พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านหลายอำเภอในพระนครศรีอยุธยาเริ่มอ่วม! หลังน้ำท่วมสูงขึ้นวันละไม่ต่ำ 20 เซนติเมตร หลังเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ผู้ว่าฯ สั่งอำเภอพื้นที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาให้นำเงินสำรองราชการมาดำเนินการแก้ไข และช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้
วันนี้ (18 ก.ย.) นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เร่งปล่อยระบายน้ำลงท้ายเขื่อนประมาณ 1,500 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในเขตภาคกลางริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย โดยเฉพาะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงจนล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนติดน้ำในหลายอำเภอแล้วว่า ล่าสุด น้ำท่วมประมาณ 50 เซนติเมตรในชุมชนริมน้ำ และจะเพิ่มขึ้นไปอีกวันละไม่ต่ำกว่า 20 เซนติเมตร แต่ช่วงนี้ยังเป็นการท่วมตรงเสาของบ้านริมน้ำที่ยกพื้นใต้ถุนสูงและชาวบ้านเริ่มใช้เรือพายเข้าออกชุมชน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนได้ออกประกาศแจ้งไปยังผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอติดแม่น้ำเจ้าพระยาแม่น้ำน้อย ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน และอำเภอบางไทร ให้สามารถนำเงินสำรองราชการมาดำเนินการแก้ไข และช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมได้ อย่างไรก็ตาม หากท่วมสูงกว่านี้อาจต้องประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อให้แต่ละอำเภอสามารถนำเงินงบประมาณ อำเภอละ 1 ล้านไปช่วยเหลือชาวบ้านเพิ่ม
ด้านนางกองแก้ว ขันธบัณฑิต อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บางหัก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ขณะนี้พืชผักสวนผสมของเกษตรกรชาวบ้านใน ต.บางหัก อ.บางบาล เริ่มจมน้ำแล้ว โดยมีสวนกล้วยไข่ กล้วยหอมนับ 100,000 ต้นถูกน้ำท่วม ซึ่งกล้วยกำลังใกล้ตัดผล สร้างความเสียหายอย่างมาก เพราะทางเขื่อนเจ้าพระยา เร่งปล่อยน้ำ 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตรแล้ว
ทางด้านนายชาตรี อยู่ประเสริฐ รองนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมที่ อ.บางบาล ซึ่งเป็นบริเวณน้ำท่วมซ้ำซาก พบว่าตลอด 2 ฝั่งคลองบางหลวง ที่ไหลผ่าน อ.บางบาล ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร ท่วมบ้านเรือนประชาชน สวนกล้วยหอม
"ขอฝากเตือนประชาชนที่เก็บของหนีน้ำ และตัดกล้วยจากสวน ให้ระมัดระวังงู และสัตว์มีพิษ กัดต่อย เป็นอันตรายถึงกับชีวิตได้ สายไฟ ปลั๊กเสียบ เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่อยู่ระดับต่ำ ให้ทำการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย สำหรับการช่วยเหลืออื่นๆ ให้ผู้นำท้องถิ่น ประสานงานไปที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง ซึ่งได้เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเบื้องต้นให้กับประชาชนที่เดือดร้อนแล้ว"