สั่งตรวจเข้มฟาร์มไก่ “ตรอน เมืองลับแล” ตั้งชิดชุมชน-ดึงแมลงวันตอมหึ่ง

อุตดิตถ์ - พ่อเมืองลับแลดูแลเข้มฟาร์มไก่ทั่วอำเภอตรอน หลังชาวบ้านแห่ร้องเรียน บางฟาร์มตั้งห่างชุมชนแค่ 3 เมตร ทำแมลงวันตอมหึ่งกระทบชุมชน

วันนี้ (4 พ.ค.) นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ตามที่ชาวบ้านหมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน ร้องเรียนว่ามีแมลงวันจำนวนมากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน จึงได้สั่งการให้นายอำเภอตรอน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเดินทางเข้าตรวจสอบแล้ว

เมื่อคณะของจังหวัด ภายใต้การนำของนายจริน อุดมเลิศ ปลัดอาวุโสอำเภอตรอน หัวหน้ากลุ่มงานปกครอง และนางสุทธิพันธ์ ดีพลับ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ พบว่าบริเวณฟาร์มเลี้ยงไก่ของนายสำราญ งามขำ ที่ตั้งอยู่เลขที่ 145 หมู่ 5 ต.บ้านแก่ง อ.ตรอน ซึ่งได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเมื่อปี 50 จำนวน 1 โรงเรือน และเมื่อปี 54 ขยายเพิ่มอีก 1 โรงเรือน แต่ตั้งอยู่ห่างจากบ้านเรือนของประชาชนเพียง 3 เมตร มีแมลงวันจำนวนมหาศาลบินตอมกองมูลไก่ที่เกลี่ยออกมาจากโรงเรือน และเมื่อสอบถามบุคคลในจุดเกิดเหตุ ทราบว่าในอดีตโรงสีข้าวสำราญเคยเปิดเป็นฟาร์มเลี้ยงหมู ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ จึงสั่งให้เจ้าของทำการพ่นยากำจัดตัวหนอนแมลงวันบนมูลไก่ที่เกลี่ยออกมาจากโรงเรือนในเวลาเช้าและเย็นเป็นประจำทุกวัน

ด้านนายวีระกิติติ์ อินทรประสิทธิ์ นายอำเภอตรอน กล่าวว่า ทางอำเภอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียน ซึ่งประกอบไปด้วย ฝ่ายปกครอง ปศุสัตว์อำเภอ เจ้าพนักงานท้องถิ่น สาธารณสุขอำเภอ ผู้นำชุมชน เพื่อหาแนวทางและดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าวบนพื้นฐานความร่วมมือของผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับกฎระเบียบกับฟาร์มไก่ทั้งหมดในอำเภอตรอนให้ได้มาตรฐาน และเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดจำนวน 22 ราย และฟาร์มไก่ทั้งหมด 18 ฟาร์ม

ตลอดจนผู้ร้องเรียนและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่มาตกลงกัน และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและตรงไปตรงมาด้วย พร้อมกับขอความร่วมมือจากประชาชนหากสังเกตพบถึงความผิดปกติของธรรมชาติหรือสภาพแวดล้อมในพื้นที่ ถ้าพบให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลโดยเร็วที่สุด และให้รายงานให้นายอำเภอท้องที่ทราบต่อไปด้วย เพื่อประสานและบูรณาการในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งวางแผนป้องกันมิให้เกิดปัญหาที่จะสร้างความเดือดร้อนและความยุ่งยากลำบากรำคาญใจหรือกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันให้แก่ประชาชนได้ต่อไป