เชียงราย - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฯ บุกจับถึงโรงงาน ยึดผลิตภัณฑ์รังนกปลอมนับพันขวด พบใช้ “ยาคามายา” เป็นส่วนผสมแทนรังนกนางแอ่น เผยเจ้าของขออนุญาตตั้งโรงงานประเภทอื่นแต่กลับผลิตรังนกปลอมแทน เบื้องต้นตักเตือนก่อน พร้อมส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ตรวจในห้องแล็บ หากพบมีอันตรายพร้อมดำเนินคดีทันที
วันนี้ (30 ส.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย ได้แถลงข่าวการตรวจยึดรังนกปลอมเป็นจำนวนมาก โดยมีของกลางประกอบด้วย ขวดพลาสติกใสฉลากสีเหลือง ขนาดบรรจุ 130 มิลลิกรัม จำนวน 1,428 ขวด และสีน้ำเงิน ขนาดเดียวกันจำนวน 300 ขวด ภายในบรรจุวัตถุที่อ้างว่าคือ เครื่องดื่มรังนก แต่ไม่ระบุตราองค์การอาหารและยา หรือ อย. และมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก.รวมทั้งชื่อที่อยู่ผู้ผลิต วันเวลาผลิต วันหมดอายุ ฯลฯ แต่อย่างใด
การตรวจยึดมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาล อ.ป่าแดด สืบทราบว่าที่โรงงานอาหารแห่งหนึ่ง อยู่ในพื้นที่ ต.โรงช้าง อ.ป่าแดด มีการผลิตเพื่อเตรียมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบของกลางทั้งหมดจึงได้ใช้มาตรการตักเตือนให้เลิกพฤติกรรมและห้ามนำออกมาจำหน่าย โดยยังไม่มีการดำเนินคดีใดๆ ในขณะนี้ แต่ได้ตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจสอบว่าจะมีอันตรายหรือไม่เพื่อพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
นายแพทย์ชำนาญกล่าวว่า จากการตรวจสอบสิ่งที่อยู่ในขวดดังกล่าวพบว่าไม่ใช่รังนกแท้แต่เป็นยางไม้ที่เรียกว่า “ยาคามายา” ที่มาจากต้นสุพรรณิการ์ พืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งสามารถนำมาแช่น้ำ มีลักษณะคล้ายรังนก และยังมีขนอ่อนคล้ายขนนกปะปนอยู่อีกด้วย
ยาคามายาจะมีสีขาวเหลืองอมชมพู จนถึงสีน้ำตาลเข้ม กลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชู รูปร่างไม่แน่นอน แต่ละลายน้ำได้ เมื่อถูกน้ำจะดูดซับและพองตัวคล้ายรังนก ส่วนใหญ่จะนำมาจากประเทศจีน มีจำหน่ายตามตลาดชายแดนด้าน อ.แม่สาย ราคากิโลกรัมละ 3,000-4,000 บาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบส่วนผสมอื่นๆ เบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่เป็นแป้งและน้ำตาล ซึ่งไม่มีคุณค่าทางอาหารใดๆ ไม่มีโปรตีนเหมือนรังนกแท้ที่มีโปรตีนผสมอยู่
นายแพทย์ชำนาญกล่าวอีกว่า วัตถุดังกล่าวอ้างว่าเป็นเครื่องดื่มรังนกแท้ และจำหน่ายเพียงขวดละ 10 บาท ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์รังนกแท้จะจำหน่ายแพงกว่านี้หลายเท่าตัว และรังนกแท้แห้งก็มีราคากิโลกรัมละนับแสนบาท รวมทั้งยังไม่ทราบชัดเจนว่าจะมีอันตรายต่อสุขภาพใดๆ อีกหรือไม่ ดังนั้นจึงส่งของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบในห้องแล็บก่อน หากพบว่ามีอันตรายมากก็จะพิจารณาดำเนินคดีต่อเจ้าของผู้ผลิตต่อไป
เบื้องต้นได้ทำการตักเตือนไว้ก่อน เพราะเดิมถือว่าขออนุญาตผลิตอาหารชนิดอื่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และถ้าหากจะผลิตรังนกจริงก็ให้ไปขออนุญาตเสียให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีกรณีตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ หากผู้รับอนุญาตยังผลิตอาหารไม่ได้รับอนุญาตขึ้นทะเบียนตำรับอาหารก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่ามีเอกชนหลายรายพยายามจะขอเปิดกิจการเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มรังนกในพื้นที่เช่นกัน แต่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนจังหวัดอื่นๆ มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุขวดพลาสติกในลักษณะนี้เช่นกัน โดยมีการปิดผนึกฉลากข้างขวด ระบุเลขสารบบอาหารที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย.อย่างแพร่หลายทั่วไป และยังระบุข้างขวดว่าเป็นรังนกแห้ง น้ำตาล ไม่ใช้วัตถุกันเสีย โปรดแช่เย็น ฯลฯ
ลักษณะดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายใช้ฉลากเพื่อลวง หรือพยายามลวงผู้ซื้อให้เข้าใจผิด มีความผิดเข้าข่ายผลิตอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาทด้วย
“รังนกนางแอ่นจะมีส่วนประกอบหลักเป็นโปรตีนสูง 50% และมีคาร์โบไฮเดรต ประมาณ 22% แต่รังนกปลอมจะมีโปรตีนเพียง 2% ที่เหลือเป็นคาร์โบไฮเดรตกว่า 70% ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนได้ช่วยเฝ้าระวังการซื้อหาสินค้า หากพบผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ หรือกรณีซื้อหาสินค้าต่างๆ ไปบริโภคก็ควรตรวจสอบฉลากต่างๆ ให้ชัดเจนด้วย” นายแพทย์ชำนาญกล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าสำหรับผลิตภัณฑ์รังนกปลอมที่พบในครั้งนี้ระบุข้างขวดชื่อตรา “โนราห์” และมีรูปนกนางแอ่นบินสามตัว พร้อมทั้งระบุชัดเจนว่าเป็นเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูป ส่วนผสมก็บอกว่าเป็นน้ำ 50% วุ้น 40% รังนกแห้ง 5% ถือว่าระบุไว้สูงกว่ารังนกแท้ทั่วไปที่จำหน่ายตามท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบุข้างขวดว่า มีเพียงประมาณ 1% และมีน้ำตาลกรวด 5% รวมทั้งระบุให้เก็บไว้ในอุณหภูมิ 1-4 องศาเซลเซียสด้วย