เจ้าของคาราโอเกะ เครียดเงินไม่ค่อยไหลเข้าร้าน ประกอบกับน้อยใจภรรยาต่อว่าเรื่องกินเหล้า เลยคิดสั้นยิงตัวตาย พบก่อนตายได้เขียนระบายความรู้สึกน้อยใจ พร้อมต่อว่าภรรยาต่างๆ นานา
วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ เจริญรุ่ง พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต เหตุเกิดภายในร้านพาราไดซ์คาราโอเกะ 1 เลขที่ 33 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงและเขตดินแดง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา รองผกก.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ต.ประทีป ศรีหรั่งไพโรจน์ สวป.สน.สุทธิสาร แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น คูหาเดียว ประกอบกิจการร้านคาราโอเกะหยอดเหรียญ บริเวณชั้นล่าง ด้านหลังร้านดังกล่าวที่หลังเคาน์เตอร์เก็บเงินพบศพ นายวินัย ทองคำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 10 ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง สภาพศพนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบมีพนักพิง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ กะโหลกเปิด มันสมองกระจายเต็มพื้น ใกล้กันพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ภายในบรรจุกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ตกอยู่ข้างลำตัว ภายในกระเป๋าคาดเอวที่ผู้ตายสวมใส่มีกระสุนขนาดดังกล่าวอยู่อีก 1 นัด รวมทั้งบริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงินพบกระดาษบิลเงินสด ภายในมีข้อความระบุถึงความเหน็ดเหนื่อยที่เปิดร้านมา 1 ปี เพื่อบุคคลที่กล่าวถึงและลูก แต่พอร้านรุ่งโรจน์บุคคลดังกล่าวกับทำเป็นเหินห่าง เหนื่อยเหลือเกินกับสภาวะแบบนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อความไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายนพดล ช้างศรี อายุ 20 ปี ลูกเลี้ยงของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายอยู่กินกับมารดาตนมา 3 ปี และเพิ่งเปิดร้านดังกล่าวมานาน 1 ปีเศษ โดยมี 2 สาขาอยู่ไม่ห่างกัน ซึ่งระยะหลังผู้ตายเกิดความเครียด เนื่องจากลูกค้าลดลง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย และมักนั่งดื่มสุรา พร้อมบ่นน้อยใจภรรยาที่ต่อว่าเรื่องดื่มสุราในเวลาที่ร้านเปิด ก่อนเกิดเหตุตนอยู่กับเพื่อนที่ร้าน 5 คน ซึ่งผู้ตายและแม่ของตนไปดูแลร้านพาราไดซ์คาราโอเกะ สาขา 2 และผู้ตายได้ดื่มสุราจนเกิดอาการเมา จนกระทั่งกลับมาที่ร้านดังกล่าวเวลา 05.30 น.โดยตนเป็นผู้เปิดประตูให้ ซึ่งตนก็เห็นผู้ตายถือปืนดังกล่าวมา พร้อมทั้งบ่นน้อยใจเรื่องชีวิตอยู่เช่นเดิม และขอให้ตนต่อสายโทรศัพท์ไปหาแม่ของตน ซึ่งแม่ของตนได้บอกกับผู้ตาย ว่า รู้สึกปวดท้องจะให้พาไปโรงพยาบาล ซึ่งผู้ตายบอกว่ารู้แล้ว ตนจึงออกมาหน้าร้าน เพื่อจะขี่ จยย.พาแม่ตนไปหาหมอ แต่เมื่อตนมายืนหน้าร้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น แล้วพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
ทางด้าน นางสมบูรณ์ ศรีเดช อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนกับผู้ตายอยู่กินกันมา 3 ปี ซึ่งผู้ตายเป็นคนที่ชอบเก็บตัวเงียบ เวลามีปัญหาอะไรชอบเก็บไว้ไม่ชอบระบายให้ใครฟัง อีกทั้งเป็นคนขี้น้อยใจ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับตนได้มาอยู่ที่ร้านพาราไดซ์ 2 โดยผู้ตายนั่งดื่มสุราอยู่ ซึ่งตนได้ต่อว่าไปว่าอย่ากินเหล้าในเวลาทำงานกับลูกค้า อีกทั้งตนได้บอกว่าตนรู้สึกปวดท้อง แต่ผู้ตายไม่สนใจ จากนั้นผู้ตายได้ไปยังร้านดังกล่าว เพื่อไปกินเบียร์ต่อ ต่อมาผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตน ตนจึงบอกว่าให้พาไปหาหมอด้วย ซึ่งผู้ตายตอบว่ารู้แล้ว แต่แล้วผู้ตายก็ไม่มา ตนจึงไปซื้อยามาทานเองจนกลับมาพบว่าผู้ตายเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ภายหลัง 2-3 วันนี้ผู้ตายชอบบ่นว่าคิดถึงแม่ อยากไปอยู่กับแม่ของผู้ตาย ทั้งที่แม่ของผู้ตายเสียชีวิตไปตั้งแต่ผู้ตายอายุเพียง 18 ปี ตนไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ในส่วนของอาวุธปืนตนเพิ่งทราบได้ประมาณ 1 เดือน ว่า ผู้ตายมีปืนดังกล่าว และเมื่อตนสอบถามว่าปืนดังกล่าวมีที่มาอย่างไร สามีตนได้แต่บอกว่าซื้อมาจากเพื่อน และเหตุที่มีเพราะว่าป้องกันตัว และขอไม่ให้ตนยุ่ง เพราะเป็นเรื่องของผู้ชายที่จะมีปืนเก็บไว้
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานสาเหตุในการตายครั้งนี้ ว่า ผู้ตายเกิดอาการน้อยใจภรรยาที่ถูกต่อว่าเรื่องดื่มสุรา รวมทั้งมีปัญหาเรื่องกิจการประกอบกับดื่มสุราทำให้คิดสั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจคราบเขม่าดินปืน และเก็บรอยนิ้วมือของทุกคนที่อยู่ในร้านไว้เป็นหลักฐานก่อนจะเรียกผู้อยู่ในที่เกิดเหตุสอบปากคำโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.กิตติศักดิ์ เจริญรุ่ง พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต เหตุเกิดภายในร้านพาราไดซ์คาราโอเกะ 1 เลขที่ 33 ถ.สุทธิสารวินิจฉัย แขวงและเขตดินแดง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.ธงชนะ หาญกิตติกาญจนา รองผกก.สส.สน.สุทธิสาร พ.ต.ต.ประทีป ศรีหรั่งไพโรจน์ สวป.สน.สุทธิสาร แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น คูหาเดียว ประกอบกิจการร้านคาราโอเกะหยอดเหรียญ บริเวณชั้นล่าง ด้านหลังร้านดังกล่าวที่หลังเคาน์เตอร์เก็บเงินพบศพ นายวินัย ทองคำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 10 ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง สภาพศพนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบมีพนักพิง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ กะโหลกเปิด มันสมองกระจายเต็มพื้น ใกล้กันพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ภายในบรรจุกระสุนลูกซองขนาดเบอร์ 12 ตกอยู่ข้างลำตัว ภายในกระเป๋าคาดเอวที่ผู้ตายสวมใส่มีกระสุนขนาดดังกล่าวอยู่อีก 1 นัด รวมทั้งบริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงินพบกระดาษบิลเงินสด ภายในมีข้อความระบุถึงความเหน็ดเหนื่อยที่เปิดร้านมา 1 ปี เพื่อบุคคลที่กล่าวถึงและลูก แต่พอร้านรุ่งโรจน์บุคคลดังกล่าวกับทำเป็นเหินห่าง เหนื่อยเหลือเกินกับสภาวะแบบนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บข้อความไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายนพดล ช้างศรี อายุ 20 ปี ลูกเลี้ยงของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายอยู่กินกับมารดาตนมา 3 ปี และเพิ่งเปิดร้านดังกล่าวมานาน 1 ปีเศษ โดยมี 2 สาขาอยู่ไม่ห่างกัน ซึ่งระยะหลังผู้ตายเกิดความเครียด เนื่องจากลูกค้าลดลง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย และมักนั่งดื่มสุรา พร้อมบ่นน้อยใจภรรยาที่ต่อว่าเรื่องดื่มสุราในเวลาที่ร้านเปิด ก่อนเกิดเหตุตนอยู่กับเพื่อนที่ร้าน 5 คน ซึ่งผู้ตายและแม่ของตนไปดูแลร้านพาราไดซ์คาราโอเกะ สาขา 2 และผู้ตายได้ดื่มสุราจนเกิดอาการเมา จนกระทั่งกลับมาที่ร้านดังกล่าวเวลา 05.30 น.โดยตนเป็นผู้เปิดประตูให้ ซึ่งตนก็เห็นผู้ตายถือปืนดังกล่าวมา พร้อมทั้งบ่นน้อยใจเรื่องชีวิตอยู่เช่นเดิม และขอให้ตนต่อสายโทรศัพท์ไปหาแม่ของตน ซึ่งแม่ของตนได้บอกกับผู้ตาย ว่า รู้สึกปวดท้องจะให้พาไปโรงพยาบาล ซึ่งผู้ตายบอกว่ารู้แล้ว ตนจึงออกมาหน้าร้าน เพื่อจะขี่ จยย.พาแม่ตนไปหาหมอ แต่เมื่อตนมายืนหน้าร้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น แล้วพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
ทางด้าน นางสมบูรณ์ ศรีเดช อายุ 37 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนกับผู้ตายอยู่กินกันมา 3 ปี ซึ่งผู้ตายเป็นคนที่ชอบเก็บตัวเงียบ เวลามีปัญหาอะไรชอบเก็บไว้ไม่ชอบระบายให้ใครฟัง อีกทั้งเป็นคนขี้น้อยใจ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับตนได้มาอยู่ที่ร้านพาราไดซ์ 2 โดยผู้ตายนั่งดื่มสุราอยู่ ซึ่งตนได้ต่อว่าไปว่าอย่ากินเหล้าในเวลาทำงานกับลูกค้า อีกทั้งตนได้บอกว่าตนรู้สึกปวดท้อง แต่ผู้ตายไม่สนใจ จากนั้นผู้ตายได้ไปยังร้านดังกล่าว เพื่อไปกินเบียร์ต่อ ต่อมาผู้ตายได้โทรศัพท์มาหาตน ตนจึงบอกว่าให้พาไปหาหมอด้วย ซึ่งผู้ตายตอบว่ารู้แล้ว แต่แล้วผู้ตายก็ไม่มา ตนจึงไปซื้อยามาทานเองจนกลับมาพบว่าผู้ตายเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ภายหลัง 2-3 วันนี้ผู้ตายชอบบ่นว่าคิดถึงแม่ อยากไปอยู่กับแม่ของผู้ตาย ทั้งที่แม่ของผู้ตายเสียชีวิตไปตั้งแต่ผู้ตายอายุเพียง 18 ปี ตนไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ ในส่วนของอาวุธปืนตนเพิ่งทราบได้ประมาณ 1 เดือน ว่า ผู้ตายมีปืนดังกล่าว และเมื่อตนสอบถามว่าปืนดังกล่าวมีที่มาอย่างไร สามีตนได้แต่บอกว่าซื้อมาจากเพื่อน และเหตุที่มีเพราะว่าป้องกันตัว และขอไม่ให้ตนยุ่ง เพราะเป็นเรื่องของผู้ชายที่จะมีปืนเก็บไว้
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานสาเหตุในการตายครั้งนี้ ว่า ผู้ตายเกิดอาการน้อยใจภรรยาที่ถูกต่อว่าเรื่องดื่มสุรา รวมทั้งมีปัญหาเรื่องกิจการประกอบกับดื่มสุราทำให้คิดสั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจคราบเขม่าดินปืน และเก็บรอยนิ้วมือของทุกคนที่อยู่ในร้านไว้เป็นหลักฐานก่อนจะเรียกผู้อยู่ในที่เกิดเหตุสอบปากคำโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
