ระยอง - นายอำเภอเมืองระยอง ทำโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด นำเยาวชนพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วมนับร้อยคน
วันนี้ (6 มิ.ย.55) ที่ห้องประชุมกองพันทหารราบที่ 7 กองพลนาวิกโยธิน ค่ายมหาสุรสิงหนาท ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง นายธาตรี นา มะสินธิ ปลัดจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดโครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด โดยอำเภอเมืองระยอง ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลตะพง องค์การบริหารส่วนตำบลเพ สำนักงานสาธารณสุข สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง และสถานีตำรวจภูธรเพ ร่วมกันจัดขึ้นมีนายนิพนธ์ เลิศศรีสุวัฒนา นายอำเภอเมืองระยอง ให้การต้อนรับพร้อมกล่าวรายงาน มีผู้นำองค์กรส่วนท้องถิ่น นายตำรวจ วิทยากร เจ้าหน้าที่ และเยาวชนกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดเข้าร่วมโครงการจำนวน 100 คน
นายนิพนธ์ เลิศศรีสุวัฒนา นายอำเภอเมืองระยอง กล่าวว่า โครงการค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด โดยการนำเยาวชนกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดที่สมัครใจ อายุระหว่าง 15 - 30 ปี ในพื้นที่ อ.เมืองระยอง จำนวน 100 คน ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายแก้ไขเรื่องปัญหายาเสพติดและมีเหตุทะเลาะวิวาทกัน ขานรับนโยบายต่อต้านยาเสพติดตามหลักยุทธศาสตร์ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เพื่อ ขับเคลื่อนดำเนินการแก้ไขยาเสพติด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งอยู่ในระหว่างบำบัด หลังจากบำบัด หรือสมัครใจ ได้รับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลับเป็นคนดีของสังคมและเป็นกำลังสำคัญในการ ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อช่วยลดระดับความรุนแรงของปัญหาในกลุ่มผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่
รวมทั้งเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ทักษะความคิด สร้างภูมิคุ้มกันทางด้านร่างกาย จิตใจให้กับกลุ่มผู้เข้ารับการเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้หวนกลับไปใช้ยาเสพติด อีก ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นกระบวนบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพแบบกลุ่ม บำบัด เน้นการปรับเปลี่ยนความคิดและฟื้นฟูสมรรถภาพแบบกลุ่มบำบัด ปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เข้าใจความเป็นจริง รวมทั้งการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด โรคสมองติดยา โทษและพิษภัยของยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ และการฝึกปฏิบัติทักษะการเลิกยาเสพติดอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแต่ละฐานที่ให้ความรู้เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดทุก ชนิดโดยทำการฝึกอบรมเป็นเวลา 9 วัน
นายธาตรี นามะสนธิ ปลัดจังหวัดระยอง กล่าวว่า ความหมายของยุทธศาสตร์ 7 แผน 4ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เริ่มจาก 7 แผนประกอบด้วย แผนสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด แผนแก้ไขปัญหาผู้เสพยาเสพติด รัฐบาลตั้งเป้าลดผู้เสพให้ได้ภายใน 4 ปี สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติด แผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย โดยจะลดผู้ผลิตและผู้ลำเลียงในทุกระดับ โดยบังคับใช้กฎหมายนิติธรรมอย่างเคร่งครัด แผนความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านใช้นโยบายเชิงรุกพัฒนาพื้นที่แนวชายแดน แผน สกัดกั้นยาเสพติดแนวชายแดนและแผนบริหารจัดการแบบบูรณการ ส่วน 4 ปรับ
คือ ปรับปรุงข้อมูลการข่าวถูกต้อง ทันสมัย ปรับบทบาทพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐ ปรับกฎหมาย กฎระเบียบและปรับทัศนคติของสังคม ชุมชน ขณะที่ 3 หลัก คือ หลักเมตตาธรรม รักในเพื่อนมนุษย์ นิติธรรม กฎหมายมาใช้อย่างจริงจัง และยึดพื้นที่เป็นตัวตั้งของการแก้ปัญหา และสุดท้าย 6 เร่ง คือเร่งดำเนินการในด้านข้อมูลปัญหายาเสพติด เร่งลดจำนวนผู้เสพติด เร่งแสวงหาความร่วมมือต่างประเทศและสกัดกั้นยาเสพติด เร่งปราบปรามผู้ค้า ลดความเดือดร้อนประชาชน เร่งแก้ปัญหาเยาวชนกลุ่มเสี่ยงทั้งในและนอกสถานที่ และเร่งสร้างหมู่บ้าน ชุมชนให้เข้มแข็ง และหลังจากนี้จะมีการเชิญผู้นำชุมชนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคพลเมืองมาร่วม เปิดเวทีเสวนาหาแนวทางแก้ปัญหาพร้อมกันแบบบูรณการ รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามควบคู่กันไป