กทม.หวั่นเกิดอุบัติเหตุแบบนักร้องสาวหล่อ “ซี-มัฑณาวี” สั่งซ่อมแนวลวดสลิงเกาะกลางถนนตลอดเส้นทางบีทีเอส หลังใช้นานจนเสื่อมสภาพ และถูกทำลายจากผู้ชุมนุมทางการเมือง มั่นใจเสร็จก่อน 5 ธ.ค.นี้ พร้อมรณรงค์ ปชช.มีวินัยในการใช้ถนน
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจแนวลวดสลิง กันคนข้ามถนนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส บริเวณถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่แยกปทุมวัน ถึงแยกราชประสงค์ ว่า ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เพื่อตรวจดูแนวลวดสลิงบนเกาะกลางถนนที่ขึงกั้นไม่ให้คนข้ามในบริเวณที่ไม่ใช่ทางม้าลาย ซึ่งขณะนี้แนวลวดสลิงได้รับความเสียหายและถูกทำลายจากการชุมนุมทางการเมือง อีกทั้งที่ผ่านมา ได้มีศิลปินประสบอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าว ขณะที่ลวดสลิงได้เสื่อมสภาพและขึ้นสนิมเสียหาย โดยปกติอายุการใช้งานของลวดสลิงจะอยู่ประมาณ 10 ปี ซึ่งแนวลวดสลิงได้ติดตั้งตั้งแต่ปี 2542 รวมระยะเวลา 13 ปี โดยตนได้มอบหมายให้ สจส.ดำเนินการตลอดทั้งเส้นทางใต้บีทีเอสให้เสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2555 ทั้งนี้ ถนนบริเวณดังกล่าวจะเป็นช่องสำหรับรถโดยสารประจำทาง มีรถวิ่งทั้งซ้ายและขวา จึงได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนคนข้ามถนน ให้มองขวาและซ้ายทุกครั้งก่อนข้ามถนน
นอกจากนี้ กทม.ยังได้รณรงค์โครงการ “สร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ชวนคนกรุงร่วมใจรักษ์วินัยจราจร” ซึ่งนอกจากการขับรถไม่ปาดหน้า ไม่ฝ่าไฟแดงแล้ว ยังรวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนมีวินัย ในการข้ามถนนอย่างปลอดภัย โดยข้ามถนนบริเวณทางข้ามหรือสะพานลอย เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจแนวลวดสลิง กันคนข้ามถนนตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส บริเวณถนนพระรามที่ 1 ตั้งแต่แยกปทุมวัน ถึงแยกราชประสงค์ ว่า ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เพื่อตรวจดูแนวลวดสลิงบนเกาะกลางถนนที่ขึงกั้นไม่ให้คนข้ามในบริเวณที่ไม่ใช่ทางม้าลาย ซึ่งขณะนี้แนวลวดสลิงได้รับความเสียหายและถูกทำลายจากการชุมนุมทางการเมือง อีกทั้งที่ผ่านมา ได้มีศิลปินประสบอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าว ขณะที่ลวดสลิงได้เสื่อมสภาพและขึ้นสนิมเสียหาย โดยปกติอายุการใช้งานของลวดสลิงจะอยู่ประมาณ 10 ปี ซึ่งแนวลวดสลิงได้ติดตั้งตั้งแต่ปี 2542 รวมระยะเวลา 13 ปี โดยตนได้มอบหมายให้ สจส.ดำเนินการตลอดทั้งเส้นทางใต้บีทีเอสให้เสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2555 ทั้งนี้ ถนนบริเวณดังกล่าวจะเป็นช่องสำหรับรถโดยสารประจำทาง มีรถวิ่งทั้งซ้ายและขวา จึงได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนคนข้ามถนน ให้มองขวาและซ้ายทุกครั้งก่อนข้ามถนน
นอกจากนี้ กทม.ยังได้รณรงค์โครงการ “สร้างจิตสำนึกและพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ชวนคนกรุงร่วมใจรักษ์วินัยจราจร” ซึ่งนอกจากการขับรถไม่ปาดหน้า ไม่ฝ่าไฟแดงแล้ว ยังรวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนมีวินัย ในการข้ามถนนอย่างปลอดภัย โดยข้ามถนนบริเวณทางข้ามหรือสะพานลอย เพื่อความปลอดภัยของตนเอง
