ม็อบหนี้สินชาวนายังปักหลักยึดพื้นที่หน้า บสก.แปดริ้ว แบบถาวร

ฉะเชิงเทรา - ม็อบเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย ยังคงปักหลักยึดพื้นที่ไหล่ทางบริเวณหน้าสำนักงาน บสก.แปดริ้ว แบบถาวร โดยขออนุญาตใช้พื้นที่จากเทศบาลฯอย่างถูกต้อง เชื่ออยู่ยาวหากผลทางการเรียกร้องไม่คืบหน้า

วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่บริเวณหน้าสำนักงานบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) สาขาฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ริมถนนมหาจักรพรรดิ์ ฝั่งตรงข้ามกับแขวงการทางจังหวัดฉะเชิงเทรา เกษตรกรกลุ่มสมาชิกเครือข่ายกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรไทยกว่า 100 คน ยังคงปักหลักยึดพื้นที่บริเวณริมฟุตปาธด้านหน้าสำนักงานสาขาของทางบริษัทดังกล่าว

การปักหลักครั้งนี้มีการยึดพื้นที่แบบถาวรด้วยการนำเต็นท์ผ้าใบขนาดใหญ่จำนวน 2 หลัง มากางเพื่อใช้เป็นที่รวมตัวชุมนุม และพักผ่อน อีกทั้งยังมีการตั้งโรงครัวประกอบอาหารอย่างเสร็จสรรพมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากตั้งแต่เริ่มการชุมนุมเมื่อช่วงสายวานนี้ จนถึงค่ำยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาทำการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติให้แก่ทั้งสองฝ่าย

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา นางสุมิตรา ศรีสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหน่วยงานฝ่ายปกครองในระดับอำเภอ ได้เดินทางเข้ามาพบและเจรจาร่วมกับตัวแทนของทั้งสองฝ่ายเพื่อหาข้อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น

จนกระทั่งถึงเวลา 14.00 น.นางสุมิตรา ได้ออกมาเปิดเผยต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ว่า ขณะนี้ผลการเจรจามาถึงระดับที่ฝ่ายของลูกหนี้รายใหญ่ คือ นายศักดิ์ สรรพานิช อายุ 63 ปี อดีตนายก อบต.บางวัว อ.บางปะกง เจ้าของธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ ยังคงมีการต่อรองต่อทาง บสก.ที่จะขอยื่นไถ่ถอนหลักประกันด้วยการชำระหนี้เป็นเงินจำนวนเพียง 25 ล้านบาท หรือครึ่งหนึ่งของวงเงินกู้ที่เคยกู้มาจากสถาบันการเงินผู้ออกเงินกู้ไปจำนวน 50 ล้านบาทเศษ ขณะที่ยอดหนี้จริงรวมทั้งค่าปรับ และดอกเบี้ยในปัจจุบันมียอดที่ต้องชำระเป็นเงินสูงถึง 140 ล้านบาทเศษ

ในการเจรจาเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลสำนักงานสาขา ระบุว่า ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว แต่จะขอส่งเรื่องดังกล่าว เข้าไปยังสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ เพื่อทำการพิจารณาดูความเป็นไปได้อีกครั้ง ส่วนกรณีการฟ้องร้องล้มละลายกับเกษตรกรรายย่อยอื่นๆ อีกจำนวน 3 รายนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานสาขาฉะเชิงเทรา ได้ยินยอมที่จะทำเรื่องไปยังศาล จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อขอพักคดีไว้ก่อน นางสุมิตรา ระบุ

ขณะเดียวกัน แกนนำผู้ชุมนุม ได้ประกาศว่า การชุมนุมในครั้งนี้ จะปักหลักยึดพื้นที่บริเวณไหล่ทางอย่างถาวรต่อเนื่องหลายวัน โดยที่ไม่มีใครสามารถเข้ามาไล่รื้อถอน หรือสลายการชุมนุมได้ เนื่องจากได้ทำเรื่องขออนุญาตใช้พื้นที่ต่อทางเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราแล้ว พร้อมได้รับการอนุมัติให้ใช้พื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการชุมนุมจะดำเนินการไปจนกว่าทาง บสก.จะปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลง เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2549