ตราด - นายด่านศุลฯ คลองใหญ่ เผยแผนพัฒนาด่านฯ คลองใหญ่สู่ด่านสากลรับ AEC ระบุ ระดับจุดผ่อนปรนการค้า 2 อำเภอ เพิ่มยอดค้า ชี้ท่าเรือคลองใหญ่ทำตราดโต
นายศรชัย สร้อยหงส์พราย นายด่านศุลกากคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ด่านศุลกากรคลองใหญ่ เป็นจุดผ่านแดนถาวรทางการค้าระหว่าง จ.ตราด กับ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการค้าขายโดยผ่านการขนส่งทางน้ำเป็นหลัก แต่จะมีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท/ปี โดยในรอบ 8 เดือน (ตุลาคม 2554-พฤษภาคม 2555) มีมูลค่าการค้าส่งออกไปแล้ว 15,542,812,052.70 บาท ส่วนมูลค่าการนำเข้ามี 113,218,957.42 ล้านบาท
โดยในแต่ละปี จะมีมูลค่าเพิ่ม 10-15% ซึ่งแนวโน้มอีก 4 เดือน น่าจะมีมูลค่าเกิน 6,000 ล้านบาท หรือมูลค่าเกิน 22,500 ล้านบาท ทั้งนี้ สินค้าจะส่งผ่านท่าเรือเอกชน 3 แห่ง (ท่าเรือกัลปังหา, ท่าเรือชลาลัย และท่าเรือ ส.กฤตะวัน) เป็นหลัก โดยจะมีเรือสินค้าของไทยและกัมพูชาขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือใน อ.นาเกลือ จ.เกากง และท่าเรือ จ.กัมโปงโสม รวมทั้งท่าเรือที่กำปอด ซึ่งจะลำเลียงส่งไปยังเวียตนามตอนใต้ด้วย
ขณะที่การขนส่งทางบกโดยผ่านตู้คอนเทนเนอร์ และขนส่งทางบกเริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเส้นทางบกมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งระยะทางจาก จ.เกาะกงสู่พนมเปญ และท่าเรือกัมโปงโสมมีระยะทาง 300-350 กิโลเมตร
“ทางด่านศุลกากรคลองใหญ่กล่าวว่า ปัญหาก็คือ สภาพจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กที่เป็นช่องทางบก ยังมีสภาพที่จะพัฒนาเป็นด่านชายแดนระดับสากลได้ และยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ชายแดนกับประเทศกัมพูชา หากได้มีการตกลงกันเพื่อพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน แล้วกำหนดให้เป็นพื้นที่โนแมนสแลมจะทำให้หาดเล็กเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่สมบูรณ์ได้เหมือนชายแดนอื่นๆ ซึ่งจะดูเป็นสากลมากขึ้น สิ่งนี้คือสิ่งที่ต้องดำเนินการ”
นายศรชัย ยังบอกด้วยว่า สำหรับจุดผ่อนปรนการค้าช่องทางอื่นๆ ที่มีความพยายามจากภาคเอกชนที่จะผลักดันให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร เช่น จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด กับเนิน 400 อ.สำรูด จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา ปัจจุบัน มีการเปิดให้ค้าขายได้ 3 วัน/สัปดาห์ (อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี) ซึ่งด่านศุลกากรฯ ได้เข้าไปอำนวยความสะดวกให้ชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามา และในอีก 1-2 ปี ถนนเชื่อมชายแดนจะสะดวกขึ้น การค้าขายก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่วนจุดผ่านแดนชั่วคราว ที่บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ก็สามารถยกระดับได้ เพราะปัจจุบัน เปิดขายได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจุดนี้จะเชื่อมกับบ้านทมอดา อ.เวียงเวง จ.โพธิสัต ก็พัฒนาเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้เช่นกัน
ด้าน น.ส.กิจประภา ประสิทธิเวช ผู้จัดการท่าเรือ ส.กฤตวัน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า การสั่งซื้อสินค้าของกัมพูชามายังพ่อค้าไทย ยังคงปกติในรอบ 8 เดือน ทีผ่านมาโดยเรือสินค้าทั้งจากกัมพูชา และจากไทยยังคงลำเลียงสินค้าไปยังกัมพูชา ซึ่งสินค้ายังคงเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำตาล นม และอาหารเสริม ขนม เครื่องดื่ม ยางรถยนต์ แต่ในอีก 4 เดือนข้างหน้า อาจจะมีแนวโน้มขนส่งได้ลดน้อยลง เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม การขนส่งทางน้ำจะมีความลำบาก โดยเฉพาะเรือสินค้าขนาดเล็ก แต่คำสั่งซื้อไม่ได้ลดลง กลับจะมีเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้น
นายศรชัย สร้อยหงส์พราย นายด่านศุลกากคลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ด่านศุลกากรคลองใหญ่ เป็นจุดผ่านแดนถาวรทางการค้าระหว่าง จ.ตราด กับ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการค้าขายโดยผ่านการขนส่งทางน้ำเป็นหลัก แต่จะมีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท/ปี โดยในรอบ 8 เดือน (ตุลาคม 2554-พฤษภาคม 2555) มีมูลค่าการค้าส่งออกไปแล้ว 15,542,812,052.70 บาท ส่วนมูลค่าการนำเข้ามี 113,218,957.42 ล้านบาท
โดยในแต่ละปี จะมีมูลค่าเพิ่ม 10-15% ซึ่งแนวโน้มอีก 4 เดือน น่าจะมีมูลค่าเกิน 6,000 ล้านบาท หรือมูลค่าเกิน 22,500 ล้านบาท ทั้งนี้ สินค้าจะส่งผ่านท่าเรือเอกชน 3 แห่ง (ท่าเรือกัลปังหา, ท่าเรือชลาลัย และท่าเรือ ส.กฤตะวัน) เป็นหลัก โดยจะมีเรือสินค้าของไทยและกัมพูชาขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือใน อ.นาเกลือ จ.เกากง และท่าเรือ จ.กัมโปงโสม รวมทั้งท่าเรือที่กำปอด ซึ่งจะลำเลียงส่งไปยังเวียตนามตอนใต้ด้วย
ขณะที่การขนส่งทางบกโดยผ่านตู้คอนเทนเนอร์ และขนส่งทางบกเริ่มมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเส้นทางบกมีความสะดวกมากขึ้น ซึ่งระยะทางจาก จ.เกาะกงสู่พนมเปญ และท่าเรือกัมโปงโสมมีระยะทาง 300-350 กิโลเมตร
“ทางด่านศุลกากรคลองใหญ่กล่าวว่า ปัญหาก็คือ สภาพจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กที่เป็นช่องทางบก ยังมีสภาพที่จะพัฒนาเป็นด่านชายแดนระดับสากลได้ และยังมีปัญหาเรื่องพื้นที่ชายแดนกับประเทศกัมพูชา หากได้มีการตกลงกันเพื่อพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน แล้วกำหนดให้เป็นพื้นที่โนแมนสแลมจะทำให้หาดเล็กเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่สมบูรณ์ได้เหมือนชายแดนอื่นๆ ซึ่งจะดูเป็นสากลมากขึ้น สิ่งนี้คือสิ่งที่ต้องดำเนินการ”
นายศรชัย ยังบอกด้วยว่า สำหรับจุดผ่อนปรนการค้าช่องทางอื่นๆ ที่มีความพยายามจากภาคเอกชนที่จะผลักดันให้เปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร เช่น จุดผ่อนปรนการค้าบ้านมะม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด กับเนิน 400 อ.สำรูด จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา ปัจจุบัน มีการเปิดให้ค้าขายได้ 3 วัน/สัปดาห์ (อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี) ซึ่งด่านศุลกากรฯ ได้เข้าไปอำนวยความสะดวกให้ชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามา และในอีก 1-2 ปี ถนนเชื่อมชายแดนจะสะดวกขึ้น การค้าขายก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่วนจุดผ่านแดนชั่วคราว ที่บ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ก็สามารถยกระดับได้ เพราะปัจจุบัน เปิดขายได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งจุดนี้จะเชื่อมกับบ้านทมอดา อ.เวียงเวง จ.โพธิสัต ก็พัฒนาเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้เช่นกัน
ด้าน น.ส.กิจประภา ประสิทธิเวช ผู้จัดการท่าเรือ ส.กฤตวัน ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เปิดเผยว่า การสั่งซื้อสินค้าของกัมพูชามายังพ่อค้าไทย ยังคงปกติในรอบ 8 เดือน ทีผ่านมาโดยเรือสินค้าทั้งจากกัมพูชา และจากไทยยังคงลำเลียงสินค้าไปยังกัมพูชา ซึ่งสินค้ายังคงเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น น้ำตาล นม และอาหารเสริม ขนม เครื่องดื่ม ยางรถยนต์ แต่ในอีก 4 เดือนข้างหน้า อาจจะมีแนวโน้มขนส่งได้ลดน้อยลง เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม การขนส่งทางน้ำจะมีความลำบาก โดยเฉพาะเรือสินค้าขนาดเล็ก แต่คำสั่งซื้อไม่ได้ลดลง กลับจะมีเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้น
