กาญจนบุรี - อดีต ผญบ.หม่องกระแทะ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ นิมนต์พระ 9 รูปทำบุญครบรอบ 7 วันให้ช้างป่าสลักพระ หลังถูกกระแสไฟฟ้ากั้นไร่ช็อตเสียชีวิต ยันไม่คิดจะฆ่าช้างป่ามาก่อน ชี้ข้อหาที่กรมอุทยานฯ แจ้งความดำเนินคดีรุนแรงเกินไป
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (28 มิ.ย.) นายถนอม อ่อนหวาน อายุ 61 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านหม่องกระแทะ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป จากวัดท่ากระดาน 4 รูป และวัดบ้านหม่องกระแทะ 5 รูป มาที่บริเวณริมถนนจุดที่ช้างป่าสลักพระเสียชีวิต เพื่อสวดพระอภิธรรมอุทิศส่วนกุศลให้แก่ช้างป่าสลักพระ ที่ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตในโอกาสครบรอบวันตาย 7 วัน
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี น.ส.ภัสสรากาญจน์ ไขว้พันธุ์ปลัดอำเภอศรีสวัสดิ์ นางสุนันท์ สุวรรณ์ กำนันตำบลท่ากระดาน นางอุรอน อ่อนหวาน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 พร้อมชาวบ้านกว่า 50 คนเข้าร่วมทำบุญในครั้งนี้
สำหรับพิธีทางศาสนา พระสงฆ์ทั้ง 9 รูปได้สวดบังสุกุล ทอดผ้าบังสุกุล เจริญพระพุทธมนต์ถวายสังฆทาน ทอดผ้าป่า และมีพิธีกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้แก่ช้างป่าสลักพระเพศผู้ที่ล้มเสียชีวิต นอกจากนั้น ยังนำรูปภาพของช้างป่าตัวดังกล่าวขณะเสียชีวิตมาวางไว้บนโต๊ะผลไม้ที่ทางชาวบ้านร่วมกันจัดเอาไว้ให้ โดยตั้งอยู่ข้างพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยขั้นตอนทำพิธีได้ถูกจัดขึ้นเหมือนทำพิธีให้แก่มนุษย์ที่จากไปทุกขั้นตอน โดยใช้เวลานาน 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นายถนอม อ่อนหวาน อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 กล่าวเปิดใจภายหลังว่า หลังจากช้างป่าตัวดังกล่าวเดินลงมาจากป่า และมาถูกลวดไฟฟ้าเสียชีวิตที่ไร่ของตน หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ได้เรียกตนไปรับทราบข้อกล่าวหา และได้เซ็นรับทราบแล้ว โดยมีกรมอุทยานฯ เป็นผู้เสียหาย แต่ข้อกล่าวหาที่ทางกรมอุทยานฯ ได้กล่าวหาว่าตนกระทำผิด พ.ร.บ.สัตว์สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16, 47 ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่มาตรา 36, 53 ฐานล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ซึ่งข้อหานี้ถือว่ารุนแรงกับตน และครอบครัวของตนมาก
โดยตั้งแต่เกิดมา ตนไม่เคยล่าช้างป่าแม้แต่ตัวเดียว แค่คิดยังไม่กล้าเลย อีกทั้งวันเกิดเหตุตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากไปทำธุระที่อำเภอ แต่หลังจากกลับมาบ้านก็ได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่า มีช้างป่าเสียชีวิตที่ริมรั้วข้างไร่ของตน หลังเกิดเหตุ ตนก็ได้รีบแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบทันที หากตนคิดจะล่าช้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนจริง หลังช้างตายก็คงไม่มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบอย่างแน่นอน อีกทั้งตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา ตนได้ร่วมรณรงค์ และทำความเข้าใจกับชาวบ้านมาโดยตลอดว่า หากช้างป่าลงมากินพืชไร่เราจะต้องไม่ทำร้ายมันอย่างเด็ดขาด ซึ่งชาวบ้านทุกครัวเรือนต่างก็เข้าใจ และปฏิบัติตามโดยดี ดังนั้น ตนจึงต้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมแก่ตน และครอบครัวของตนด้วย