ผู้ว่าฯจันท์รวมพลังทุกภาคส่วนเอาชนะยาเสพติด

จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด พร้อมรวมพลังทุกภาคส่วน ลดปัญหายาเสพติด เหลือ 80% ภายใน 1 ปี

วันนี้ (22 ธ.ค.) ณ ห้องจุลมณี 1 โรงแรมเคพีแกรนด์ จันทบุรี นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัด (ศพส.จ.) จันทบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดจันทบุรี พร้อมมอบนโยบายเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ตามนโยบายรัฐบาล ที่ได้กำหนดเป้าหมายให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด 80% ภายใน 1 ปี โดยมีผู้แทนจากสวนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้แทนจากภาคประชาชน กว่า 1,000 คน ร่วมรับมอบนโยบาย พร้อมกันนี้

ภายในงานได้จัดให้มีการอภิปรายเสวนาในห้อข้อ การแก้ปัญหายาเสพติดจังหวัดจันทบุรี โดยมีผู้แทนคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์ จ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมการเสวนา เนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องร่วมกันดำเนินการให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว โดยยึดหลักนิติธรรมในการปราบปรามลงโทษผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้มีอิทธิพล และผู้ประพฤติมิชอบโดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดหลักผู้เสพ คือ ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษาให้กลับมาเป็นคนดีของสังคมด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วน เป็นพลังแผ่นดินในการต่อสู้กับยาเสพติด

นายวิชิต กล่าวต่อไปว่า จังหวัดจันทบุรีได้ดำเนินการสนองตอบนโยบายของรัฐบาล โดยจัดตั้งศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติระดับพื้นที่ มีผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นผู้อำนวยการ ศพส.จ.จันทบุรี พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์รับผิดชอบในการกำกับติดตาม และประสานการปฏิบัติในแต่ละแผนยุทธศาสตร์ 4 คณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย ปลัดจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด และการบริหารจัดการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด

ส่วนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์ด้านการปราบปรามยาเสพติด พร้อมแต่งตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย ผู้แทนจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ตามแนว ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล ภายใต้กลยุทธ์ 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง ได้แก่
 
ยุทธศาสตร์ 7 แผน ประกอบด้วย 1) แผนสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด 2) แผนแก้ไขปัญหายาเสพติด 3) แผนสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันยาเสพติด 4) แผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย 5) แผนความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ใช้นโยบายเชิงรุกพัฒนาพื้นที่แนวชายแดน 6) แผนสกัดกั้นยาเสพติดแนวชายแดนและ 7) แผนบริหารจัดการแบบบูรณาการ
 
ยุทธศาสตร์ 4 ปรับ ประกอบด้วย 1) ปรับปรุงข้อมูลการข่าวให้ถูกต้อง ทันสมัย 2) ปรับบทบาทพฤติกรรมเจ้าหน้าที่รัฐ 3) ปรับกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ และ 4) ปรับทัศนคติของสังคม ชุมชนให้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
 
ยุทธศาสตร์ 3 หลัก ประกอบด้วย 1) หลักเมตตาธรรม 2) หลักนิติธรรม 3) ยึดหลักแก้ปัญหาโดยการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งของการแก้ปัญหา

นายวิชิต กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ 6 เร่ง ประกอบด้วย 1) เร่งดำเนินการในด้านข้อมูลด้านปัญหายาเสพติด 2) เร่งลดจำนวนผู้เสพติด 3) เร่งแสวงหาความร่วมมือต่างประเทศและสกัดกั้นยาเสพติด 4) เร่งปราบปรามผู้ค้า ลดความเดือดร้อนประชาชน 5) เร่งการแก้ไขปัญหาเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งในและนอกสถานที่และ 6) เร่งสร้างหมู่บ้านให้เข็มแข้ง