สระแก้วเจ้าภาพประชุมปราบยาเสพติดชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา

สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว เป็นเจ้าภาพประชุมปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย

วันนี้ (13 มิ.ย.) นายชัช กิตตินภดล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานในการประชุมเปิดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นความร่วมมือชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ณ โรงแรมอรัญเมอร์เมด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีนายอรรถพล สยมภาค ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย นำเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 2 ทหาร ตำรวจ นายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ตม.สระแก้ว ด่านศุลกากรอรัญประเทศ เข้าร่วมประชุม

นายอรรถพล สยมภาค ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย กล่าวว่า ในช่วงนี้ของประเทศกัมพูชาด้วยจะมีชาวไทย-กัมพูชา และนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าออกที่ด่านชายแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ หลายหมื่นคนต่อวัน ทำให้มีนักค้ายาเสพติดหาช่องโหว่ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ต้องออกปฏิบัติหน้าที่หลายอย่างในช่วงนี้ ซึ่งมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยได้

จึงต้องเปิดปฏิบัติการร่วมอำนวยการระหว่างประเทศเพื่อการกวาดล้างยาเสพติดใน 3 จังหวัด 2 ประเทศที่มีพื้นที่ติดต่อกัน ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว และจังหวัดบันเตียเมียนเจย จังหวัดพระตะบอง ของประเทศกัมพูชา แล้วยังได้นำเยาวชนทูบีนัมเบอร์วัน จาก 2 ประเทศเข้าร่วมด้วยเพื่อต้องการให้เยาวชนรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด แล้วนำไปขยายผลสู่เยาวชนในโรงเรียน และในชุมชนเพื่อร่วมกันป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นหูเป็นตาให้แก่ราชการ

พร้อมทั้งเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และมิตรไมตรีที่ต่อกันอย่างยิ่ง โดยมีเป้าหมายสำคัญในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ และก่อการร้าย การค้ามนุษย์ เพื่อให้เกิดความสันติสุข และความสงบสุขของประชาชนตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการดำเนินการตามบันทึกการประชุมร่วมของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 20 ที่ผ่านมา ที่ได้กำหนดให้ทั้ง 3 จังหวัดคือ จังหวัดสระแก้ว จังหวัดบันเตียเมียนเจย จังหวัดพระตะบอง จะต้องประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ได้ทุ่มเทกันทำงานเพื่อเอาชนะยาเสพติดให้ได้ การเปิดปฏิบัติการร่วม 2 ประเทศในครั้งนี้ จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ 2 ประเทศจะได้ร่วมมือกันอย่างเข้มข้น จริงจัง