xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” นั่งหัวโต๊ะถกศูนย์แก้ปัญหาใต้นัดแรก 8 ส.ค. วางแผนปฏิบัติการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา (แฟ้มภาพ)
“ยุทธศักดิ์” เผย “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” นัดประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาภาคใต้ตัดแรก 8 ส.ค.นี้ เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการ ลดช่องว่างให้กระชับมากขึ้น เผยนายกฯ สั่งรัฐมนตรี 17 กระทรวงที่ของบฯ ต้องลงไปทำงาน ห้ามแปลงงบฯ ไปใช้อย่างอื่น “สุกำพล” ชี้การประกาศเคอร์ฟิว ควรให้แม่ทัพภาคที่ 4 ประเมิน ยันกองทัพอากาศพร้อมส่งเครื่องบินร่วมปฏิบัติการภาคใต้


พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวว่า ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมเชิงปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งแรกภายหลังตั้งศูนย์ปฏิบัติการขึ้นมาเพื่อเสนอแผนการปฏิบัติการว่าจะดำเนินงานอย่างไร โดยทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จะเป็นผู้ร่างแผนร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อนส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.รมน.พิจารณาเป็นรูปร่างในลักษณะแผ่นชาร์ต ถึงแผนการปฏิบัติงานเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นว่า อะไรที่ยังเป็นจุดโหว่ หรือช่องว่าง ก็จะสั่งการให้กำชับมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งต่อไปนายกฯจะเป็นผู้สั่งการเอง

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้จะเชิญฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการ นายอำเภอ ศอ.บต. และรัฐมนตรีทั้ง 17 กระทรวงที่เกี่ยวข้องที่ต้องลงไปทำงานในพื้นที่ในระดับ ศอ.บต. โดยรัฐมนตรี 17 กระทรวงต้องเข้าร่วมประชุมหรืออาจจะส่งตัวแทนที่ลงไปทำงานในพื้นที่เข้าร่วมประชุม เพื่อประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการทั้งในส่วนกลาง และ ส่วนภูมิภาค

ทั้งนี้ ปัจจุบันต้องยอมรับความจริงว่าไม่มีตัวแทนจาก 17 กระทรวงลงไปทำงาน ต่อไปนี้ต้องมีทั้งในระดับนักการเมือง ข้าราชการลงไปทำงาน นายกฯ สั่งการว่าต่อไปต้องมีรัฐมนตรี หรือตัวแทนของกระทรวงที่เกี่ยวข้องลงไปทำงานจริงๆ

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้เป็นเพียงแนวความคิดเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ อาจจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกบ้างในการสัญจรไปมา แต่ทั้งนี้อาจจะเป็นเพียงบางจุด หรือเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งเท่านั้น เป็นเพียงแนวความคิดว่าจะประกาศใช้หรือไม่ ไม่ใช่ครอบคลุมไปทุกพื้นที่หรือทั้งจังหวัด ส่วนจะประกาศใช้หรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกองทัพภาคที่ 4 จะเป็นผู้พิจารณาถึงความจำเป็นเท่านั้น ซึ่งเป็นอำนาจของแม่ทัพภาคที่ 4

“”ก่นประกาศใช้เคอร์ฟิวก็ต้องแจ้งให้ศูนย์ปฏิบัติการฯ รับทราบด้วยว่าจะประกาศเป็นจุดๆช่วงเวลาไหน และต้องระบุให้ชัดเจนเป็นช่วงๆ รวมถึงจะประกาศเมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทำการเคลื่อนย้ายได้สะดวก สำหรับช่วงกลางวันประชาชนสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ไม่เป็นปัญหา”

พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า หลังการประชุมเชิงปฏิบัติการฯแล้วทุกอย่างน่าจะดีขึ้น เพราะรัฐมนตรีทุกกระทรวงจะได้รับทราบนโยบายในการทำงานภาคใต้ รวมถึงการประสานงานกับ ศอ.บต.ในแง่การทำงานร่วมกัน เพราะงบประมาณที่ขอไปจะได้รู้ว่าทำอะไรไปบ้างอย่างไร รวมถึงจะมีการประเมินค่าการทำงานในแต่ละกระทรวง

“การประชุมครั้งนี้จะเน้นเรื่องนโยบาย และงานด้านพัฒนาสังคม ความเสมอภาค การใช้งบประมาณของหน่วยงานต่างๆ ที่ขอกันไป 100 เปอร์เซ็นต์ตามโครงการที่เสนอมา แต่พอปลายปีงบประมาณเหลือก็จะมาขอเปลี่ยนโครงการกันใหม่ ต่อไปนี้จะไม่ได้ ขอให้สำนักงบประมาณเอางบประมาณ ที่เหลือจากโครงการที่เหลือไปจัดหาซื้อกล้องซีซีทีวีเพื่อสนับสนุนนำใช้ในพื้นที่ภาคใต้เพื่อให้งานสามารถเดินไปและบูรณาการมากขึ้น

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ภาคใต้ว่า ในวันที่ 8 ส.ค.นี้จะมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สมช. กองทัพ และกระทรวงต่างๆ โดยจะต้องหารือกันทั้งหมดว่าจะเอาอย่างไร จะเอาก็เอาไม่เอาก็ไม่เอา โดยต้องให้เสรีกับหน่วยปฏิบัติคือ กองทัพภาคที่ 4 ว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่ ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาภาคใต้จะเป็นผู้เสนอแนวความคิดไปเท่านั้น ต้องดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ ต้องดูกฎหมายเป็นหลักถ้าจะทำก็ต้องทำกันเต็มที่คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

ส่วนที่กองทัพอากาศจะส่งเครื่อง AU-23 ลงไปปฏิบัติการในพื้นที่ด้วยนั้นก็เป็นหนึ่งในแผนปฏิบัติการทางยุทธวิธี ซึ่งทางกองทัพอากาศได้วางแผนอยู่ว่าจะสามารถปฏิบัติอย่างไร เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับงบประมาณที่ต้องใช้เช่นกัน อย่างไรก็ตามทราบว่ากองทัพอากาศมีความพร้อม 100%
กำลังโหลดความคิดเห็น