xs
xsm
sm
md
lg

มอดไม้ “นครไทย” สุดเหิม! ระดมชาวบ้านล้อม จนท.ป่าไม้ ขวางยึดรถไถ-จับไม้เถื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - แก๊งมอดไม้ “นครไทย”โผล่อีกแล้ว! คราวนี้ระดมชาวบ้านกว่า 80 คน ปิดล้อม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯไม่ยอมให้ยึดรถไถ และไม้ 7 ท่อน ที่ตัดจากป่าสงวนฯ อ้างจะเอาไปทำศาลาวัด พบนายก อบต.บ่อโพธิ์ และอีก 3 ผู้ใหญ่อยู่ในกลุ่มด้วย แถมขอ “ส.ส.นคร มาฉิม” โทรเคลียร์ผู้ใหญ่ในสำนักป่าไม้ที่ 4 และสำนักอนุรักษ์ 11 ด้วย

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า วันนี้ (16 ส.ค.55) หลังนายธนัช เนมีย์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก ,นายอดิเรก อินใจ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนัก 4 (พิษณุโลก) และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ สืบทราบว่า มีขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า จึงเรียกกำลังป่าไม้ข้างเคียงจากหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ชป.พิเศษที่ 1 กรมอุทยานฯ หน่วยป้องกันและรักษาป่า พล.11 (น้ำเลา) พล.7 (บ้านแยง) พล.3 (หนองกะท้าว) รวมประมาณ 25-30 นาย เดินทางไปตรวจสอบ-จับกุมผู้กระทำผิดทันที เนื่องจากมีข่าวว่า มีการชักลากไม้ออกจากในเขตป่าสงวนฯ บริเวณป่าห้วยแหลม ท้ายหมู่บ้าน โคกคล้าย หมู่ 7 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย บ่อยครั้ง

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบชายฉกรรจ์ 5 คน ใช้รถไถจำนวน 1 คัน ชักลากไม้ บริเวณพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีไม้ถูกตัดแล้ว จำนวน 7 ท่อน จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ 1 ใน กลุ่มผู้ต้องหา กลับใช้โทรศัพท์ โทร.เรียกชาวบ้าน-ผู้นำหมู่บ้าน เข้ามาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายบรรจง ทับทิมจันทร์ (ผู้ใหญ่หลอ) เรียกให้ชาวบ้าน ขัดขวางไม่ให้ จนท.นำตัวผู้ต้องหา และไม้ ออกนอกพื้นที่ โดยอ้างว่า จะนำไม้ทั้ง 7 ท่อนไปทำศาลาวัด

จนทำให้มีการปะทะคารมกัน ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้-ชาวบ้าน อย่างไรก็ตามทาง จนท.พยายามเกลี้ยงกล่อมว่า การลักลอบตัดไม้มีความผิดต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ยินยอม พร้อมชักจูงชาวบ้านทั้ง 80 คนให้ปิดถนน ที่เป็นเส้นทางเดินป่า ไม่ให้มีการนำรถไถ - ไม้พร้อมผู้ต้องหาออกนอกพื้นที่ ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯทั้งหมด ทำได้เพียงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน แต่ไม่สามารถนำผู้ต้องหาและไม้ของกลางออกนอกพื้นที่ได้ในวันนี้

จากนั้นเจ้าหน้าทีป่าไม้ ได้ทำบันทึกตรวจยึด และแจ้งความดำเนินคดี ปจว.ข้อ 1 คดีอาญา 321/2555 ลงวันที่ 16 ส.ค.55 เพื่อให้ พ.ต.ท.นฤนาจ บุญจวง พงส.2 สภ.นครไทย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตามบันทึกประจำวันระบุว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาถึงพบ รถไถ ล้อยาง 4 wd พร้อมไม้กระยาเลยท่อน 7 ท่อน ปริมาณ 2.40 ลูกบาศก์เมตร มีชายทั้ง 5 คน คือ 1.นายเสิญ พรมรักษา อายุ53 ปี 37 หมู่ 11 ต.บ่อโพธิ์ อ.นคไทย 2.นายจีระนัน เย็นขัน อายุ 34 ปี 35/2 หมู่ 11 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย 3.นายสมคิด เย็นขัน อายุ 50 ปี 60 หมู่ 11 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย 4.นายสมศักดิ์ กองเงิน อายุ 35 ปี 130 หมู่ 130 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย 5.นายสมทรวง นนทโคตร อายุ 49 ปี 99 หมู่ 11 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย

จากนั้นคนในกลุ่มที่มารวมตัวปิดขวางเส้นทาง คือ นายสมพงษ์ คอกคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อโพธิ์ ,นายบรรจง ทับทิมจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านโคกเนินทอง หมู่ 11 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย ,นางกิ่งไผ่ หุมเพียง ผู้ใหญ่บ้านเนินสวรรค์ หมู่ 6 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย ,นายบุญล้ำ ทิพโสต ผู้ใหญ่บ้านโคกคล้ายหมู่ 7 ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย รวมอยู่กับชาวบ้านที่มาปิดขวางเส้นทางไม่ให้เจ้าหน้าปฏิบัติงานตามหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องล่าถอยในที่สุด

จึงแจ้งให้ พงส. สภ.นครไทย ดำเนินคดี 5 บุคคล ข้างต้น ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ร่วมกันทำไม้ โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรรา 69 มีไม้ไว้ในครองครอง โดยยังมิได้แปรรูป และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ยึดถือครอบครอง ร่วมกันทำไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ ยังแจ้งให้พงส. สภ.นครไทย ดำเนินคดีบุคคล(นายก อบต.และผู้ใหญบ้านและลูกบ้าน) ที่ปรากฏดังภาพ ตามกฎหมาย พิจารณาความอาญา (1) มาตรา 138 ฐานผู้ใด ต่อสู้และขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ มาตรา 139 ฐาน ผู้ใด ข่มขืนใจ เจ้าพนักงานในการปฏิบัติงานโดยมิชอบด้วยหน้าที่ ให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือข่อเข็ญว่า จะใช้กำลังประทุษร้าย

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ ก็ยังไม่สามารถยึดหรือชักลากไม้จำนวน 7 ท่อนออกมา เนื่องจากเกรงมวลชนปะทะ อีกทั้งรถไถ ที่ใช้กระทำความผิด พร้อมกับชายทั้ง 5 คน ก็ต้องปล่อยไป ไม่ได้ยึดแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ชาวบ้านปิดถนนล้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ อ.นครไทย ผู้นำชาวบ้านได้โทรศัพท์หานายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อช่วยในคดีดังกล่าว จากนั้นทราบว่า นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก ได้โทรศัพท์หาผู้ใหญ่ที่สำนักงานป่าไม้ แต่ได้รับคำตอบว่า เรื่องอยู่ที่ สภ.นครไทย แล้ว และให้เป็นไปตามกฎหมาย









กำลังโหลดความคิดเห็น