พระนครศรีอยุธยา - อธิบดีกรมศิลปากร ลงพื้นที่กรุงเก่าติดตามความคืบหน้าการป้องกันโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม และหมู่บ้านโปรตุเกส ขณะที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เตรียมตั้งแนวป้องกันหากน้ำขึ้นอีก 70 ซม.
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 ก.ย.) นางโสมสุดา ลียวณิชย์ อธิบดีกรมศิลปากร เดินทางไปตรวจความคืบหน้าการสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วมที่โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณแนวกำแพงทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เคยพังเสียหาย ทำให้น้ำทะลักเข้าโบราณสถาน โดยมีการสร้างคันดินยาว 229 เมตร สูง 1.50 เมตร ด้วยการใช้ท่อคอนกรีตอัดแรงวางตั้งแล้วใช้ดินปั้นเป็นคัน ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จเป็นกำแพงชั่วคราว และหลังน้ำลดแล้วก็จะใช้งบประมาณทำกำแพงถาวรที่แข็งแรงขึ้น แต่การสร้างแนวป้องกันนี้ล่าช้า เนื่องจากประสบปัญหามีฝนตกลงมาอีก
จากนั้นได้เดินทางไปยังหมู่บ้านโปรตุเกสเพื่อตรวจดูการสร้างแนวป้องกัน ซึ่งใช้คันดินเช่นกัน และมีสภาพเกือบสมบูรณ์เชื่อว่าสามารถป้องกันได้
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรี เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องในการประเมินสถานการณ์น้ำ และวางแผนเพื่อป้องกันน้ำท่วมเกาะเมือง โดยมีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำนักศิลปากรที่ 3 ร่วมประชุม
โดยในการประชุมครั้งนี้ เพื่อระดมความคิดเห็นในการประเมินสถานการณ์ในส่วนที่รับผิดชอบต่างๆ ซึ่งทางเทศบาลได้เตรียมกำลังเทศกิจ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาภัย พนักงานไฟฟ้า เฝ้าระวังประตูระบายน้ำ และโรงสูบน้ำทุกจุด 24 ชม. และขณะนี้ระดับน้ำบริเวณอู่ทอง หน้าเจดีย์พระศรีสุริโยทัย ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.50 ม. ซึ่งหากพบว่าระดับน้ำสูงขึ้นอีก 70 ซม. เทศบาลจะทำการตั้งแนวคันดินป้องกันทันที โดยใช้ท่อระบายน้ำอัดแรงที่เป็นท่อคอนกรีตวางแล้วใช้หินคลุกเทเป็นคัน
