บางบาล อ.ผักไห่ และ อ.พระนครศรีอยุธยา”
สำหรับภาพรวมทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า มี 3 อำเภอที่ถูกน้ำท่วมแล้วระดับน้ำอยู่ที่ 50-70 เซติเมตร มีอำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล
ขณะที่วัดไชยวัฒนาราม อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โบราณสถานสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงขึ้นเหลืออีกเพียงไม่ถึง 1 เมตร ระดับน้ำก็จะเสมอตลิ่งวัดไชยฯ แล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้เตรียมการยกแนวเขื่อนน็อกดาวน์ขึ้นเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมวัดไชยฯ