รมว.อุตฯ ประกาศปรับมาตรฐานออกใบอนุญาตโรงบำบัดเคมีทั่ว ปท.

ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมว.อุตสาหกรรม กร้าวปรับมาตรการคุมเข้มโรงบำบัดเคมีกว่า 400 แห่งทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐาน พร้อมเดินหน้ารีเช็กการออกใบอนุญาตดำเนินการใทุกขั้นตอน หวังล้อมคอกปัญหาการลักลอบทิ้งสารเคมีไม่เลือกที่

วันนี้ ( 1 ก.ย.) มรว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อทิ้งน้ำเสียจากโรงงานบำบัดเคมีอุตสาหกรรม และสถานที่แอบทิ้งขยะกากอุตสาหกรรม ตามการร้องเรียนของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลหนองแหน (อ่านว่า หนอง-แหน๋) อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานระดับกรมฯ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รอง ผู้ว่าฯ นายอยู่ เสนาธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัด ร่วมตรวจสอบ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นว่า นับจากนี้ไปจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาในภาพรวมทั้งหมด ไม่เฉพาะแค่จังหวัด.ฉะเชิงเทรา โดยลำดับแรก คือ การเข้มงวดและตรวจสอบในเรื่องของการออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการ ดำเนินการเกี่ยวกับการบำบัดของเสียและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการอนุญาตใหม่ และให้มีการตรวจสอบอย่างชัดเจนว่ามีอุปกรณ์ วิศวกรสิ่งแวดล้อม และเครื่องมือรวมทั้งระบบที่ชัดเจนหรือไม่

ทั้งนี้เพราะในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา การออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการดำเนินการเกี่ยวกับการบำบัดของเสียและสิ่งแวดล้อม เป็นไปอย่างง่ายดาย จึงทำให้มีผู้ประกอบการมากกว่า400 รายในปัจจุบัน ดังนั้นจึงต้องมีการกลับไปทวบทวนว่าผู้ประกอบการใดทำตามกฎกติกา และผู้ประกอบการใดที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน พร้อมจะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการกำกับดูแลด้วยอีกชั้นหนึ่ง

ปัญหาสำคัญอีกประการ คือเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ที่มีน้อยเกินไปจนไม่สามารถลงพื้นที่ได้ครบ จึงจำเป็นต้องนำระบบเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต กล้องวงจรปิด และระบบจีพีเอส มาจัดระบบให้เรียบร้อย และต้องมีการติดตั้งในทุกพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องโรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ที่มีแหล่งอุตสาหกรรมหนาแน่น

“ส่วนพื้นที่เกิดปัญหาแล้วในสัปดาห์หน้า จะส่งวิศวกรจากกรมโรงงานฯ ออกเก็บตัวอย่างดิน เพื่อนำไปตรวจสอบซึ่งหากพบว่ามีผลกระทบก็จะออกไปเก็บตัวอย่างตามรายทางน้ำไหลทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ เพื่อตรวจสอบว่าได้ส่งผลกระทบไปไกลแค่ไหน” มรว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าว

สำหรับในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบนำกากอุตสาหกรรม และสารเคมีมาทิ้งอย่างไม่ถูกต้องจำนวน 11 จุด โดยมีผู้ประกอบการที่กระทำความผิดจำนวน 7 ราย ซึ่งจะถูกส่งฟ้องในคดีอาญาทั้งหมด

ส่วนในจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่น กระทรวงฯ จะต้องกลับไปทำตารางเอ็กซเรย์พื้นที่ใหม่ ว่ามีพื้นที่ใดบ้างที่มีปัญหา และหากพบปัญหาในลักษณะเดียวกันสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนั้นๆจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ