สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว เปิดปฏิบัติการ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ประกาศวาระสำคัญเร่งด่วน น้อมนำกระแสพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นแนวทางแก้ไขปัญหา และให้ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง ปฏิบัติตาม 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง
วันนี้ (3 ต.ค.) ณ หอประชุมปางสีดา ศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้รับมอบหมายจากนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสระแก้ว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ จากนโยบายรัฐบาลได้ประกาศนโยบายให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกทุกภาคส่วนต้องร่วมมือทำงานอย่าง บูรณาการ เพื่อลดความรุนแรงให้ได้ภายใน 1 ปี โดยกำหนดกลยุทธ์ ประกอบด้วย 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ซึ่ง 7 แผน
ประกอบด้วย แผนสร้างพลังสังคมชุมชนเอาชนะยาเสพติด แผนแก้ไขปัญหาผู้เสพ แผนสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันแผนปราบปรามยาเสพติด และบังคับใช้กฎหมาย แผนความร่วมมือระหว่างประเทศ แผนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน และแผนบริหารจัดการแบบบูรณาการ 4 ปรับ ได้แก่ปรับปรุงข่าวให้ทันสมัย ปรับบทบาทพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปรับกฎหมาย กฎระเบียบ และปรับทัศนคติสังคม ชุมชน 3 หลัก ได้แก่ หลักเมตตา หลักนิติธรรม และหลักแก้ไขปัญหายึดพื้นที่เป็นที่ตั้ง และ 6 เร่ง ได้แก่ เร่งดำเนินการด้านข้อมูล เร่งลดจำนวนผู้เสพ เร่งแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศ เร่งปราบปรามผู้ค้า เร่งแก้ปัญหาเยาวชน กลุ่มเสี่ยง และเร่งสร้างชุมชนและหมู่บ้านให้เข้มแข็ง
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จากการปราบปรามยาเสพติด 10 ปีที่ผ่านมา ปัญหายาเสพติดจังหวัดสระแก้วมีแนวโน้มลดลง แต่ไม่มากนัก ดูจากสถิติการนำเข้าทั้งประเทศ จังหวัดสระแก้วมีการนำเข้ายาเสพติดเพียง 1.7 % และในปี 2553 เหลือเพียง 0.7% ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยที่ถูกจับได้ มีรายใหญ่ที่ถูกจับได้เมื่อปี 2553 เป็นยาบ้า ประมาณ 60,000 เม็ด
กลุ่มเป้าหมายที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มนักเรียนและเยาวชน ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ได้มอบนโยบายผู้บริหารสถานศึกษา หนึ่งโรงเรียน จับคู่กับนายตำรวจกับผู้ปกครอง และเนื่องจากจังสระแก้ว เป็นจังหวัดชายแดนมีพรหมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านระยะทาง 165 กิโลเมตร ที่สำคัญจะต้องสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดกั้นยาเสพติด ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีกับจังหวัดเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ถือเป็นจุดเด่นและมีหมู่บ้านคู่ขนานตามแนวชาย ที่คอยสกัดกั้นยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนในระดับพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน มอบหมายให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ อสม.ให้ผู้รับผิดชอบ ในการสืบค้น เอ็กซเรย์ การให้เข้ามาบำบัดโดยสมัครใจ หรือกึ่งบังคับ รวมทั้งส่งเสริมอาชีพ หลังจากผู้ที่ผ่านการฟื้นฟูบำบัด ซึ่งตั้งเป้าหมายภายในหนึ่งปีปัญหายาเสพติดจังหวัดสระแก้วจะต้องลดลง หรืออย่างน้อยลดลง 80%
วันนี้ (3 ต.ค.) ณ หอประชุมปางสีดา ศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้รับมอบหมายจากนายฐานิสร์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสระแก้ว โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน เข้าร่วมในพิธีครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน
ทั้งนี้ จากนโยบายรัฐบาลได้ประกาศนโยบายให้การแก้ไขปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกทุกภาคส่วนต้องร่วมมือทำงานอย่าง บูรณาการ เพื่อลดความรุนแรงให้ได้ภายใน 1 ปี โดยกำหนดกลยุทธ์ ประกอบด้วย 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ซึ่ง 7 แผน
ประกอบด้วย แผนสร้างพลังสังคมชุมชนเอาชนะยาเสพติด แผนแก้ไขปัญหาผู้เสพ แผนสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันแผนปราบปรามยาเสพติด และบังคับใช้กฎหมาย แผนความร่วมมือระหว่างประเทศ แผนสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน และแผนบริหารจัดการแบบบูรณาการ 4 ปรับ ได้แก่ปรับปรุงข่าวให้ทันสมัย ปรับบทบาทพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปรับกฎหมาย กฎระเบียบ และปรับทัศนคติสังคม ชุมชน 3 หลัก ได้แก่ หลักเมตตา หลักนิติธรรม และหลักแก้ไขปัญหายึดพื้นที่เป็นที่ตั้ง และ 6 เร่ง ได้แก่ เร่งดำเนินการด้านข้อมูล เร่งลดจำนวนผู้เสพ เร่งแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศ เร่งปราบปรามผู้ค้า เร่งแก้ปัญหาเยาวชน กลุ่มเสี่ยง และเร่งสร้างชุมชนและหมู่บ้านให้เข้มแข็ง
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จากการปราบปรามยาเสพติด 10 ปีที่ผ่านมา ปัญหายาเสพติดจังหวัดสระแก้วมีแนวโน้มลดลง แต่ไม่มากนัก ดูจากสถิติการนำเข้าทั้งประเทศ จังหวัดสระแก้วมีการนำเข้ายาเสพติดเพียง 1.7 % และในปี 2553 เหลือเพียง 0.7% ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยที่ถูกจับได้ มีรายใหญ่ที่ถูกจับได้เมื่อปี 2553 เป็นยาบ้า ประมาณ 60,000 เม็ด
กลุ่มเป้าหมายที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มนักเรียนและเยาวชน ส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ได้มอบนโยบายผู้บริหารสถานศึกษา หนึ่งโรงเรียน จับคู่กับนายตำรวจกับผู้ปกครอง และเนื่องจากจังสระแก้ว เป็นจังหวัดชายแดนมีพรหมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านระยะทาง 165 กิโลเมตร ที่สำคัญจะต้องสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดกั้นยาเสพติด ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีกับจังหวัดเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ถือเป็นจุดเด่นและมีหมู่บ้านคู่ขนานตามแนวชาย ที่คอยสกัดกั้นยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนในระดับพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน มอบหมายให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ อสม.ให้ผู้รับผิดชอบ ในการสืบค้น เอ็กซเรย์ การให้เข้ามาบำบัดโดยสมัครใจ หรือกึ่งบังคับ รวมทั้งส่งเสริมอาชีพ หลังจากผู้ที่ผ่านการฟื้นฟูบำบัด ซึ่งตั้งเป้าหมายภายในหนึ่งปีปัญหายาเสพติดจังหวัดสระแก้วจะต้องลดลง หรืออย่างน้อยลดลง 80%