อุตรดิตถ์ - แก๊งไม้เถื่อนเมืองลับแลเหิมหนัก นำช้างเข้าชักลากไม้จากป่าอุตรดิตถ์อย่างโจ๋งครึ่ม แม้เจอทหารทัพภาค 3-ป่าไม้ และตำรวจภาค 6 สนธิกำลังบุกจับไม้และช้างได้ 2 เชือก แต่เจ้าของช้างกลับแอบปลดโซ่พร้อมยิงปืนให้ช้างตื่นวิ่งหนีไปได้ 1 เชือก ส่วนอีกเชือกต้องขอควาญจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ จับส่งศูนย์ช้างลำปาง
รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์แจ้งว่า เจ้าหน้าที่-ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ ต้องใช้ยาสลบยิงใส่ช้างของขบวนการลอบทำไม้เถื่อนอุตรดิตถ์ เพื่อควบคุมความดุร้าย ก่อนที่จะนำช้างขึ้นรถบรรทุกส่งไปยังสถาบันคชบาลฯ ที่จังหวัดลำปางต่อไป ซึ่งช้างเชือกดังกล่าวเป็นช้างของขบวนการลักลอบทำไม้เถื่อนที่นำเข้าไปชักลากไม้ที่ลักลอบตัดจากผืนป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำชำนาค หมู่ที่ 2 ตำบลนาอิน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์
ทั้งนี้ พ.อ.บุญประสิทธิ์ มีสะอาด รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ (รอง ผอ.รมน.จังหวัดอุตรดิตถ์-ฝ่ายทหาร) ได้รับการประสานจากกองทัพภาค 3 (ม.พัน.9) ที่ติดตามพฤติกรรมของขบวนการทำไม้เถื่อนนี้มานาน ก่อนมอบหมายให้ พ.ต.นิพนธ์ แก้วบัวระบัด ทหาร กอ.รมน.จังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์, นายพัฒนศักดิ์ ภูมิประภาศ หัวหน้าสายตรวจปราบปราม สำนักที่ 11 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ ร.ต.ท.ภัทรพันธ์ พูลทวี รอง.สว.กก.สส.3 บก.ภ.6, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเข้าร่วมกันจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ขณะเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้เข้าพื้นที่เมื่อ 3 ส.ค. 55 พบเห็นช้างกำลังชักลากไม้อยู่ 1 เชือก เมื่อเข้าไปถึงก็ไม่พบตัวเจ้าของช้าง พบแต่ช้างถูกผูกมัดติดไว้กับต้นไม้ คาดว่าเจ้าของช้างเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้นำช้างไปผูกไว้แล้วรีบหลบหนีไป
จากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียง พบกองไม้กระยาเลย 14 ท่อน ยาว 6-10 เมตร เส้นรอบวงประมาณ 60-80 เซนติเมตร และยังพบร่องลอยชักลากไม้จากบนเขาลงมา เปลือกไม้ที่หลุดติดอยู่กับโขดหินยังสดๆ อยู่ ห่างไปอีก 100 เมตร พบช้างอีกเชือกผูกติดกับต้นไม้ไว้เช่นกันต่อมาจนเวลาค่ำ เจ้าหน้าที่ได้นำรถเข้ามาขนไม้ของกลาง เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาอิน จ.อุตรดิตถ์ เมื่อช้างที่อยู่ใกล้ๆเห็นแสงไฟ และเห็นคนเป็นจำนวนมาก ก็แสดงอาการดุร้ายออกมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระวังตัว เกรงว่าช้างจะหลุดออกมาทำร้าย พร้อมกับพยายามให้ควาญช้าง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ด้วยกันจับส่งศูนย์ช้างลำปาง แต่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ช้างได้เนื่องจากดุร้ายมาก ประกอบกับเป็นเวลากลางคืน จึงต้องรอรุ่งเช้าวันต่อมาจึงจะเข้าใกล้ได้
โดยในคืนวันที่ 3 ส.ค. 55 นั้น ต้องส่งกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าช้างทั้ง 2 เชือกตลอดคืนเกรงว่าเจ้าของช้างจะลักลอบเข้ามานำช้างหนี ซึ่งช้างเชือกแรกนั้นทราบว่าเป็นของนายดำ บ้านอยู่ที่ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย มีนายรุ่ง น้องชายนำมารับจ้างชักลากไม้ ส่วนอีกเชือกเป็นของนายชาติ บ้านอยู่ที่ตำบลนาอิน ใกล้ที่เกิดเหตุ และเป็นช้างเชือกที่เจ้าหน้าที่ทหารตามมาจากเขตตำบลคันโซ้ง อำเภอวัดโบสถ์ และไม่เคยถูกจับ เพราะจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยทุกเดือน
ต่อมาในช่วงเที่ยงเศษของวานนี้ (4 ส.ค.) ปรากฏว่า นายชาติใช้ช่วงเวลาขณะเจ้าหน้าที่กำลังสาระวนกับการจับช้างอีกเชือก (ช้างของนายดำ) เพื่อจะนำขึ้นรถ ลอบเข้าไปแอบปลดโซ่ที่ผูกช้างไว้ออกแล้วยิงปืนไล่เพื่อให้ช้างหลบหนีไปได้
