ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ประมงโคราชลงพื้นที่ตรวจสอบปลา “ลำตะคอง” ลอยตายนับแสนตัว ในเขตเทศบาลนครโคราช คาดสาเหตุเกิดจากการปล่อยสารเคมี หรือสารพิษลงลำน้ำ ด้าน “นายกเล็กโคราช” ประสานเขื่อนลำตะคองปล่อยน้ำผลักดันไล่น้ำเสียออกไป ลั่นพบใครเป็นต้นเหตุดำเนินคดีตาม กม.ทันที อ้างไม่กระทบระบบผลิตน้ำประปาเมืองโคราช แฉ “ลูกเจ๊เกียว” บิดเบือนพูดความจริงครึ่งเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีเหตุการณ์ปลาธรรมชาติในลำตะคองลอยตายนับแสนตัว ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ตั้งแต่บริเวณชุมชนสำโรงจันทร์ หลังห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา ไปถึงหมู่บ้านวีไอพี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครราชสีมา ได้ทำการเก็บปลาที่ตายจำนวนมากขึ้นมาจากลำตะคลอง เพื่อนำไปฝังกลบทำลาย พร้อมนำตัวอย่างซากปลา และน้ำในลำตะคอง ส่งไปตรวจพิสูจน์ยังห้องปฏิบัติการหาสาเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (14 ก.ค.) นายเจริญ อุดมการณ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสาเหตุการตายดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุที่ปลาตายเกิดจากภายในชุมชนมีการปล่อยสารเคมีลงในลำน้ำลำตะคอง เนื่องจากสภาพน้ำในบริเวณดังกล่าวไม่ได้เน่าเสีย ซึ่งจากการสังเกตสีของน้ำมีความใส และไหลอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังมีปลาบางชนิดมีชีวิตอยู่ เช่น ปลาช่อน และปลาหมอ ซึ่งสามารถอยู่ในสภาพออกซิเจนในน้ำน้อยได้ดี
ดังนั้น จึงเชื่อว่าสาเหตุของปลาตายครั้งนี้ไม่น่าจะเกิดจากน้ำเน่าเสีย และน่าจะมาจากสารพิษบางอย่างที่ถูกปล่อยลงลำน้ำทำให้ออกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อย ส่งผลให้ปลาที่ไม่มีความทนต่อสภาพออกซิเจนน้อย เช่น ปลาตะเพียน ปลาเกล็ดขาว และปลาเนื้ออ่อน ตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งการสืบหาต้นเหตุของปลาตายในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องง
“ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครราชสีมา ได้จัดเตรียมพันธุ์ปลาจำนวน 2-3 แสนตัว เพื่อนำมาปล่อยลงในลำน้ำลำตะคองในบริเวณดังกล่าว เพื่อทดแทนปลาที่ไปตายเป็นจำนวนมาก แต่จะต้องให้น้ำในพื้นที่ดังกล่าวกลับคืนสู่สภาพที่ดีก่อน” นายเจริญกล่าว
ด้าน นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ส่งตัวอย่างน้ำ และซากปลาไปให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีตรวจสอบแล้ว คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3-7 วันจะทราบผล และหาแนวทางการแก้ไขต่อไป ซึ่งหากพบว่า ผู้ใดเป็นต้นเหตุทำให้ปลาจำนวนมากในลำตะคองตาย ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที และในเบื้องต้น จะขอความร่วมมือทางอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ปล่อยน้ำลงมาผลักดันน้ำเสียออกไป
“ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อระบบน้ำประปาของเทศบาลฯ แต่อย่างใด เนื่องจากน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปาส่งตรงมาตามท่อจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมาโดยตรง ไม่ได้นำน้ำมาจากคลองในลำคะตอง” นายสุรวุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ ยังคงพบมีปลาในลำตะคองบริเวณที่เกิดเหตุลอยขึ้นมาตายเพิ่มเติมอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครราชสีมา ยังตระเวนเก็บซากปลาขึ้นจากน้ำเพื่อนำไปฝังกลบ และทำลาย เพื่อป้องกันการเน่าเหม็นสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และทำให้น้ำในลำตะคองเน่าเสียซ้ำเติมอีก
นอกจากนี้ เป็นที่สังเกตว่า กรณีที่มาของแหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาเทศบาลนครนครราชสีมา นั้น นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา บิดเบือนพูดความจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะข้อเท็จจริงแล้ว น้ำดิบที่นำมาใช้ผลิตน้ำประปาของเทศบาลฯ วันละประมาณ 1 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) นั้น มีที่มา 2 ทาง คือ 1.ส่งทางท่อตามแนว ถ.มิตรภาพ มาจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว โดยตรง ประมาณวันละ 7 หมื่น ลบ.ม. และ 2.สูบน้ำขึ้นมาจากลำตะคอง ที่บริเวณโรงกรองน้ำมะขามเฒ่า ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา และบริเวณโรงกรองน้ำอัษฎางค์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา (ตั้งอยู่ใกล้ รพ.มหาราชนครราชสีมา ซึ่งอยู่ใต้บริเวณเกิดเหตุปลาในลำตะคองตายเป็นเบือที่ยังไม่ทราบสาเหตุดังกล่าว) วันละประมาณ 3 หมื่น ลบ.ม.