อาจเป็นหนึ่งในความสำเร็จทั่วไปกับเกษตรกรเลี้ยงไก่ไข่ แต่สิ่งที่ทำให้อดชื่นชมไม่ได้ในตัวของเกษตรกรคนนี้ เสน่ห์ ธูปหอม คือการที่เขามีแขนเพียงข้างเดียว แต่ตอนนี้สามารถบริหารฟาร์มไข่ไก่ได้ถึง 20,000 ตัว ซึ่งกลายเป็นอาชีพหลักของครอบครัว สามารถพลิกสภาพจากการเป็นหนี้ จนมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายในปัจจุบัน
เมื่อชีวิตยังเหลือก็ต้อง ‘สู้’ ต่อไป
เจ้าของเสน่ห์ฟาร์ม จ.เพชรบูรณ์ เสน่ห์ ธูปหอม เกษตรกรตัวอย่างในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่แก่เกษตรกรรายย่อยของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ น่าจะเป็นตัวอย่างของบุคคลหนึ่งที่สู้ชีวิต มีความเพียร และอุตสาหะ ที่ถึงแม้จะมีแขนเพียงข้างเดียว แต่ก็สามารถสร้างรายได้ และมีชีวิตที่มั่นคงได้ไม่ต่างจากคนทั่วไป
แต่กว่าจะมีชีวิตที่สุขสบายในวันนี้ เสน่ห์ก็ต้องผ่านเรื่องร้ายๆ ที่เข้ามาเป็นแบบทดสอบให้เขาต้องฝ่าฟันไปให้ได้ จากชีวิตชายหนุ่มเมืองเพชรบูรณ์ ร่างกายครบ 32 ที่เกกมะเหรกเกเร กินเหล้า สูบบุหรี่ เที่ยวเตร่ไปเรื่อย จนถึงวันที่โชคชะตาเล่นตลกทำให้ชีวิตเขาต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
“เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ตอนอายุได้ 21 ปี เกิดประสบอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน ก็เลยต้องเสียแขนข้างขวาไป ตอนใหม่ๆ รู้ตัวก็ท้อนะ คิดมาก จะอยู่ยังไง จะกินยังไง พักรักษาตัวไป 3 ปี ก็พยายามให้กำลังใจตัวเองตลอดคิดว่า ได้เกิดมาแล้ว ชีวิตยังเหลือก็ต้องสู้ต่อไป ไม่เคยถือว่าเป็นปมด้อย ไม่คิดว่าเป็นอุปสรรค”
จุดเริ่มต้นเจ้าของ ‘เสน่ห์ฟาร์ม’
จุดเริ่มต้นของการเป็นเกษตรกรฟาร์มไข่ไก่ของ เสน่ห์ นั้น เกิดจากการประสบปัญหาหลังทำนาข้าวจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ จึงหันเหมาปลูกหอมก็เจ๊งไม่เป็นท่าอีก พอเพื่อนได้เล่าและชักชวนให้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่ เสน่ห์จึงไม่ลังเลใจที่จะเข้าร่วมด้วย
“เมื่อก่อนก็ทำนา มันต้องลงทุนทุกปี บางทีก็เจอน้ำท่วม เจอแล้ง ก็ไม่ได้ผล จนปี 2543 น้ำท่วมหมดเลย เปลี่ยนมาปลูกหอมแทน แต่เจอปัญหาน้ำแล้งอีก ก็เลยอยากหาอาชีพที่มันมั่นคงหน่อย เห็นเพื่อนเลี้ยงก็เลยลองศึกษาดู ลองเลี้ยงดู”
หลังจากอาชีพทำไร่ ทำนา ไม่สามารถทำให้ชีวิตของเสน่ห์ดีขึ้น จึงทำให้ต้องหันเหมาสู่อาชีพใหม่นั่นคือการทำฟาร์มไข่ไก่ ซึ่งก็ต้องยอมกู้หนี้ยืมสินมาในจำนวนมากพอควร สำหรับการเริ่มต้นประกอบอาชีพในสายนี้ ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา
“ก็กู้มาล้านหนึ่งเอามาถมดิน ทำโรงเรือน แล้วก็มีทุนเดิมอยู่นิดหน่อย ตอนแรกก็เลี้ยง 10,000 ตัว ซึ่งก็เริ่มเลี้ยงแบบถือว่าใหญ่พอสมควร เลี้ยงไก่ไข่ไป 3 รุ่น ก็ปลดหนี้ได้หมด พอผ่านไป 4 รุ่นก็ขยับขยายเพิ่ม หลังเริ่มมีกำไรเลยกู้เงินมาอีกล้านห้า สำหรับขยายเป็น 20,000 ตัว รอบนี้ผ่านไป 2 รุ่นก็ปลดหนี้ได้หมด”
แน่นอนว่า เสน่ห์ก็ไม่ใช่มืออาชีพที่จะเลี้ยงไข่ไก่จนประสบผลสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก แต่ด้วยความเพียรพยายาม อุตสาหะ และไม่ยอมแพ้ บวกกับการสนับสุนนจากทางเทคโนโลยีการเลี้ยงสมัยใหม่ ก็ทำให้ฟาร์มไข่ไก่ของเสน่ห์ สามารถให้ผลผลิตในปริมาณสูงและมีคุณภาพดีได้ในทุกวันนี้
“เริ่มแรกก็ทำอะไรไม่เป็น เราไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือและคำแนะนำ มีสัตวบาลเข้ามาดูแล ปัญหาก็มีบ้างเพราะเราก็รู้ไม่จริงหมดทุกอย่าง แต่ปัญหามันจะสอนเราเอง อย่างเมื่อก่อนตักอาหารยกถังเองแล้วก็เทใส่ราง ให้วันละครั้งตอนบ่าย แต่เดี๋ยวนี้พัฒนาเป็นกดปุ่มให้อาหารแล้ว”
โดยทุกๆ วัน เสน่ห์จะเข้าไปดูแลฟาร์มไก่ไข่ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เริ่มตั้งแต่การเข้าไปทำความสะอาดพื้น ทำความสะอาดโรงเรือนในช่วงเช้า พอถึงช่วงสายก็เข้าจะมาเก็บไข่ และให้อาหารเหล่าแม่ไก่ ในช่วงบ่ายสองเป็นวงจรชีวิตประจำทุกวัน ส่วนการทำความสะอาดรางอาหารก็จะทำทุกสองอาทิตย์ และ ทำความสะอาดรางน้ำเดือนละครั้ง จากการเอาใจใส่ดูแลเป็นประจำทุกวันจึงทำให้ผลผลิตของเสน่ห์ฟาร์มมีคุณภาพและปริมาณดี ซึ่งนอกจากรายได้จาการขายไข่ไก่แล้ว ขี้ไก่ก็ถือเป็นกำไรเล็กๆ น้อยๆ ให้เสน่ห์อีกด้วย
ความสำเร็จในวันนี้
“แต่ก่อนคุณเสน่ห์ทำเกษตร ทำไร่ทำนาแล้วไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ ก็เลยเข้ามาทำฟาร์มไข่ไก่ ซึ่งการมีแขนเพียงข้างเดียวไม่ได้เป็นปัญหาเลย เพราะเขามีความมุ่งมั่น ตั้งใจทำงาน ทำให้ประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้คนปกติเลยทีเดียว” เป็นคำชมเชยจาก เกษม วิไลประสงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการของซีพีเอฟ
อีกหนึ่งปัจจัยในแรงช่วยผลักดันให้เกษตรกรอย่าง เสน่ห์ ประสบความสำเร็จ ก็ต้องเริ่มจากตั้งแต่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่แก่เกษตรกรรายย่อย ที่มุ่งส่งเสริมอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้ดีขึ้น มีการดูแลให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในการดูแลจัดการระบบ และมีสัตวบาลคอยดูแล พร้อมทั้งนโยบายการประกันราคาไข่ไก่ ทำให้กิจการเสน่ห์ฟาร์มนั้นมีรายได้ที่แน่นอน ไม่ต้องยืนอยู่บนความเสี่ยง จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปกว่า 10 ปี แล้ว ที่การทำฟาร์มไก่ไข่นี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นและประสบความสำเร็จในอาชีพ
“ตอนนี้ผมก็มีอาชีพมั่นคง มีรายได้ที่ดี มีความสุขในอาชีพ แม้จะมีเพียงแขนเดียวก็ตาม”
ชีวิตที่ต้องผ่านอุปสรรคปัญหามากมายของ เสน่ห์ ธูปหอม ทำให้นึกถึงวลีที่ว่า ‘ลิขิตฟ้า หรือ จะสู้ มานะตน’ ที่ถึงแม้จะมีแขนเพียงข้างเดียวแต่ก็ไม่อาจกีดขวางความสำเร็จของเขาได้
>>>>>>>>>>>>
………..
เรื่อง+ภาพ : สุภิญญา นาคมงคล