กาญจนบุรี - กระบะขนต่างด้าวชนท้ายรถบรรทุก 4 ล้อบรรทุกไม้ไผ่ ดับสยอง 2 ราย อีก 38 รายบาดเจ็บเกลื่อนถนน ถูกห้ามส่งโรงพยาบาล ขณะที่ รพ.เอกชนชื่อดังในเมืองกาญจน์ปฏิเสธรักษา หวั่นไม่มีเงินจ่าย
เมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ (7 มิ.ย.) พ.ต.ท.นาวา ปูดำ พนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่า เกิดเหตุรถยนต์กระบะบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพุ่งชนท้ายรถยนต์บรรทุกไม้ไผ่มีผู้เสียชีวิต ส่วนแรงงานต่างด้าวบาดเจ็บเกลื่อนถนน เหตุเกิดที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 30-31 ถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค หมู่ 9 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึง พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน บน 4501 กาญจนบุรี ลักษณะพลิกคว่ำท้องชี้ฟ้า สภาพด้านหน้าพังยับเยิน บริเวณเบาะคนขับมีผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่อ 1 ราย ส่วนบริเวณโดยรอบพบผู้บาดเจ็บเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ซึ่งมีทั้งชาย และหญิง รวมทั้งเด็ก ทั้งหมดตกกระเด็นลงมาจากรถยนต์กระบะจนเกลื่อนถนน อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด บางรายอยู่ในสภาพลำไส้ไหลทะลักออกมากองอยู่ที่บริเวณช่องท้อง และบางรายถูกของแข็งกระแทกเข้าที่บริเวณศีรษะจนกะโหลกเปิดเป็นแผลขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้พยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อช่วยเหลือชีวิตก่อนรีบลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนจำนวน 3 แห่ง
ประกอบด้วย โรงพยาบาลไทรโยค อ.ไทรโยค จำนวน 8 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 3 ราย โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จำนวน 7 ราย เป็นชาย 3 ราย เป็นหญิง 4 ราย และโรงพยาบาลท่าม่วง อ.ท่าม่วง จำนวน 24 ราย เป็นชาย 18 ราย หญิง 6 ราย รวมมีผู้บาดเจ็บจำนวน 39 ราย ต่อมา มีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาเป็นชาย 1 ราย เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวมแล้วมีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย บาดเจ็บ 38 ราย
ใกล้กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์บรรทุก 4 ล้อขนาดกลาง หมายเลขทะเบียน 80-9558 จ.ชัยนาท ซึ่งบรรทุกไม้ไผ่ลำยาวมาเต็มคันรถ โดยมีไม้ไผ่ตกหล่นลงมาจากบนรถลงมากองอยู่บริเวณกลางถนน และริมถนนเป็นจำนวนมาก สาเหตุเนื่องมาจากถูกรถยนต์กระบะที่ขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าชนเข้าท้ายรถอย่างแรง หลังเกิดเหตุ คนขับรถยนต์บรรทุกไม้ไผ่ได้อาศัยความมืดหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมตัวคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวมาทำการสอบสวนหาสาเหตุ และตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่าทั้งหมด 39 คน เสียชีวิต 1 คน ส่วนคนขับได้เสียชีวิตคาที่ เบื้องต้น ยังไม่ทราบว่าเป็นคนไทย หรือแรงงานต่างด้าว เนื่องจากตรวจค้นไม่พบเอกสารแสดงตนแต่อย่างใด และจากการสอบปากคำ พบว่าทุกคนไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ และไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงตนได้เช่นกัน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินคดีแรงงานต่างด้าวทั้งหมดที่รอดชีวิตในข้อหาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้นำแรงงานต่างด้าวที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะรักษาจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยให้เหตุผลว่า ผู้บาดเจ็บเป็นแรงงานต่างด้าว ทางโรงพยาบาลจึงไม่อยากรักษา เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาและค่ายา ทำให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์จำเป็นต้องนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลท่าม่วง ซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปอีกกว่า 10 กิโลเมตร
