รมว.พลังงานเยี่ยมชมแปลงผักปลอดสารพลังงานแสงอาทิตย์ บุรีรัมย์

บุรีรัมย์ - รมว.พลังงานลงพื้นที่บุรีรัมย์เยี่ยมชมต้นแบบแปลงผักปลอดสารพิษ ใช้น้ำใต้ดินจากพลังงานแสงอาทิตย์แก้ปัญหาภัยแล้ง ประสบผลสำเร็จสามารถลดต้นทุนการผลิตสร้างรายได้ให้เกษตรกรรายละ 6,000-7,000 บาทต่อเดือน พร้อมสนับสนุนขยายผลให้เกษตรกรจังหวัดอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมนายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน และคณะฯ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการ “ต้นแบบแปลงผักปลอดสาร พลังงานแสงอาทิตย์” ที่บ้านแดงใหญ่ หมู่ 13 ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ที่ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกัน 41 ครัวเรือนกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 800,000 บาท มาดำเนินการปรับพื้นที่เจาะบ่อบาดาล ติดตั้งแผงพลังงานเก่าที่ใช้แล้ว และใช้ระบบสูบน้ำใต้ดินจากพลังงานแสงอาทิตย์ บนเนื้อที่ 25 ไร่ ซึ่งเป็นที่สาธารณะรกร้างว่างเปล่า

ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และลดต้นทุนการผลิต จากเดิมชาวบ้านจะใช้พลังงานไฟฟ้าสูบน้ำจากสระในหมู่บ้านที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคด้วยทำให้ประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอ และต้นทุนสูง แต่หลังจากรวมกลุ่มกันปลูกผักปลอดสารโดยใช้น้ำใต้ดินจากพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นเวลากว่า 8 เดือน ทำให้ประสบผลสำเร็จสามารถลดต้นทุนการผลิต และสร้างรายได้ให้เกษตรกรเฉลี่ยรายละ 6,000-7,000 บาทต่อเดือน

สำหรับผักที่ปลูกมีหลากหลายชนิด เช่น ต้นหอม ผักกาด พริก มะเขือ ฟักทอง ข้าวโพด และพืชผักอื่นๆ ส่วนตลาดจะมีพ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่มารับซื้อถึงที่จนบางช่วงผลิตไม่ทันต่อความต้องการ

พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังได้มอบประกาศเกียรติคุณเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่สมาชิกกลุ่มปลูกผักปลอดสารทั้ง 41 ครัวเรือนด้วย

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า โครงการต้นแบบแปลงผักปลอดสารพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เกษตรกรบ้านแดงใหญ่ได้รวมกลุ่มกันทำนั้นถือเป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน เพราะนอกจากเป็นการลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้เข้าครัวเรือนแล้ว ยังสามารถลดปัญหาเคลื่อนย้ายแรงงานออกนอกพื้นที่ และเสริมสร้างความรักสามัคคีของคนในชุมชนอีกด้วย ทั้งนี้ ทางกระทรวงพลังงานพร้อมที่จะให้การสนับสนุนส่งเสริม และขยายผล หากชาวบ้านหรือเกษตรกรในจังหวัดใดสนใจที่จะนำไปเป็นต้นแบบในการทำการเกษตรดังกล่าวด้วย