ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านหนองแหน แปดริ้ว สุดทน ฮือชี้ให้เจ้าหน้าที่จับรถบรรทุกขนกากอุตสาหกรรมทิ้งในพื้นที่ หลังแอบลอบขนเข้ามาสร้างมลพิษในหมู่บ้านมานานหลายเดือน จนส่งกลิ่นเหม็นโชยไกลหลาย กม. หวั่นมลพิษลามลงรากลึกถึงแหล่งน้ำกินใช้ใต้ดิน
วันนี้ (9 ก.ค.) นายแสวง นิภาภรณ์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.7 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา อดีตผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ได้นำชาวบ้านในหมู่บ้านกว่า 100 คนเข้าปิดล้อมชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมรถบรรทุกสารเคมีไม่ทราบชนิด ขนาดบรรทุก 22 ล้อ แบบมีถังบรรจุเคมีขนาดใหญ่ 2 คัน ที่กำลังแอบระบายสารเคมีทิ้งลงสู่บ่อลูกรังเก่าภายในหมู่บ้านโดยไม่มีใบอนุญาต
โดยที่ผ่านมา การแอบนำเอาสารเคมีมาปล่อยทิ้งยังในพื้นที่ของนายทุนมักง่ายนั้น ได้สร้างผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งส่งกลิ่นเหม็นฉุน และบูดเน่า จนแสบจมูกรบกวนความเป็นอยู่ โดยก่อให้เกิดมลพิษต่อชาวบ้านมากมาย และที่สำคัญ คือ ชาวบ้านส่วนใหญ่ใช้น้ำใต้ดินในการอุปโภคบริโภค เนื่องจากบ่อลูกรังดังกล่าวนั้นอยู่ในที่สูงกว่าบ้านเรือนของชาวบ้าน จึงได้รวมตัวกันไปเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานของรัฐเข้าดำเนินการจับกุมรถบรรทุกทั้ง 2 คันไว้
ขณะที่นายสุนันท์ นิดร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/1 ม.12 ต.หนองแหน สมาชิก อบต.หนองแหน กล่าวว่า ที่ผ่านมา มักมีรถบรรทุกแอบนำสารเคมีมาถ่ายเททิ้งอยู่ในพื้นที่อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะรายล่าสุดนี้ ได้แอบนำสารเคมีเข้ามาทิ้งได้เป็นเวลาประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน จึงได้พากันออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมดำเนินคดี ซึ่งเบื้องต้น คนขับรถยังไม่ยินยอมบอกรายละเอียดว่านำสารเคมีเหล่านี้มาจากไหน
และนอกจากรถบรรทุกสารเคมีทั้งสองคันที่ถูกชาวบ้านล้อมจับไว้ได้นี้แล้ว ยังมีรถบรรทุกในลักษณะเดียวกัน จอดรอเพื่อเตรียมที่จะขับเข้ามาทิ้งอีกจำนวนมากถึง 4 คัน ที่บริเวณแยกเบส (แยกนาน้อย) พื้นที่ ต.เกาะขนุน แต่รถทั้ง 4 คันได้ไหวตัวทัน หลังจากรถ 2 คันแรกถูกชาวบ้านพร้อมตำรวจจับกุมไว้ได้ จึงได้พากันขับรถหลบหนีไปก่อน จึงเชื่อว่าน่าจะมีการทำกันอย่างเป็นขบวนการใหญ่ และอาจมีนักการเมืองท้องถิ่นบางคนหนุนหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ชี้ชัดว่า สารเคมีที่ถูกขนมาทิ้งนี้ เป็นสารเคมีชนิดใด ซึ่งยังอยู่ระหว่างการส่งไปตรวจอยู่ แต่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ ชาวบ้านที่นี่ใช้น้ำผิวดินในการอุปโภคบริโภค
ด้าน พ.ต.ท.วิชาญ สารการ สารวัตรสถานีตำรวจภูธรหนองแหน กล่าวว่า หลังจากได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมรถบรรทุกทั้ง 2 คันไว้นั้น ประกอบด้วย รถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียนหัวลาก 97-9666 กทม. ทะเบียนท้ายพ่วง 84-5100 ชลบุรี ซึ่งมีนายภาคิน โต้งสูงเนิน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.4 ต.หนองบัวน้อย อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นคนขับ และรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียนหัวลาก 85-2767 ชลบุรี ทะเบียนหางพ่วง 71-3514 ชลบุรี มีนายยิ่งยศ เหลืองอ่อน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150/9 ม.17 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นคนขับ
โดยทั้งสองคนรับสารภาพว่า ได้ไปขนน้ำเสียออกมาจากโรงงานผลิตเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมแห่งหนึ่ง (บริษัท อา เจ จำกัด) ตั้งอยู่เลขที่ 700/318 ม.6 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เพื่อนำมาทิ้งยังในพื้นที่บริเวณนี้ หลังผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า นำน้ำทิ้งจากการประกอบกิจการโรงงานมาทิ้งโดยผิดกฎหมาย และหากผลการตรวจสอบจากการส่งตรวจทางวิทยาศาสตร์ออกมาพบว่ามีสารเคมีใดปนเปื้อนอยู่บ้าง ก็จะแยกดำเนินคดีไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมสารเคมีนั้นๆ