ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ข่าวดีผู้หญิงมีปัญหาเส้นรอบเอวหนาและสัดส่วนผิดรูป คณะเภสัชศาสตร์ มข.วิจัยและผลิตครีมนวดสลายเซลลูไลต์สำเร็จ ส่วนผสมล้วนเป็นสารสกัดจากสมุนไพรใช้แล้วไม่มีผลข้างเคียง เผยนวดติดต่อ 4 สัปดาห์เห็นผล หลังหยุดใช้เซลลูไลต์ไม่หวนกลับมาอีก
ที่ห้องประชุมสิริคุณากร 4 ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัย ขอนแก่น (มข.) มหาวิทยาลัยขอนแก่นจัดแถลงข่าวนักวิจัย มข.พบสื่อมวลชน โดยแนะนำ “ผลิตภัณฑ์สำหรับนวดสลายเซลลูไลต์” ซึ่งเป็นผลงานวิจัยที่มี รศ.ดร.วัชรี คุณกิตติ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มข.เป็นหัวหน้าทีมผู้ศึกษาวิจัย
รศ.ดร.วัชรีกล่าวว่า กว่าร้อยละ 80 ของผู้หญิงทุกเชื้อชาติประสบปัญหาเซลลูไลต์ คือผิวหนังที่มีลักษณะขรุขระ เป็นก้อนนูนคล้ายผิวเปลือกส้ม ซึ่งจัดเป็นความผิดปกติของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง บริเวณที่มีการสะสมของเซลลูไลต์มากคือบริเวณต้นขา ต้นแขน หน้าท้องรอบเอวและสะโพก เซลลูไลต์พบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน และมักเกิดกับหญิงชาวยุโรปมากกว่าหญิงเอเชีย แม้เซลลูไลต์ไม่ใช่การเจ็บป่วย ไม่ก่อให้เกิดโรคร้าย
แต่เป็นภาวะที่มีผลต่อจิตใจทำให้เกิดความกังวล รู้สึกไม่มั่นใจและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ ปัญหาการเกิดเซลลูไลต์ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่รับอิทธิพลของแฟชั่น การแต่งกายที่สวมใส่เสื้อผ้าแบบเปิดเผยผิวหนังมากขึ้น เกิดการเปรียบเทียบรูปร่าง ปัญหาการมีเซลลูไลต์จะทำให้ผู้หญิงขาดความมั่นใจในการแต่งกาย บุคลิกภาพ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาหรือกำจัดเซลลูไลต์วิธีใดที่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าสามารถลดหรือกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ วิธีการรักษาเซลลูไลต์ที่มีใช้ปัจจุบันทั้งการรักษาโดยการควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดเซลลูไลต์ ได้แก่ พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การลดความเครียด และการรักษาโดยใช้การนวดด้วยมือและด้วยเครื่องมือ รวมถึงการใช้ยาหรือสารที่มีฤทธิ์เภสัชวิทยาที่อยู่ในรูปผลิตภัณฑ์สำหรับทา ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือเจล ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจากไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น สะดวกสามารถใช้เองได้
รศ.ดร.วัชรีกล่าวต่อว่า จากกรณีปัญหาเซลลูไลต์ดังกล่าว ตนและทีมนักวิจัยจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับนวดสลายเซลลูไลต์ (KKU Anticellulite Massage Cream) โดยการศึกษาวิจัยได้นำเอาสารสกัดสมุนไพร เช่น กาแฟ ขิง น้ำมันตะไคร้ ฯลฯ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อบรรเทาอาการเซลลูไลต์ เมื่อใช้ร่วมกับกรรมวิธี เช่น การนวด อัลตราซาวนด์ความถี่วิทยุในช่วงคลื่นวิทยุ เป็นต้น มานำส่งสารสมุนไพรที่สามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมันในชั้นผิวหนัง ทำให้ผนังของเซลล์ไขมันแตก เพิ่มการไหลเวียนของระบบเลือดที่ผิวหนัง อันส่งผลให้ชั้นไขมันไม่เป็นคลื่น มีความเรียบเนียนและความหนาของชั้นไขมันลดลง
นอกจากนี้ สารสกัดสมุนไพรยังช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกผ่อนคลายและยังสามารถเพิ่มมูลค่าสมุนไพร ตลอดจนการนำมาใช้ในเชิงพานิชย์ได้อีกด้วย
รศ.ดร.วัชรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการทำวิจัยในอาสาสมัครจำนวน 40 คน โดยการทดสอบเปรียบเทียบกับวิธีลดเซลลูไลต์มาตรฐานด้วยการใช้เครื่องกำเนิดความถี่วิทยุ กลุ่มละ 20 คน จากผลการทดสอบพบว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ลดเซลลูไลต์ตามการประดิษฐ์นี้สามารถลดเส้นรอบเอว และปรับรูปร่างของอาสาสมัครได้มากกว่าวิธีมาตรฐาน
นอกจากนี้ เมื่อหยุดใช้ 2 อาทิตย์ เส้นรอบเอวยังมีขนาดเล็กกว่าก่อนทำการทดสอบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แม้ว่าการใช้วิธีลดเซลลูไลต์มาตรฐานโดยใช้เครื่องกำเนิดความถี่วิทยุจะสามารถลดขนาดเส้นรอบเอวได้มากกว่าก่อนทำการทดสอบอย่างมีนัยสำคัญ แต่หลังจากงดการทดสอบ 2 สัปดาห์ ขนาดของเส้นรอบเอวจะไม่แตกต่างกันทางสถิติจากก่อนการทดสอบ
“ผลิตภัณฑ์สำหรับนวดสลายเซลลูไลต์ที่เราศึกษาวิจัยดังกล่าว ขณะนี้ได้ผลิตและจำหน่ายในวงจำกัดอยู่ เช่น วางขายที่สำนักงานอุทยานวิทยาศาสตร์ ตึกเพียรวิจิตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มข. และที่ศูนย์บริการนวดสุขภาพแบบองค์รวมของคณะเภสัชศาสตร์ ส่วนการนำไปพัฒนาเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์นั้นอยู่ในขั้นตอนประสานงานกับบริษัทเอกชนที่สนใจจะซื้อสิทธิ์พัฒนา” รศ.ดร.วัชรีกล่าว