ลือสะพัด! “หลวงพ่อคูณ” มรณภาพ แพทย์-ลูกศิษย์ยืนยันอาการดีขึ้น

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์ระบุอาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ดีขึ้นตามลำดับ เป็นไปตามแนวทางการรักษาทุกอย่าง มีเพียงไข้ต่ำๆ อยู่ในเกณฑ์ไม่น่าห่วง แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียชัดเจน เผยสั่งพยาบาลเจาะเลือดตรวจทุกวันเพื่อวัดระดับน้ำตาลและป้องกันปัญหาภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เผยหลังให้ยาปฏิชีวนะครบ 14 วันต้องพักที่ รพ.ต่ออย่างน้อย 1 สัปดาห์ ขณะเกิดข่าวลือสะพัด “หลวงพ่อคูณ” มรณภาพ ลูกศิษย์ใกล้ชิดแจงยืนยันไม่ละสังขาร

วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการโรคหลอดลมอักเสบ และต่อมามีอาการแทรกซ้อนปอดอักเสบ จนคณะแพทย์ต้องทำการเจาะน้ำออกจากปอดตามข่าวที่เสนอไปอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ ก่อนเปิดเผยว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นตามลำดับตามที่คณะแพทย์ได้แนวทางการรักษาไว้ทุกอย่าง สามารถพูดคุยกับลูกศิษย์ แพทย์และพยาบาลได้ตลอดเวลาที่เข้าตรวจหลวงพ่อ และหลวงพ่อมีสีหน้าสดชื่นขึ้น แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

สำหรับอาการไข้ล่าสุดจากการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพบว่าไม่มีไข้ หรือมีแค่ไข้ต่ำๆ เท่านั้น ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าห่วงอะไร ส่วนผลของการเอกซเรย์ปอด ล่าสุดพบว่าปอดหลวงพ่อคูณดีขึ้น ระดับน้ำในปอดหายจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ แต่อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อยังคงต้องรับยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำต่ออีกอย่างน้อย 5-6 วัน หลังจากที่ได้รับยาปฏิชีวนะผ่านมาแล้ว 7-8 วัน ควบคู่กับการเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดและสภาวะการแทรกซ้อนต่างๆ โดยคณะแพทย์ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พยาบาลทำการเจาะเลือดทุกวันเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ตามมา

ดังนั้นจึงทำให้คณะแพทย์ที่ทำการรักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณมีความเห็นตรงกันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษาของหลวงพ่อคูณอย่างแน่นอน และหลังจากที่หลวงพ่อคูณรับยาปฏิชีวนะจนครบ 14 วัน คณะแพทย์ก็จะให้หลวงพ่อคูณพักรักษาร่างกายเพื่อรอดูอาการต่างๆ อีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จึงจะทำการประเมินร่างกายของหลวงพ่อคูณอีกครั้งหนึ่ง

“นอกจากนี้ คณะแพทย์ได้ให้เจ้าหน้าที่บำบัดเข้ามาทำกายภาพบำบัดแขนและขาให้แก่หลวงพ่อคูณ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อและเพื่อให้แขนและขาของหลวงพ่อคูณมีเรี่ยวแรง หลังจากที่หลวงพ่อคูณต้องนอนพักรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน” นพ.พินิศจัยกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายเมื่อวานที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ได้มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ได้ละสังขารหรือมรณภาพแล้วที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 14.00 น.วานนี้ (16 ก.ค.) ซึ่งในเรื่องดังกล่าวทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมายืนยันว่าหลวงพ่อคูณยังพักรักษาอาการอาพาธอยู่ในห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นปกติ และอาการอาพาธดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่ น.ส.จู ปริสุทชาติ หรือ “เจ๊จู” กรรมการวัดบ้านไร่ ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า ข่าวลือไม่เป็นความจริง เป็นข่าวปล่อยที่ไม่เป็นมงคล ตอนนี้หลวงพ่อก็ยังพักรักษาอยู่บนเตียงในห้องผู้ป่วย ท่านยังพูดคุยได้ดี ตนยืนยันว่าหลวงพ่อท่านยังแข็งแรงอยู่ เพียงแต่ว่าในช่วงนี้คณะแพทย์ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเท่านั้นเพราะกลัวว่าท่านจะติดเชื้อซ้ำซ้อนเข้าไปอีก และคณะแพทย์โดยเฉพาะ นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ แจ้งว่า ช่วงนี้ไปสักประมาณ 1 สัปดาห์หลวงพ่อดูดีขึ้นอย่างชัดเจน และฉีดยาปฏิชีวนะครบกำหนดก่อน แล้วจะพิจารณาประเมินกันอีกครั้ง

ในฐานะกรรมการวัดบ้านไร่และลูกศิษย์ใกล้ชิดทุกคนยืนยันว่า หลวงพ่อคูณท่านไม่ได้ละสังขารหรือมรณภาพใดๆ ทั้งสิ้น และมีนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มาเยี่ยมที่บริเวณด้านหน้านอกห้องผู้ป่วยด้วย ลูกศิษย์ใกล้ชิดที่เฝ้าอาการอาพาธอยู่ในห้องก็ได้บอกเรื่องข่าวลือกับหลวงพ่อ ซึ่งท่านก็บอกว่า “เออ ไม่เป็นไร” ทั้งนี้หลวงพ่อท่านพูดคุยรู้เรื่อง จำลูกศิษย์ได้ทุกคน สติสัมปชัญญะท่านยังดีเหมือนเดิม ช่วงนี้แพทย์ให้ยาทำให้ง่วง ต้องพักผ่อนมากๆ

“ข่าวที่ออกมาไม่เป็นมงคลนี้อาจเป็นเพราะหลวงพ่อคูณท่านชราภาพ คนไม่ได้มาเห็นกับตาก็คิดไป และปล่อยข่าวกันไปเรื่อย แล้วก็พูดต่อๆ กันว่าอาพาธเที่ยวนี้หลวงพ่อคงจะแย่อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งก็ไปห้ามเขาไม่ได้ จึงอยากฝากญาติโยมทุกคนที่รักและเคารพหลวงพ่อคูณ ให้ทุกคนช่วยกันสวดมนต์ภาวนาให้หลวงพ่อคูณหายในเร็ววัน เพื่อจะได้เป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยและชาวต่างประเทศทั่วไป ซึ่งหลวงพ่อคูณท่านอายุยืน ท่านไม่เป็นอะไรมาก เรื่องข่าวลือนี้น่าจะเป็นการต่ออายุให้กับหลวงพ่อมากกว่า ” น.ส.จูกล่าว