ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมาอนุญาตสื่อเข้าถ่ายภาพ “หลวงพ่อคูณ” เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน พร้อมนำหลวงพ่อโชว์ความแข็งแรงปั่นจักรยานออกกำลังกายเป็นครั้งแรก "หลวงพ่อคูณ" ยกมือทักทาย สยบข่าวลือละสังขาร แพทย์ระบุอาการดีขึ้นต่อเนื่อง และอีก 3 วันให้ยาฆ่าเชื้อครบ คาดพัก รพ. อีก 1 สัปดาห์ก่อนอนุญาตให้กลับวัดบ้านไร่ เผยยังงดเยี่ยมป้องกันติดเชื้อซ้ำซ้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการโรคหลอดลมอักเสบ ต่อมามีอาการแทรกซ้อนปอดอักเสบจนคณะแพทย์ต้องทำการเจาะน้ำออกจากปอด และล่าสุดมีข่าวลือสะพัดว่าหลวงพ่อคูณมรณภาพ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (18 ก.ค.) นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมคณะแพทย์เวร และพยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมอาการหลวงพ่อคูณ ก่อนอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพหลวงพ่อคูณได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน โดยอนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพได้ที่บริเวณหน้าประตูกระจกด้านนอกห้องผู้ป่วยเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งหลวงพ่อคูณ ได้ยกมือทักทายผู้สื่อข่าวขณะถ่ายภาพด้วย
นพ.ณรงค์กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อยากเรียนศิษยานุศิษย์ ญาติโยม และประชาชนทั่วประเทศถึงการอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณว่า ขณะนี้อาการของท่านดีขึ้นมาก ไข้ไม่มีแล้ว สามารถรับอาหารได้อย่างเต็มที่จากการให้ทางสายยางผ่านช่องท้อง เสมหะที่เคยมี และอาการปอดอักเสบลดลงมากพอสมควรแล้ว และดีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสังเกตจากอาการไข้ และอาการไอ และเสมหะลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การรักษาอยู่ในโรงพยาบาลก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อยากให้ศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ประชาชนสบายใจขึ้นได้ระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อคูณท่านมีอายุเกือบ 90 ปีแล้วยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนกระแสข่าวลือเรื่องละสังขารหรือมรณภาพนั้น นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้หลวงพ่ออาการดีขึ้นกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาก และข่าวลือนี้ตนมองในแง่ดีว่าอาจเป็นการช่วยกันต่ออายุให้หลวงพ่อคูณ และอยากให้ศิษยานุศิษย์พี่น้องประชาชนช่วยกันภาวนาเพื่อให้ท่านได้ดำรงธรรมและเป็นธงชัยให้พวกเราตลอดไป ส่วนการจะกลับวัดบ้านไร่อีกนานแค่ไหนนั้น เรื่องนี้คิดว่าอีกสักระยะหนึ่ง และต้องให้คณะแพทย์ได้ช่วยกันดูแลท่านอย่างใกล้ชิดก่อน
สำหรับการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนนั้น ภาวะแทรกซ้อนมีได้หลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องอาการของปอด อาการทางสมอง อาการทางหัวใจ รวมทั้งไตด้วยที่คณะแพทย์ต้องเฝ้าระวังกันอย่างมากและใกล้ชิดตลอดเวลา ส่วนการเยี่ยมในช่วงนี้คงเยี่ยมได้น้อยคนและให้อยู่ด้านนอกห้องกระจกเท่านั้น แม้แต่ตน หรือนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มาเยี่ยมหลวงพ่อ ก็อยู่แต่หน้าห้องกระจกเช่นกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งต้องขออภัยศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ไว้ด้วย เพราะจำเป็นต้องจำกัดการเยี่ยม ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณท่านยังไม่ได้บ่นอยากจะกลับวัดบ้านไร่แต่อย่างใด
จากนั้น เวลา 11.30 น.นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วยทีมนักกายภาพและลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ได้นิมนต์หลวงพ่อคูณ ออกจากห้องผู้ป่วย มาปั่นจักรยานไฟฟ้าออกกำลังหายเป็นครั้งแรก หลังมีอาการดีขึ้น และเพื่อยืนยันว่าหลวงพ่อคูณยังไม่ได้ละสังขารตามที่มีข่าวลือ โดยหลวงพ่อคูณ ออกแรงปั่นจักรยานได้ค่อนข้างดี ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ และลูกศิษย์คอยเชียร์ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
นพ.พินิศจัย กล่าวว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีไข้ เสมหะน้อยลง น้ำในปอดลดลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งวันนี้ได้ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นวันที่ 11 เหลืออีก 3 วันจะครบตามกำหนด จากนั้นจะให้หลวงพ่อพักที่โรงพยาบาลต่อไปอีก 1 สัปดาห์ จึงจะพิจารณาให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้
“ทีมแพทย์พอใจในการรักษา อาการหลวงพ่อดีวันดีขึ้น แต่ยังต้องให้งดเยี่ยมเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และขอฝากญาติโยมว่าหลวงพ่อคูณอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์เป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นไปตามข่าวลือเรื่องการละสังขารของท่านแต่อย่างใด” นพ.พินิศจัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศ เรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ) ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 18 ก.ค.2555 ระบุว่า ผลการตรวจอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม ของคณะแพทย์ มีดังนี้ 1.อาการโดยรวมดีขึ้น ไม่มีไข้ รู้สึกตัว พูดคุยได้ดี 2.คณะแพทย์ยังคงให้การรักษาตามแนวทางเดิม และเฝ้าระวังการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระบบอื่นๆ 3.งดการเยี่ยม เพื่อให้พระเทพวิทยาคมได้พักผ่อน จึงประกาศมาเพื่อทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอยู่ที่ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการโรคหลอดลมอักเสบ ต่อมามีอาการแทรกซ้อนปอดอักเสบจนคณะแพทย์ต้องทำการเจาะน้ำออกจากปอด และล่าสุดมีข่าวลือสะพัดว่าหลวงพ่อคูณมรณภาพ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (18 ก.ค.) นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมคณะแพทย์เวร และพยาบาลได้เข้าตรวจเยี่ยมอาการหลวงพ่อคูณ ก่อนอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพหลวงพ่อคูณได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน โดยอนุญาตให้เข้าไปบันทึกภาพได้ที่บริเวณหน้าประตูกระจกด้านนอกห้องผู้ป่วยเท่านั้น ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ซึ่งหลวงพ่อคูณ ได้ยกมือทักทายผู้สื่อข่าวขณะถ่ายภาพด้วย
นพ.ณรงค์กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อยากเรียนศิษยานุศิษย์ ญาติโยม และประชาชนทั่วประเทศถึงการอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณว่า ขณะนี้อาการของท่านดีขึ้นมาก ไข้ไม่มีแล้ว สามารถรับอาหารได้อย่างเต็มที่จากการให้ทางสายยางผ่านช่องท้อง เสมหะที่เคยมี และอาการปอดอักเสบลดลงมากพอสมควรแล้ว และดีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสังเกตจากอาการไข้ และอาการไอ และเสมหะลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การรักษาอยู่ในโรงพยาบาลก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ อยากให้ศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ประชาชนสบายใจขึ้นได้ระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อคูณท่านมีอายุเกือบ 90 ปีแล้วยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนกระแสข่าวลือเรื่องละสังขารหรือมรณภาพนั้น นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ยืนยันว่าขณะนี้หลวงพ่ออาการดีขึ้นกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมาก และข่าวลือนี้ตนมองในแง่ดีว่าอาจเป็นการช่วยกันต่ออายุให้หลวงพ่อคูณ และอยากให้ศิษยานุศิษย์พี่น้องประชาชนช่วยกันภาวนาเพื่อให้ท่านได้ดำรงธรรมและเป็นธงชัยให้พวกเราตลอดไป ส่วนการจะกลับวัดบ้านไร่อีกนานแค่ไหนนั้น เรื่องนี้คิดว่าอีกสักระยะหนึ่ง และต้องให้คณะแพทย์ได้ช่วยกันดูแลท่านอย่างใกล้ชิดก่อน
สำหรับการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนนั้น ภาวะแทรกซ้อนมีได้หลายอย่าง ไม่ว่าเรื่องอาการของปอด อาการทางสมอง อาการทางหัวใจ รวมทั้งไตด้วยที่คณะแพทย์ต้องเฝ้าระวังกันอย่างมากและใกล้ชิดตลอดเวลา ส่วนการเยี่ยมในช่วงนี้คงเยี่ยมได้น้อยคนและให้อยู่ด้านนอกห้องกระจกเท่านั้น แม้แต่ตน หรือนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มาเยี่ยมหลวงพ่อ ก็อยู่แต่หน้าห้องกระจกเช่นกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งต้องขออภัยศิษยานุศิษย์ ญาติโยม ไว้ด้วย เพราะจำเป็นต้องจำกัดการเยี่ยม ทั้งนี้ หลวงพ่อคูณท่านยังไม่ได้บ่นอยากจะกลับวัดบ้านไร่แต่อย่างใด
จากนั้น เวลา 11.30 น.นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วยทีมนักกายภาพและลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ได้นิมนต์หลวงพ่อคูณ ออกจากห้องผู้ป่วย มาปั่นจักรยานไฟฟ้าออกกำลังหายเป็นครั้งแรก หลังมีอาการดีขึ้น และเพื่อยืนยันว่าหลวงพ่อคูณยังไม่ได้ละสังขารตามที่มีข่าวลือ โดยหลวงพ่อคูณ ออกแรงปั่นจักรยานได้ค่อนข้างดี ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ และลูกศิษย์คอยเชียร์ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ
นพ.พินิศจัย กล่าวว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีไข้ เสมหะน้อยลง น้ำในปอดลดลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งวันนี้ได้ให้ยาฆ่าเชื้อเป็นวันที่ 11 เหลืออีก 3 วันจะครบตามกำหนด จากนั้นจะให้หลวงพ่อพักที่โรงพยาบาลต่อไปอีก 1 สัปดาห์ จึงจะพิจารณาให้กลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ได้
“ทีมแพทย์พอใจในการรักษา อาการหลวงพ่อดีวันดีขึ้น แต่ยังต้องให้งดเยี่ยมเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และขอฝากญาติโยมว่าหลวงพ่อคูณอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์เป็นอย่างดี ไม่ได้เป็นไปตามข่าวลือเรื่องการละสังขารของท่านแต่อย่างใด” นพ.พินิศจัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศ เรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ) ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 18 ก.ค.2555 ระบุว่า ผลการตรวจอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม ของคณะแพทย์ มีดังนี้ 1.อาการโดยรวมดีขึ้น ไม่มีไข้ รู้สึกตัว พูดคุยได้ดี 2.คณะแพทย์ยังคงให้การรักษาตามแนวทางเดิม และเฝ้าระวังการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระบบอื่นๆ 3.งดการเยี่ยม เพื่อให้พระเทพวิทยาคมได้พักผ่อน จึงประกาศมาเพื่อทราบ