xs
xsm
sm
md
lg

เมืองพระดุ ฆาตกรรมวันเดียว 3 รายซ้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - เมืองพระดุอีกแล้ว วันเดียวฆาตกรรม 3 รายซ้อน รายแรกมือปืนเหี้ยมใช้เอ็ม 16 ถล่มสาวใหญ่เสียชีวิตคาที่ถัดมาฟันคอหวิดขาดปมชู้สาวอีกรายลูกช่วยพ่อถูกทำร้ายถูกแทงสวนเสียชีวิต

เหตุการณือุกฉกรรจ์ในพื้นที่นครศรีธรรมราช ถึง 3 รายซ้อนรายแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา เมื่อเวลา 03.30 น.ของวันนี้ (5 พ.ย.) พ.ต.ท.ประพฤติ พูนศักดิ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมโดยคนร้ายใช้อาวุธสงคราม ที่บ้านเลขที่ 28 ม.5 ต.แก้วแสน อ.นาบอน หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เกษมสุข วิชัยธนพัฒน์ ผกก.สภ.นาบอน พ.ต.ท.สมคิด ดำเกลี้ยง รอง ผกก.สส.นำกำลังตำรวจชุดสอบสวน แพทย์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจนาบอนรุดไปตรวจสอบที่บ้านดังกล่าว

ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นโถงของบ้านที่เปิดโล่ง พบศพนางมาลี พรมวิเศษ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านนอนฟุบสิ้นใจตายจมกองเลือดอยู่ในชุดนอนลายลูกไม้สีแดง สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้าที่แก้มขวา 2 นัด หน้าผาก 2 นัด กะโหลกเปิด ทั้งเลือดมันสมองกระจายทั่วบริเวณ โดยในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 ตกอยู่ 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้น นายเดโช พรมวิเศษ อายุ 44 สามีของนางมาลีผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่าตนมีอาชีพรับเหมาถมดินและทำสวนยางพารา ก่อนเกิดเหตุตนกลับมาจากทำงานรับเหมาถมที่ช่วงดึก เมื่อมาถึงนางมาลีผู้ตายก็ได้ยกสำรับกับข้าวมานั่งทานในครัวหลังบ้าน โดยนางมาลีร่วมทานอยู่ด้วย จากนั้นได้ยินเสียงรถ จยย.เข้ามาจอดที่ข้างบ้าน และได้ยินเสียงสุนัขเห่าอยู่นานพอสมควร จึงให้นางมาลีไปดูว่าใครมาในช่วงดึก

จากนั้นนางมาลี ก็ได้ไปชะเง้อดูทางช่องลมจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 เหนี่ยวไกปืนยิงรัว 1 ชุด กระสุนถูกนางมาลีล้มลงเสียชีวิตคาที่ทันที ส่วนตนนั้นได้หมอบเพื่อหลบวิถีกระสุน ก่อนคนร้ายจะไปสตาร์ทรถ จยย.ขับหลบหนีไปทันที จากนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จึงแจ้งตำรวจให้มาสอบสวนในเวลาต่อมา

ส่วนสาเหตุการตายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัด เพราะไม่แน่ใจว่าคนร้ายเจาะจงจะมายิงนางมาลีหรือนายเดโชสามีกันแน่ แต่ในเบื้องต้นได้สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากขัดแย้งผลประโยชน์ธุรกิจถมดินของนายเดโช สามีของผู้ตาย ซึ่งนายเดโชผู้ตายนั้นรู้จักคนมากถือว่าเป็นคนกว้างขวางในวงการธุรกิจถมดิน เนื่องจากการรับเหมาถมดินของนายเดโชนั้นทำดีแต่ราคาถูก อาจจะไปตัดราคาผู้รับเหมารายอื่นก็ได้ และการทำธุรกิจรับเหมาถมดินของนายเดโชงานเข้าจนทำเกือบไม่ทัน อาจจะทำให้ผู้รับเหมารายอื่นโกรธแค้นที่เสียผลประโยชน์ จึงได้ส่งมือปืนซึ่งน่าจะเป็นคนในพื้นที่และมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ขับรถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อทะเบียนมาจอดข้างบ้าน แม้สุนัขเห่าคนร้ายก็ไม่กลัว ก่อนจะเข้าไปชะเง้อดูทางช่องลม เมื่อนางมาลีออกไปดูคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16ยิงถล่มใส่ทันที คาดว่าคนร้ายไม่น่าจะรู้ว่าเหยื่อกระสุนเป็นใคร

พ.ต.ท.สมคิด ดำเกลี้ยง รอง ผกก.สส.สภ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เป้าหมายของคนร้ายในการบุกยิงถล่มในครั้งนี้อาจจะเป็นนายเดโช หรือเป็นการบุกยิงใครก็ได้เพื่อเป็นการข่มขวัญกัน ตอนนี้ทางตำรวจกำลังทำการสืบสวนสอบสวนและตั้งประเด็นการตายไว้ที่ขัดแย้งธุรกิจรับเหมาถมดิน แต่ก็จะสอบสวนเรื่องโกรธแค้นส่วนตัวด้วย เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป.

รายต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ร.ต.ท.วิโรจน์ ชุมพงศ์ ร้อยเวร สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 169 ม.7 ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จึงเข้ารทำการสอบสวน ในที่เกิดเหตุพบนายสรพงษ์ วงจันทร์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/22 ม.2 ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิตอยู่ในสภาพนั่งพิงเก้าอี้หินอ่อน มีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดพร้าที่ข้อมือซ้ายขาดกระเด็น และฟันที่บริเวณลำคอหวิดขาด เลือดแดงฉานทั่วบริเวณ โดยบนโต๊ะหินอ่อนมีขวดเหล้าและจานกับแกล้มตั้งอยู่เต็มโต๊ะ

นายสุพัฒน์ หยูทองอินทร์ อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุให้การกับตำรวจว่า นายสรพงษ์ผู้ตายได้มาหานางอมรรัตน์ นุ่นสกุล อายุ 50 ปี ภรรยาของตน และตั้งวงดื่มเหล้ากันที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน โดยมีตนเองพร้อมผู้ตายและนางอมรรัตน์ ร่วมวงดื่มด้วยกันกันจนเมามาย ปรากฏว่านายสรพงษ์ ผู้ตาย

ระหว่างที่นั่งดื่มนายสรพงษ์ ซึ่งมีอาการเมาเหล้าได้ลวนลามนางอมรรัตน์ จับมือถือแขนตลอดเวลาในเวลาเดียวกันได้มีนายเบญจพล เคียนทอง อายุ 18 ปี ลูกชายของนางอมรรัตน์ ซึ่งเป็นลูกติดจากสามีคนเก่า มาเห็นแม่ถูกนายสรพงษ์ผู้ตายลวนลาม จึงเข้าห้ามแต่โดนนายสรพงษ์ต่อว่าว่าเด็กให้อยู่ตามประสาเด็กอย่ามายุ่งเรื่องผู้ใหญ่ เท่านั้นทำให้นายเบญจพล โกรธสุดขีดวิ่งไปหยิบอาวุธมีดพร้าหลังบ้านออกฟันนายสรพงษ์ผู้ตาย จนมือและคอขาดตายสยองคาที่ จากนั้นนายเบญจพล ก็วิ่งหลบหนีไปทันที

จากคำให้การของนายสุพัฒน์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากแนวทางการสืบสวนพบว่านายสุพัฒน์ เพิ่งอยู่กินกับนางอมรรัตน์ได้เพียง 2 เดือน ขณะที่นายสรพงษ์ติดพันกับนางอมรรัตน์อยู่ด้วยและตามมาจีบนางอมรรัตน์ถึงบ้านสามีใหม่ อาจจะสร้างความแค้นกับนายสุพัฒน์ จึงใช้มีดพร้าฟันจนตายคาที่แล้วโยนความผิดให้กับนายเบญจพล ลูกเลี้ยง ซึ่งตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่แท้จริงต่อไป

และเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันเดียวกัน ร.ต.อ.เอกวิทย์ เกิดสิริ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งจากโรงพยาบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ว่ามีคนถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจึงเข้าทำการสอบสวน พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายคำรณ วงศ์เลี้ยง อายุ 20 ปี อยู่ 54 ซ.นาวัด ต.ในเมือง อ.เมือง สภาพถูกแทงเข้าบริเวณลำตัวหลายแผลด้วยกัน

สอบสวนเบื้องต้นได้ความว่านายคำรณถูกแทงมาจากบ้านพักจึงเข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรอยเลือดและ นายคำภูชา วงศ์เลี้ยง อายุ 54 ปี บิดาให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายประยูร ไม่ทราบนามสกุลอายุประมาณ 60 ปี หลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไป

นายคำภูชา แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนเกิดเหตุนั้นนายประยูรได้มาขออาศัยอยู่ด้วยกับตน เนื่องจากมาติดพันบุตรสาวของตนแม้ว่านายประยูรจะอายุ 60 ปีแล้วก็ตาม แต่ตนไม่ยอมจนนายประยูรพยายามเข้ามาทำร้าย แต่ด้วยที่ตนมีโรคประจำตัวจึงสู้ไม่ได้นายคำรณบุตรชายได้เข้ามาช่วยเหลือ นายประยูรจึงใช้อาวุธมีดแทงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อนบ้านได้ช่วยกันพาส่งโรงพยาบาล ส่วนนายประยุรหลบหนีไปกระทั่งนายคำรณมาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น