xs
xsm
sm
md
lg

“ผบช.ภ.3” โต้ “ส.ส.ชาดา” ยันมือยิงมีคนเดียว ลั่นไม่จับแพะ-เอนเอียงเพื่อใคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล  ผบช.ภ.3
ศูนย์ข่าวนครราชีมา - “ผบช.ภ.3” โต้ “ส.ส.ชาดา” ยันมือยิงมีคนเดียว ลั่นคดีนี้ไม่มีแพะ ไม่มีเอนเอียง ไม่ทำเพื่อช่วยใคร และทำคดีให้จบก่อนย้ายรับเก้าอี้ “ผบช.สตม.” สิ้นเดือนนี้ ชี้ตามหลักฐานร่องรอยกระสุนฝ่ายผู้ตายเปิดฉากยิ่งก่อน เตรียมประเดิมตั้งข้อหา “พยายามฆ่า” กับ “สุริยา ไทยเศรษฐ์” คนนั่งคู่คนขับเจ้าของปืน 9 มม.กระบอกที่นำมามอบให้ ตร.

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียิง นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 27 ปี ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เสียชีวิตคารถยนต์ บริเวณถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ในท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา คืนวันที่ 20 ส.ค. และต่อวันที่ 30 ส.ค. นายมั่น พูลทรัพย์ อายุ 40 ปี โฟร์แมนคุมงานก่อสร้างรีสอร์ตชาว จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น

ล่าสุดวันนี้ (5 ก.ย.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยว่า ภายหลังทางพิสูจน์หลักฐานกลางนำเครื่องสแกน 3 มิติลงพื้นที่ สภ.หมูสี เพื่อตรวจแนววิถีต่างๆ เมื่อวานนี้ (4 ก.ย.) แล้วคงต้องใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากเป็นภาพ 3 มิติ โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มาจับด้วยการเทียบเคียงแนววิถีกระสุนและเทียบกับปลอกกระสุนที่เก็บได้ รวมทั้งความสูงความต่ำของรถ ซึ่งภาพสแกนนี้ต้องทำให้ออกมาเป็นภาพจำลองเสมือนจริงคล้ายกับการทำกราฟิก อันนี้เป็นข้อมูลที่หลังจากทางพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมเสร็จแล้วต้องนำไปประมวลให้เป็นขั้นเป็นตอนก่อนส่งมายังพนักงานสอบสวน ซึ่งการทำลักษณะนี้คงต้องใช้เวลามากพอสมควรประมาณ 1-2 สัปดาห์

ทั้งนี้ เมื่อพนักงานสอบสวนได้หลักฐานดังกล่าวแล้วมันจะชัดเจนว่าใครเริ่มยิงใครก่อน พอได้ความชัดเจนแล้วตำรวจจะไปเพิ่มเติมในข้อหา ซึ่งน้ำหนักเรื่องใครยิงใครก่อนจากร่องรอยกระสุนเบื้องต้นน่าจะอยู่ที่ทางกลุ่มของผู้ตาย แต่ตามหลักฐานที่ปรากฏตอนนี้ผู้ต้องหามีเพียงคนเดียว คือ นายมั่น พูลทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดตำรวจจะรวบรวมสรุปสำนวนสั่งฟ้องส่งอัยการให้ทันในสิ้นเดือนนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยหรือข้อสังเกตว่าปืนในรถผู้ตายอาจเกิดลั่นถูกพวกเดียวกันเองเป็นไปได้หรือไม่ เพราะไม่มีการผ่าศพเอาหัวกระสุนมาตรวจพิสูจน์ พล.ต.ท.ภาณุตอบว่า ประเด็นนี้ก็น่าคิด ซึ่งความเคลือบแคลงใจอยู่ที่ว่าปืน .380 ที่ตำรวจพบปลอกในรถผู้ตายทำไมไม่ส่งมอบให้เรา ทำให้เป็นสิ่งที่น่าคิดอยู่ แต่หลักฐานกล้อง 3 มิติชัดเจนมันจะคลายปมเรื่องนี้ไปได้พอสมควร ภาพจะปรากฏชัดว่าเป็นกระสุนที่มาจากคู่กรณีก็จะตัดประเด็นเรื่องปืน .380 ออกไปได้ โดยเฉพาะเรื่องกระสุนจะมาจากนอกรถหรือในรถเอง แต่หากวิถีไม่ใช่ก็เป็นที่น่าสงสัย

ส่วนกรณี ส.ส.ชาดาระบุว่าการผ่าศพเอาหัวกระสุนปืนมาตรวจพิสูจน์หลักทางศาสนาทำไม่ได้ ให้ไปหาอาวุธปืนผู้ต้องหาให้พบก่อนดีกว่านั้น เรื่องนี้เราก็ตามใจทางผู้เสียหาย และ ส.ส.ชาดาเป็นหลักก็แล้วกัน ถ้าทำให้ไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร เราใช้หลักฐานทางอื่นพิสูจน์ทราบได้ แต่หากได้มีการผ่าพิสูจน์ได้หัวกระสุนมามันก็จะชัดเจนมากขึ้น แต่ถ้าไม่สบายใจเราใช้วิธีอื่นประกอบได้

สำหรับการตั้งข้อหาของตำรวจมีการตั้งข้อหานายมั่นแล้ว ส่วนอีกฝั่งหนึ่งเราต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานหากออกมาชัดเจนว่าเริ่มยิงก่อนแล้วการยิงมีวิถีกระสุนมุ่งหมายเอาชีวิตตำรวจก็ต้องตั้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งปืนที่ยิงออกมาจากรถผู้ตาย คือคนนั่งคู่คนขับ ก็คือ นายสุริยา ไทยเศรษฐ์ และปืนที่มอบให้ตำรวจซึ่งเป็นปืนของนายสุริยาด้วย ตำรวจมีหลักฐานอยู่แล้ว ซึ่งน่าจะตั้งข้อหานายสุริยาได้ โดยเบื้องต้นน่าจะเป็นคนเดียว

ส่วนปืน .380 ที่ยังติดขัดฝ่ายผู้ตายไม่นำมามอบให้ตำรวจนั้น หัวกระสุนยังไม่พบ แต่พบปลอกระสุน ซึ่งเข้าใจว่าปืนกระบอกนี้อาจจะเป็นการยิงขู่ขึ้นฟ้า หากนายฟารุต ผู้ตาย หรือคนในรถเป็นคนยิงข้อหาก็แค่เบาๆ เท่านั้น คือยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร แต่ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้อหาใครในฝ่ายของผู้ตาย

“อยากฝากถึงทั้งคู่กรณีว่า คดีนี้ตำรวจเดินทำตรงไปตรงมาตามหลักฐานที่ปรากฏ น้ำหนักพยานต่างๆ เราก็ฟัง แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จะเป็นตัวชี้เรื่องราวทั้งหมด และจะเป็นหลักฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การตั้งข้อหาการดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งคู่ไม่ต้องกังวลใจ ผมขอยืนยันและขอรับรองว่างานนี้ไม่มีแพะ ไม่มีเอนเอียง ทำเพื่อชื่อเสียง ไม่ทำเพื่อช่วยใคร และเป็นตัวจริง จริงๆ และผมจะทำคดีนี้ให้จบก่อนย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ คือผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)” พล.ต.ท.ภาณุกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การสอบสวนพยานต่างๆ ของคดีได้สอบครบหมดแล้ว รวมทั้ง ส.ส.ชาดาก็ให้การเพิ่มเติมแล้ว ทางผู้หญิงที่นั่งมาในรถยนต์ BMW กับ ส.ส.ชาดา ได้ให้การแล้วเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ความใกล้ชิดกับเหตุการณ์ไม่ถึงขนาดเห็นเหตุการณ์ ส่วนการตรวจรถ BMW ก็ไม่พบว่ามีการยิงปืนอะไร ซึ่งในรูปคดีก็เป็นประโยชน์ทุกปาก แต่ตำรวจยังไม่ปิดโอกาสพยานอื่นๆ ที่จะนำมาให้สอบปากคำเพิ่มเติมหากเกี่ยวข้อง พล.ต.ท.ภาณุกล่าวในตอนท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น