ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- พบน้ำในเยื่อหุ้มปอด “หลวงพ่อคูณ” พุ่งสูง 300 ซีซี ระดมคณะแพทย์เจาะดูดน้ำออกด่วนพร้อมนำไปตรวจ หวั่นเกิดภาวะแทรกซ้อน แพทย์ระบุน้ำในปอดอยู่ในเกณฑ์ควบคุมได้เกิดจากปอดอักเสบ ยันอาการโดยรวมหลวงพ่อคูณดีขึ้น ตอบสนอง รับรู้ดี แต่ยังมีไข้ต่ำ เผยล่าสุดผลตรวจเลือด-น้ำในปอด และเอกซเรย์-อัลตราซาวนด์ปอดเป็นปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการอาพาธด้วยโรคหลอดลมอักเสบ และเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดอักเสบนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (10 ก.ค.) ทีมแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ประกอบด้วย นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ, นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุกรรมโรคปอด, นพ.ธนากร อนันตเศรษฐกูล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจ, นพ.ชัยวิวัฒน์ ตุงคะเสรีรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมอง, พญ.วิลาวัลย์ แสงศิรินาคะกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมโรคติดเชื้อ, พญ.นิรดา ศิริยากร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ และ นพ.นิพนธ์ ศุภรัตน์ชาติพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางเดินปัสสาวะ รวม 7 คน และทีมพยาบาลอีก 8 คน พร้อมอุปกรณ์การแพทย์จำนวนมากได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณ พร้อมเอกซเรย์ปอด พบว่ามีน้ำในปอดเพิ่มมากขึ้น
จากนั้นจึงได้ทำการผ่าตัดเปิดแผลขนาดเล็กแล้วเจาะเข้าปอดบริเวณด้านหลังขวาเพื่อดูดเอาน้ำออกจากปอด โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในห้องผู้ป่วยอย่างเด็ดขาด พร้อมทำการล็อกประตู โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ กล่าวภายหลังทำการผ่าเจาะเอาน้ำออกจากปอดหลวงพ่อคูณว่า โดยภาพรวมอาการท่านดีขึ้น รู้ตัวดี และเริ่มมีการบ่นเวลาถูกเจาะเลือด อันนี้เป็นปกติของท่าน ไม่เหมือนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาท่านไม่ตอบสนองอะไรเลย แต่วันนี้ยังมีไข้ต่ำ มีเสมหะค่อนข้างมาก คณะแพทย์ได้ตรวจผลเลือดอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีไม่พบมีภาวะแทรกซ้อนในระบบอื่น และทำการเอกซเรย์ซ้ำดูเทียบกับที่เราเอกซเรย์เดิมพบว่ามีน้ำในช่องปอดมากขึ้น
อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ณ เวลานี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงการวินิจฉัยว่าท่านเป็นปอดอักเสบ หรือนีโมเนีย จากการสำลักที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และมีน้ำในช่องปอด ซึ่งก็เจอได้ในคนไข้ที่ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบเนื่องจากเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ เราจึงได้ทำการเจาะน้ำในปอดออกมาตรวจดูและคงต้องรอผลตรวจอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ผลตรวจบางทีอาจจะให้ผลบางอย่างที่ทำให้เราเปลี่ยนแนวทางการรักษาได้เหมือนกัน และผลตรวจมีแล็บหลายตัวที่อาจจะออกในวันนี้ หลายตัวอาจต้องใช้เวลาหลายวัน หรืออาจเป็นเดือน
“อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าอาการอาพาธท่านดีขึ้น เพียงแต่ว่าเราเจอน้ำในช่องปอด ซึ่งไม่ได้อยู่เหนือความคาดคิดของเรา ซึ่งจะได้เอกซเรย์เป็นระยะๆ ถ้าเจอก็แก้ไขกัน โดยเฉพาะเมื่อมีการติดเชื้อ น้ำตาลในเลือดจะขึ้นค่อนข้างสูงและเร็วด้วย แต่ตอนนี้ควบคุมได้แล้ว” นพ.พินิศจัยกล่าว
ด้าน นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุกรรมโรคปอด กล่าวเสริมว่า การที่มีภาวะปอดอักเสบมีโอกาสเกิดน้ำในปอดขึ้นได้ เราพบว่ามีน้ำในปอดเกิดขึ้นจริง โดยมีน้ำในปอดประมาณ 200-300 ซีซี คณะแพทย์จึงต้องทำการเจาะเอาน้ำออกจากปอดมาตรวจยืนยันอีกครั้ง ซึ่งการมีน้ำในปอดนั้นไม่ถือว่ามากเกินกว่าที่จะควบคุมได้ หากให้ยาก็ทำให้น้ำในปอดลดลงได้ แต่ที่จำเป็นต้องเจาะน้ำนำไปตรวจเนื่องจากเกรงว่าจะมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมา จึงนำไปตรวจเพื่อให้มั่นใจหรือหากมีภาวะแทรกซ้อนก็จะได้รักษาให้ทันเวลา
ขณะที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ออกประกาศเรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ฉบับที่ 3 โดยระบุว่า วันนี้ (10 ก.ค.) คณะแพทย์ได้สรุปการตรวจพระเทพวิทยาคม ดังนี้ 1. อาการโดยรวมดีขึ้น รู้สึกตัวดี ไข้ลดลง สัญญาณชีพและความดันโลหิตปกติ พูดคุยรู้เรื่อง แต่พบว่ามีน้ำในช่องปอดเพิ่มขึ้น ประมาณ 200-300 ซีซี (ปกติไม่เกิน 50 ซีซี) เป็นผลจากภาวะแทรกซ้อนของปอดอักเสบ
2. การตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด อัลตราซาวนด์ปอด และเจาะน้ำในปอด ผลการตรวจปกติ คณะแพทย์ยังคงให้การรักษาด้วยยาและติดตามอาการโดยใกล้ชิด จึงประกาศมาเพื่อทราบ