กระทรวงพลังงานสั่ง ปตท.ติดตามผลการซ่อมท่อก๊าซที่แหล่งเยตากุน พม่าใกล้ชิด หลังหยุดผลิตกะทันหันเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมจากเหตุขัดข้องที่ระบบจ่ายไฟฟ้าของแท่นผลิตกลาง คาด 2-3 วันจะแก้ไขเสร็จ สั่งทุกฝ่ายรับมือไม่ให้กระทบต่อการใช้ไฟของประเทศ
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ บมจ.ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์การซ่อมระบบไฟฟ้าที่แท่นผลิตแหล่งก๊าซเยตากุนในสหภาพเมียนมาร์อย่างใกล้ชิด หลังจากที่เช้าของวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมาแหล่งก๊าซฯ ดังกล่าวได้หยุดผลิตกะทันหัน โดยผู้ผลิตแจ้ง ปตท. (ในฐานะผู้ซื้อก๊าซฯ) ให้ทราบว่าเกิดเหตุขัดข้องที่ระบบจ่ายไฟฟ้าของแท่นผลิตกลาง
“ผลดังกล่าวทำให้ ปตท.ต้องหยุดรับก๊าซฯ จากพม่าทั้งหมดตั้งแต่ 08.45 น.ของวันที่ 6 พฤษภาคม จึงส่งผลให้ก๊าซฯ หายไปจากระบบท่อของไทยประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งล่าสุดผู้ผลิตก๊าซได้นำผู้เชี่ยวชาญเดินทางถึงแท่นผลิตกลางเยตากุนแล้วตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมเพื่อซ่อมแซม คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วันในการแก้ไขระบบจ่ายไฟฟ้าบนแท่นผลิตของแหล่งเยตากุน” นายคุรุจิตกล่าว
ทั้งนี้ ผลกระทบดังกล่าวทำให้กระทบต่อกำลังการผลิตไฟฟ้าของไทยในภาคะตะวันตกและภาคกลางบางส่วน คิดเป็น 6,900 เมกะวัตต์ ซึ่ง ปตท.ได้ประสานงานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการปรับเชื้อเพลิงไปใช้น้ำมันเตาและดีเซลแทนและกลับเข้ามาในระบบผลิตไฟได้ 4,800 เมกะวัตต์ เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกัน ปตท.ได้เพิ่มปริมาณการเรียกรับก๊าซเต็มที่จากอ่าวไทยและพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย
“ขณะนี้ กฟผ.ได้มีการสำรองน้ำมันเตาพร้อมใช้อยู่ 56 ล้านลิตร และสำรองดีเซล 80 ล้านลิตรขณะนี้ได้จัดหาน้ำมันเตาเพิ่มอีก 120 ล้านลิตร โดยกระทรวงฯ ได้มอบหมายให้ ปตท.และโรงกลั่นน้ำมันบางจากจัดหาน้ำมันเตาเพิ่มเติมสำรองให้ กฟผ.อีกทาง จึงขอให้มั่นใจว่าจะสามารถบริหารไฟฟ้าไม่ให้กระทบต่อประชาชนแน่นอน” นายคุรุจิตกล่าว
