นครปฐม - ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม ชี้ประชาคมอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นอีก 3 ปี นครปฐม จะได้ประโยชน์มากมาย แต่หากรัฐบาลไม่วางแผนจะเสียโอกาสมหาศาล ยอมรับเอกชนกลัวภัยการเมืองมากกว่าภัยธรรมชาติ
นายสมบัติ แจ่มจันทร์เกษม ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ภาคเอกชนหลายภาคส่วนในจังหวัดนครปฐม กำลังจับตา AEC หรือประชาคมเอเซียน ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่ปีนี้ และจังหวัดนครปฐมถือว่าเป็นทางผ่านของเส้นทางสู่ท่าเรือน้ำลึกทวายในประเทศพม่า ซึ่งมีจีนหมายมั่นจะผลักดันสินค้าสู่ตลาดโลก และพลิกโฉมหน้ารูปแบบการค้าการดำรงชีวิตของชุมชนอย่างรวดเร็ว
“ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมกับการรับมือการเปิดตัวประชาคมอาเซียน ทางหอการค้าฯ ได้มีการประชุมร่วมกับจังหวัดนครปฐม และได้เจรจาพูดคุยกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เพื่อเข้าไปสำรวจ และทำวิจัยท่าเรือน้ำลึกในทวายในพม่า และยังได้เข้าสำรวจท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือในภาคใต้ และที่ฮ่องกงเพื่อนำมาประมวลวางแผนในการรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราก็กำลังทำงานร่วมกันของภาคเอกชน กับหน่วยงานต่างๆ” ประธานสภาหอการค้าจังหวัดนครปฐม กล่าว
นายสมบัติกล่าวว่า หากมีการดำเนินการเปิดตัวท่าเรืออย่างเต็มระบบในระยะ 2-3 ปีนี้ ความเจริญจะเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพราะจังหวัดนครปฐมถือว่าเป็นเส้นทางผ่านจากเมืองหลวงไปสู่ท่าเรือ หมายถึง จะมีนักลงทุนจากต่างชาติเดินทางเข้ามาปักหลักในจังหวัดนครปฐมแน่นอน เพราะมีความพร้อมในหลายๆ ด้านโดยธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ จะเติบโตขึ้นแน่นอนอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ จากที่มีการคาดการณ์ ทั้งนี้ อำเภอเมืองนครปฐม จะมีการตื่นตัวกว่าปกติ เพราะประสบการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าพื้นที่เขตอำเภอเมืองนคปฐมจะมีผู้คนโยกย้ายเข้ามามากขึ้น เนื่องจากไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม
“วันนี้จะเห็นได้ชัดเจนแล้วว่า ที่ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี ได้มีการปรับเตรียมที่ดินกว่า 300 ไร่ในการก่อสร้างตลาดไท ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมแหล่งขายผักที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม หรือแม้แต่บริเวณใกล้เคียงกัน ก็ยังจะมีกลุ่มไฮเปอร์มาร์เกต เช่น ห้างเซ็นทรัลก็ได้เตรียมตัวก่อสร้าง ทำให้เห็นชัดว่า หลายแห่งมองเห็นศักยภาพของจังหวัดนครปฐมที่จะเป็นแหล่งทำเงินได้มาก”
ประธานสภาหอการค้าจังหวัดนครปฐมกล่าวอีกว่า แต่ด้วยการมองถึงการเปลี่ยนแปลงที่เห็นอย่างชัดเจนแล้วที่สำคัญ คือ วันนี้เรายังไม่มีแม่งานที่จะจับมือหาแม่งานในการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดอย่างจริงจัง และชัดเจน และยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ แต่ในส่วนของภาคเอกชนนั้น ก็ได้มีการศึกษา และเดินหน้าไปก่อนแล้ว ซึ่งภาคเอกชนดูจะตื่นตัวมากเป็นพิเศษ ซึ่งจังหวัดนครปฐมมีมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง ทั้ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งอยู่ในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่เคยมีหน่วยงานใดมาเป็นแม่งานในการจัดการนำนักวิชาการมาจัดกระบวนการศึกษาด้านต่างๆ ที่เป็นศูนย์กลางเดียว ซึ่งที่ได้คุยกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ได้แสดงความตื่นตัว ในมหาวิทยาลัยได้มีการมุ่งเน้นการสอนภาษา เช่นภาษาอังกฤษ จีน หรือแม้แต่ภาษาในประเทศใกล้เคีย งแต่วันนี้บอกได้เลยว่า ในระดับมัธยมแม้จะมีการเปิดให้เรียนภาษาจีนกันหลายแห่งแล้ว แต่อีก 3 ปีก็ยังไม่สามารถนำมาใช้งานเพื่อประกอบอาชีพได้อย่างจริงจัง จุดนี้ถือว่าเราพลาดไป
“ส่วนความพร้อมในด้านอื่นที่รัฐบาลควรเร่งทำให้ชัดเจน คือ การพัฒนาด้านสาธารณูปโภคที่มีความพร้อม เพราะเส้นทางที่เป็นจุดผ่านเข้าออกสู่ท่าเรือทวายนั้นต้องได้รับการส่งเสริมให้ชัดเจน ซึ่งวันนี้ เราได้มีการประสานทำหนังสือ ผ่านไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้อนุมัติในการเร่งสร้างรถไฟฟ้ามาให้ถึงจังหวัดนคปฐมให้เร็วที่สุด ที่เคยสิ้นสุดที่ตลิ่งชันให้มาถึงศาลายา รวมถึงการสร้างทางยกระดับการก่อสร้างทางลอยฟ้าเชื่อมต่อจากพุทธมณฑลสาย 2 ให้มาสิ้นสุดที่ถนนเพชรเกษม และได้รับการอนุมัติโครงการจาก ครม.มาแล้วกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท”
นายสมบัติ กล่าวว่า ต่อจากนี้อีกไม่นาน ต้องคอยจับตาดูการโยกย้ายถิ่นของภาคการเกษตร เพราะเกษตรกรที่ได้เคยประสบความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมาอาจจะมีการย้ายถิ่นการผลิตออกจากที่ดินเดิม เช่น เกษตรกรที่มีสวนอยู่ในอำเภอสามพราน อาจจะขายที่ดินออก เช่น ใครที่เคยมีที่ดิน 10-20 ไร่ อาจจะขายไร่ละ 2-3 ล้านบาทได้เงินมาก่อนหนึ่ง เพื่อย้ายถิ่นทำกินไปลงทุนใหม่ให้ลดความเสี่ยงของน้ำท่วมไม่ได้หมายถึงทุกเจ้าจะย้ายหมด ส่วนที่ยังคงอยู่ที่เดิม และยังสามารถบริหารจัดการได้ก็จะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เป็นมุมมองที่จะต้องจับตาดูอยู่ไม่น้อย
“จากการดูงานศึกษาจะพบว่า แน่นอนเงินบาทจะเป็นศูนย์กลางในย่านอาเซียน เพราะทั้งลาว พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย ก็ยังนิยมใช้เงินบาทในการติดต่อค้าขาย ส่วนในอนาคตเงินหยวนจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าดอลลาร์สหรัฐ เพราะเงินยูโร ยุโรปก็ยังมีปัญหาฉะนั้น เราต้องศึกษาทิศทางของจีนอยู่ให้มาก และศึกษาร่วมกันถึงการมาถึงของมหาอำนาจซึ่งหากเราตื่นตัวตอนนี้ และเริ่มดำเนินการให้เป็นรูปธรรมเราจะสามารถได้ประโยชน์มากมายกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น แต่หากเราไม่มีแม่งานที่จะลงมาทำข้อมูลในวันนี้ และดำเนินการร่วมกันเป็นแบบแผนทั้งส่วนกลาง และท้องถิ่น เราอาจจะเสียโอกาสไปอีกมากมาย และที่สำคัญ การเมืองต้องนิ่ง อย่าสั่นไหว ผู้นำต้องแข็งแกร่งจึงจะสามารถนำให้เราได้โอกาสตรงนี้ให้มากที่สุด ฉะนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราต้องทำความชัดเจนเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐมกล่าว