กบง.รับลูก กพช.เคาะแนวทางปรับโครงสร้างราคาพลังงาน คงราคา NGV 10.50 บ./กก. LPG ขนส่ง 21.13 บ./กก. 3 เดือนถึง 15 สิงหาคม 55 หลังจากนั้นปรับแผนขึ้นราคาใหม่ ส่วน LPG อุตฯ คงราคา 30.10 บ./กก. ถึง 1 มิถุนายน จากนั้นปรับขึ้นตามตลาดโลก ขณะที่น้ำมันเลิกรีดรายเดือนแต่จะใช้กลไกกองทุนฯ เก็บเงินตามโอกาสแทน
นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 14 พฤษภาคม 55 ว่า กบง.ได้พิจารณาแนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงานตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน โดยให้คงราคาก๊าซ NGV ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ต่อไปอีก 3 เดือน (16 พ.ค.-15 ส.ค.) LPG ภาคขนส่งคงอัตราเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 2.80 บาทต่อ กก.ต่ออีก 3 เดือน ทำให้ราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 21.13 บาทต่อ กก.
“ราคา NGV เดิมจะปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อลิตรจนถึงสิ้นปี 14.50 บาทต่อ กก.ก็จะตรึงไปก่อน 3 เดือน หลังจากนั้นจะปรับเท่าใดก็จะต้องรอผลการศึกษาของสถาบันวิจัยพลังงานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษา จะแล้วเสร็จ 15 สิงหาคมนี้ ขณะที่ LPG ขนส่งเดิมจะขึ้น 75 สตางค์ต่อ กก.ต่อเดือนจนถึงสิ้นปี เมื่อครบตรึง 3 เดือนก็จะไม่จำเป็นต้องขึ้นในอัตราดังกล่าวโดยจะพิจารณาตามต้นทุนตลาดโลกเป็นสำคัญ” นายอารักษ์กล่าว
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ตรึงราคาขายปลีก LPG ภาคอุตสาหกรรมที่ปรับราคาไตรมาสละ 3 บาทรวม 4 ไตรมาสมาอยู่ที่ 30.13 บาทต่อ กก.ในขณะนี้ให้คงราคาดังกล่าวจนถึง 1 มิถุนายน หลังจากนั้นจะพิจารณาสะท้อนราคาตามต้นทุนโรงกลั่นที่ขณะนี้ราคา LPG ตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลงเฉลี่ยมาที่ 720 เหรียญต่อตันจากเป้าหมายเดิมกำหนดไว้ 1,000 เหรียญต่อตัน ซึ่งหากพิจารณาราคาที่แท้จริงจะต้องอยู่ที่ 31.03 เหรียญต่อตัน
สำหรับแนวทางการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ที่เดิมจะเก็บเบนซิน 91 และ 95 จำนวน 1 บาทต่อลิตร ซึ่งจะมีผลวันที่ 16 ของเดือนนั้น กบง.เห็นชอบให้เลิกแนวทางเก็บเงินดังกล่าวและให้พิจารณาตามราคาตลาดโลกโดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ บริหาร ซึ่งจะเน้นให้ราคากลุ่มเบนซินต่างจากก๊าซโซฮอล์มากขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน โดยหากราคาน้ำมันโลกปรับลดก็จะเรียกเงินคืนเข้ากองทุนฯ แต่หากปรับขึ้นก็จะลดลงมาซึ่งวิธีดังกล่าวจะทำให้การบริหารคล่องตัว
นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เดิมการปรับราคา LPG จะต้องปรับให้สอดคล้องกับ NGV แต่จากนี้ไปราคาทั้งสองไม่จำเป็นจะต้องผูกติดกัน เนื่องจากนโยบายรัฐบาลชัดเจนที่จะส่งเสริมการใช้ NGV ในภาคขนส่ง แต่ LPG จะให้ใช้ในครัวเรือนและอุตสาหกรรมเท่านั้น
สำหรับสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สิ้นสุดวันที่ 13 พฤษภาคม 2555 ยังคงติดลบ 22,851 ล้านบาท แต่สถานะรายวันเป็นบวก โดยมีเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ วันละประมาณ 32 ล้านบาท หรือ 997 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากที่ประชุม ครม.มีมติตามที่ กพช. เสนอ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบให้สถานะของกองทุนน้ำมันติดลบมากขึ้น แต่จะเป็นบวกได้ช้าลงเท่านั้น