นครปฐม - โรงเรียนนายร้อยตำรวจอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ร่วมกับสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัวสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดโครงการพัฒนาโรงเรียนนายร้อยตำรวจสู่องค์กรสร้างเสริมสุขภาพเพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจทุกนายลงพื้นที่ในชุมชนเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้จัดโครงการพัฒนาโรงเรียนนายร้อยตำรวจสู่องค์กรสร้างเสริมสุขภาพ โดยให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปี 3 จำนวน 284 นายที่จะออกไปปฎิบัติภารกิจตามหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจสัมผัสปัญหาชุมชน โดยมี พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) เป็นประธาน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.หญิงพนิดา ผลาวัลย์ ผู้กำกับการฝ่ายกิจการนักเรียนกองบังคับการปกครอง กล่าวรายงานโครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจสัมผัสปัญหาชุมชน เริ่มขึ้นตามดำริของอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่ให้ไว้ต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจเมื่อคราวประชุมสภาการศึกษาครั้งที่ 1 ประจำปีการศึกษา 39 เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจตระหนักถึงปัญหาชุมชน ซึ่งมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม สิทธิเด็ก ซึ่งเกิดตามการเติบโตของเศรษฐกิจแบบทุนนิยมทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่างคนในเมืองกับชนบท ครอบครัว จึงประสบปัญหาการเงินถึงขั้นหย่าร้าง จึงได้ร่วมกับสำนักงานเเผนงานและงบประมาณ เครือข่ายองค์กรเพื่อเด็กเร่ร่อน 13 องค์กรจัดตั้งหลักสูตรดังกล่าวขึ้นสำเร็จ โดยบรรจุในหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ศ.2549 มีผลบังคับใช้ พ.ศ.2551 โดยได้ดำเนินการร่วมกับองค์กรชุมชน สถานสงเคราะห์ มูลนิธิในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยได้จัดส่งนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปี 3 จำนวน 284 คนลงพื้นที่สัมผัสปัญหาชุมชนในองค์กร 40 แห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ระหว่างวันที่ 4-18 กันยายน 2555 เช่น สถานีสัญชาติ ครูข้างถนน สถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชาย (บ้านกาญจนาภิเษก ) เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจทุกนายได้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม เข้าถึงสถานการณ์ ความรู้สึกที่แท้จริงของประชาชน จะได้นำไปคิดวิเคราะห์ และเป็นแนวทางปฎิบัติตนในเวลาที่ออกไปรับราชการตำรวจจะได้เป็นตำรวจรับใช้ประชาชนที่ดี
พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) กล่าวว่า คาดหวังให้ นรต.เข้าใจปัญหาที่เป็นสถานการณ์สภาพจริงในชุมชนและแก้ปัญหาได้ เช่น เมื่อพบเด็กถูกนำมาทิ้งจะรู้ว่าต้องนำเด็กไปไว้ที่ไหน ติดต่อองค์กรให้ความช่วยเหลือได้อย่างไร เพื่ออนาคตจะได้เป็นตำรวจรับใช้ประชาชนที่เข้าใจปัญหาท้องถิ่นนั้นๆ ได้ดี โดยเรียนรู้จากประสบการณ์จริง รู้จักคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญคือ ความเข้าใจในปัญหา ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรรมได้
วันนี้ (11 ก.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้จัดโครงการพัฒนาโรงเรียนนายร้อยตำรวจสู่องค์กรสร้างเสริมสุขภาพ โดยให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปี 3 จำนวน 284 นายที่จะออกไปปฎิบัติภารกิจตามหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจสัมผัสปัญหาชุมชน โดยมี พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) เป็นประธาน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.หญิงพนิดา ผลาวัลย์ ผู้กำกับการฝ่ายกิจการนักเรียนกองบังคับการปกครอง กล่าวรายงานโครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจสัมผัสปัญหาชุมชน เริ่มขึ้นตามดำริของอดีตอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ที่ให้ไว้ต่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจเมื่อคราวประชุมสภาการศึกษาครั้งที่ 1 ประจำปีการศึกษา 39 เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจตระหนักถึงปัญหาชุมชน ซึ่งมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
เช่น ยาเสพติด อาชญากรรม สิทธิเด็ก ซึ่งเกิดตามการเติบโตของเศรษฐกิจแบบทุนนิยมทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำของรายได้ระหว่างคนในเมืองกับชนบท ครอบครัว จึงประสบปัญหาการเงินถึงขั้นหย่าร้าง จึงได้ร่วมกับสำนักงานเเผนงานและงบประมาณ เครือข่ายองค์กรเพื่อเด็กเร่ร่อน 13 องค์กรจัดตั้งหลักสูตรดังกล่าวขึ้นสำเร็จ โดยบรรจุในหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ศ.2549 มีผลบังคับใช้ พ.ศ.2551 โดยได้ดำเนินการร่วมกับองค์กรชุมชน สถานสงเคราะห์ มูลนิธิในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยได้จัดส่งนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปี 3 จำนวน 284 คนลงพื้นที่สัมผัสปัญหาชุมชนในองค์กร 40 แห่ง ทั้งภาครัฐ และเอกชน ระหว่างวันที่ 4-18 กันยายน 2555 เช่น สถานีสัญชาติ ครูข้างถนน สถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนชาย (บ้านกาญจนาภิเษก ) เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจทุกนายได้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม เข้าถึงสถานการณ์ ความรู้สึกที่แท้จริงของประชาชน จะได้นำไปคิดวิเคราะห์ และเป็นแนวทางปฎิบัติตนในเวลาที่ออกไปรับราชการตำรวจจะได้เป็นตำรวจรับใช้ประชาชนที่ดี
พล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (ผบช.รร.นรต.) กล่าวว่า คาดหวังให้ นรต.เข้าใจปัญหาที่เป็นสถานการณ์สภาพจริงในชุมชนและแก้ปัญหาได้ เช่น เมื่อพบเด็กถูกนำมาทิ้งจะรู้ว่าต้องนำเด็กไปไว้ที่ไหน ติดต่อองค์กรให้ความช่วยเหลือได้อย่างไร เพื่ออนาคตจะได้เป็นตำรวจรับใช้ประชาชนที่เข้าใจปัญหาท้องถิ่นนั้นๆ ได้ดี โดยเรียนรู้จากประสบการณ์จริง รู้จักคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญคือ ความเข้าใจในปัญหา ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรรมได้