ตร.ชี้ผลสอบ “สาว” ในรถ “ชาดา” เป็นประโยชน์ต่อคดี - มือยิงสับสนจุดทิ้ง ไม่พบ “ปืน”

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- หน.ชุดสอบสวนคดียิงลูก ส.ส.อุทัยธานีดับ เผยผลสอบปากคำ “หญิงสาว” นั่งรถมากับ “ส.ส.ชาดา” ในวันเกิดเหตุ พร้อมตรวจรถ BMW เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ระบุวันนี้กองพิสูจน์หลักฐานกลางลงพื้นที่เก็บรายละเอียดด้านนิติวิทยาศาสตร์ก่อนสรุปสำนวนและใช้เป็นหลักฐานแจ้งข้อหาฝ่าย “ลูกชาดา” ล่าสุดเรียกสอบ “มั่น” ผู้ต้องหาเพิ่มยังสับสนจุดทิ้งปืนกระบอกสังหาร ระดมหาไม่พบ

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 27 ปี ลูกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เสียชีวิตคารถยนต์บริเวณถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 ส.ค. และต่อมาวันที่ 30 ส.ค.นายมั่น พูลทรัพย์ อายุ 40 ปี โฟร์แมนก่อสร้าง ชาว จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวโดยระบุว่าสาเหตุเกิดจากสาดไฟใส่กันไปมานั้น

ล่าสุด วันนี้ (4 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) ได้ทำการสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 1 ปาก คือ ผู้หญิงที่นั่งมาในรถ BMW กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ในวันเกิดเหตุซึ่งขับนำหน้ารถยนต์นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ผู้ตาย และได้ทำการตรวจสอบรถยนต์ BMW เพื่อเก็บหลักฐานต่างๆ ไว้หมดแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมากแต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดทั้งหมดได้ ส่วนตัวนายชาดาจะติดต่อขอเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในภายหลัง

ทั้งนี้ ในเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 ก.ย.) เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานกลางจะลงพื้นที่เก็บรายละเอียดด้านนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมตรวจวิถีกระสุน และจำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุอย่างชัดอีกครั้ง โดยจะเดินทางไปที่ สภ.หมูสี เพื่อตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า รุ่นพราโด้ แลนด์ครุยเซอร์ ของกลางที่นายฟารุตผู้ตายเป็นคนขับ และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ของนายมั่นผู้ต้องหา รวมถึงเส้นทางที่มีการยิงต่อสู้กัน ซึ่งจะใช้เวลา 1 วัน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสรุปรายละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนอีกครั้ง

พ.ต.อ.บุญส่งกล่าวต่อว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายมั่น พูลทรัพย์ ผู้ต้องหาเพิ่มเติมไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อสอบถามถึงจุดที่โยนอาวุธปืนขนาด 9 มม.ใช้ยิงในวันเกิดเหตุทิ้ง เนื่องจากหลังมีการกระจายกำลังลงพื้นที่ค้นหาอาวุธปืนในจุดที่นายมั่นให้การไว้ครั้งแรกอย่างละเอียดแล้วแต่ยังไม่พบ อย่างไรก็ตาม การสอบปากคำนายมั่นครั้งนี้ก็ยังบอกอะไรได้ไม่มากนักเนื่องจากเป็นช่วงกลางคืน ยังจำสับสน แต่ทางตำรวจไม่ได้ละความพยายามที่จะค้นหาอาวุธปืนต่อไป และหากชาวบ้านเก็บไว้ขอให้รีบนำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท และไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น

“สำหรับขั้นตอนการดำเนินการของพนักงานสอบสวนนั้น ขณะนี้รอผลสรุปรายละเอียดจากกองพิสูจน์หลักฐานกลางด้านนิติวิทยาศาสตร์ก่อน จึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี ซึ่งขณะนี้เหลือทางฝ่ายของนายชาดา เชื่อว่าคดีนี้ไม่ใช้เวลานานและเราจะเร่งรัดให้เรื่องขึ้นสู่ศาลให้เร็วที่สุด เพราะทุกอย่างคลี่คลายแล้ว เหลือเพียงการเก็บรายละเอียดประกอบสำนวนการสอบสวนอีกเล็กน้อยเท่านั้น” พ.ต.อ.บุญส่งกล่าว