ฉะเชิงเทรา - วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา ตั้งโต๊ะชี้แจงหลังถูกแม่ค้ารุมคัดค้านการก่อสร้างกำแพงล้อมวัด หวั่นทำการค้าขายสะดุด ขณะทางวัดอ้างเพื่อจัดโซนนิ่งให้เป็นระเบียบ
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่บริเวณห้องโถงอเนกประสงค์ใต้อาคารจอดรถ 5 ชั้น หน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พระราชมงคลรังสี เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร พร้อมด้วยคณะผู้ช่วยเจ้าอาวาส ที่เกี่ยวข้องรวม 3 รูป และฝ่ายฆราวาสผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ในฐานะกรรมการวัดด้านการออกแบบให้เป็นไปตามกฎของเทศบาล และความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ต.อ.สนั่น บุญเผื่อน ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นายวิสิทธิ์ สินลือนาม นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา นายธีระ พรชูตรง ป้องกันจังหวัด และไวยาวัจกรวัด นำโดย นายวันชัย แสนเจริญ ได้ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงเพื่อชี้แจงต่อชาวบ้านผู้มีอาชีพเป็นแม่ค้าขายอยู่รายรอบวัดถึงกรณีการเตรียมปรับภูมิทัศน์สร้างกำแพงกั้นบริเวณโดยรอบที่ดินทุกแปลงของทางวัด ซึ่งกำลังเป็นปัญหาที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่อาศัยทำมาหากินอยู่ภายในวัดไม่พอใจ และเตรียมที่จะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการดังกล่าว
การออกมาเคลื่อนไหวนั้น เพราะหวั่นเกรงว่าจะทำให้การค้าขายเป็นไปอย่างไม่สะดวก หรือทำกินไม่ได้ โดยมีชาวบ้านเดินทางมาร่วมรับฟังเป็นจำนวนมากกว่า 300 คนจนเต็มแน่นห้องประชุม โดยพระราชมงคลรังสี แถลงแจ้งต่อชาวบ้านว่า วัดจะทำกำแพงกั้นในเขตที่ดินของทางวัด เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และรักษาสิทธิของวัด โดยจะกั้นแนวรั้วตลอดแนวเขตของถนนบริเวณหน้าวัด และจะเว้นทางเข้าออกไว้ให้ผู้ที่มีบ้านเรือน หรือร้านค้า (แบบร้านถาวร) ที่อยู่หน้าที่ดินของวัดให้เข้าออกได้ตามเดิม
เมื่อกั้นแนวรั้วเสร็จแล้ว ทางวัดก็จะให้แม่ค้าแผงลอยตั้งร้านค้าขายตามเดิมไปก่อน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือสร้างอาคารถาวรให้ค้าขายเพื่อความเป็นระเบียบและระหว่างนี้ ยังให้ร้านค้าขายได้ไปก่อนแต่ต้องอยู่ภายใต้คณะกรรมการจัดให้ จนกว่าทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา และผังเมืองจะออกแบบแนวการก่อสร้างรั้วให้เสร็จเรียบร้อย จึงจะดำเนินการก่อสร้างต่อไป
พระราชมงคลรังสี กล่าวว่า หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะให้ร้านค้าทั้งหมดตั้งอยู่ในกำแพงไม่ให้ออกมายังด้านนอกฟุตปาธกีดขวางเส้นทางการสัญจร และผิดกฎหมายจราจร โดยการข้ามถนนหน้าวัดนั้นทางวัดจะทำทางข้าม ทางม้าลายไว้ให้เป็นจุดข้ามเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ที่ดินของทางวัดทุกแปลงทางวัดจะทำกำแพงกั้นเพื่อให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎของมหาเถรสมาคม และกฎหมายบ้านเมือง จึงขอแจ้งให้ผู้ที่มีที่ดินติดกับทางวัด พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนทั่วไปรับทราบนโยบายของทางวัดโดยทั่วกัน
ส่วนเหตุผลที่ทางวัดต้องดำเนินการนั้น เพื่อจะจัดทำให้วัดโสธรฯ เจริญงดงามเป็นศักดิ์ศรีแก่เมืองฉะเชิงเทรา และประเทศชาติด้วยเหตุที่องค์หลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ มีคนจากทั่วทุกสารทิศเข้ามากราบไหว้ รวมทั้งชาวต่างชาติก็มาด้วย ทางวัดจึงจำเป็นที่จะต้องทำให้สถานที่งดงาม และเหมาะสม มีความเป็นระเบียบ โดยเฉพาะในวันที่ 24 ส.ค.55 นี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ จะเสด็จมาที่วัดเพื่อร่วมงานพุทธาภิเษกการจัดสร้างวัตถุมงคล “เบญจนวมงคล” จึงขอให้ร่วมกันรับเสด็จโดยพร้อมเพรียงกัน และช่วยเก็บกวาดร้านค้าขายให้มีความเรียบร้อย
ขณะที่ฝ่ายพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากได้แสดงความไม่พอใจ และยื่นกระทู้ซักถามสดต่อข้อข้องใจโต้แย้งอย่างมากมาย โดยเฉพาะประเด็นที่สอบถามเกี่ยวกับว่าหากมีการปิดกั้นแนวรั้วกำแพงแล้ว จะทำให้ชาวบ้านทำการค้าขายไม่ได้ เพราะจะไม่มีผู้คนเดินผ่านร้านค้า รวมถึงจะเป็นอุปสรรคในการเดินสัญจรระหว่างพ่อค้าแม่ค้า และผู้ที่เดินทางมา พร้อมทั้งยังร้องขอว่า หากทางวัดจะดำเนินการปรับปรุงสิ่งใดก็ขอให้แจ้งให้แก่ทางร้านค้า และชาวบ้านทราบถึงรายละเอียดและรูปแบบในการปรับปรุงด้วย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันได้ เพราะที่ผ่านมา ทางวัดยังไม่เคยแสดงรูปแบบ หรือแจ้งรายละเอียดในการที่จะปรับปรุงภูมิทัศน์ หรือการสร้างรั้วกำแพงให้แก่ทางชาวบ้านทราบมาก่อน
บรรยากาศในการชี้แจง เกิดข้อโต้แย้งซักถามสืบเนื่องลามต่อไปอีกในหลายประเด็น จนสุดท้าย นายกลยุทธ ฉายแสง ได้เสนอแนะในการหาข้อยุติของปัญหาให้จบไปก่อนว่าในการปรับปรุงภูมิทัศน์ อาณาบริเวณโดยรอบวัดในครั้งนี้จะขอให้เป็นการปรับปรุงเป็นการชั่วคราว เพื่อรอรับเสด็จฯ ให้ผ่านไปก่อน จนกว่าจะมีการออกแบบการก่อสร้างแนวรั้วจากทางเทศบาลฯ และสำนักงานโยธาฯ จังหวัด แล้วเสร็จ และจะนำมาชี้แจงให้แก่ทางชาวบ้านรับทราบ โดยขณะนี้ จะขอให้ทางแม่ค้าพ่อค้าได้ทำการค้าขายประกอบอาชีพไปก่อน หลังจากนั้น การตอบข้อซักถามจึงสามารถหาข้อยุติลงได้ และจบการประชุมชี้แจงลงด้วยดีในที่สุด
ด้านนายวันชัย แสนเจริญ กล่าวว่า ปัจจุบัน มีผู้คนเดินทางเข้ามายังวัดโสธรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะวันหยุด ทำให้ถนนหน้าวัดการจราจรมีรถติดขัดอย่างหนัก และลุกลามยาวต่อเนื่องไปยังถนนหลายสายนับ 10 กม. สาเหตุมาจากคนเดินข้ามถนนไม่เป็นระเบียบ พ่อค้าแม่ค้าตั้งวางสิ่งของรุกล้ำเส้นทางการสัญจร ทางวัดจึงจำเป็นต้องทำการปรับภูมิทัศน์ และก่อสร้างแนวรั้วกั้นแบ่งเขตของวัด และถนนอย่างชัดเจน โดยรั้วที่สร้างจะเป็นลักษณะคล้ายรั้วกั้นริมขอบฟุตปาธในกรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้คนวิ่งข้ามไปมา และเสี่ยงอันตราย รวมถึงยังทำให้รถที่กำลังสัญจรผ่านติดขัดด้วย
สำหรับปัญหาข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นจนลามไปถึงประเด็นของการเรียกเก็บค่าเช่าที่ค้าขายของทางวัดนั้น ทางวัดโสธรไม่เคยเรียกเก็บค่าเช่าที่เกินกว่าที่เคยตกลงกันไว้ตั้งแต่ในสมัยอดีตเมื่อครั้งคนรุ่นเก่าก่อน ที่ทางวัดรับจะเลี้ยงดูลูกหลานโดยรอบวัดด้วยการเก็บค่าเช่าแผงจากแม่ค้า พ่อค้าเพียงเดือนละ 1 บาท หรือปีละ 12 บาท เท่านั้น นอกจากนี้ งานบุญใหญ่ประจำปีของทางวัดที่จะจัดขึ้นเป็นประจำในทุกปี รวม 3 ครั้ง คือ งานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธร ช่วงกลางเดือน 12 งานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธร ในเทศกาลตรุษจีน และงานเทศกาลเดือน 5 ช่วงวันสงกรานต์นั้น นายวันชัย กล่าวต่อไปว่า ทางวัดจะจัดเก็บค่าบูรณะวัดรวม 2 ครั้ง เป็นเงิน 1 พันบาท จากแม่ค้าจากการจัดงานตลอด 5 วัน ใน 2 เทศกาล คือ ช่วงตรุษจีน และงานกลางเดือน 12 ซึ่งเมื่อคิดเฉลี่ยรายวันแล้วจะตกเพียงวันละ 100 บาทเป็นค่าแผงเฉพาะช่วงในงานเทศกาล รวม 10 วัน ส่วนงานเทศกาลกลางเดือน 5 ที่จัดขึ้นเพียง 3 วันนั้น ไม่ได้มีการเรียกจัดเก็บแต่อย่างใด