บุรีรัมย์ - จังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากรฯ และส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า จ.นครราชสีมา ผ่อนผันให้ชาวบ้านไร้ที่ทำกินที่เข้าไปบุกรุกป่าดงใหญ่กว่า 2 หมื่นไร่ทำกินชั่วคราวจนสิ้นฤดูกาลผลิตหรือจนกว่ารัฐบาลแก้ปัญหาได้เสร็จสิ้น เพื่อลดความขัดแย้งกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ หลังประชาชนเข้าร้องเรียนจังหวัดฯ ระบุเจ้าหน้าที่เข้าไปทำลายพืชเกษตรและข่มขู่
วันนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านผู้ไม่มีที่ทำกินที่เข้าไปบุกรุกจับจองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่หมดสัญญาสัมปทานกว่า 23,000 ไร่ เป็นที่ทำกิน ทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กลุ่มบ้านตลาดควาย และกลุ่มบ้านเก้าบาตร ร่วม 100 คน ได้เดินทางมารับฟังการแก้ไขปัญหาที่ทำกิน หลังได้เข้าร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเหยียบย่ำทำลายพืชผลการเกษตรที่ชาวบ้านเพาะปลูกไว้ และใช้อาวุธปืนข่มขู่ชาวบ้าน ไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลรับปากไว้ จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน และเรียกร้องให้ทางจังหวัดฯ แก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน
ล่าสุด นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายบัณฑิต คบหมู่ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า จ.นครราชสีมา, นายสุรพันธ์ จันทรประภา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชาวบ้านทั้ง 3 กลุ่มเพื่อแก้ไขปัญหาและลดความขัดแย้งที่เกรงจะบานปลาย
โดยที่ประชุมมีมติให้ชาวบ้านที่บุกรุกป่าดงใหญ่ได้ทำกินไปก่อนชั่วคราวจนสิ้นสุดฤดูกาลผลิตนี้หรือจนกว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่ทำกินให้แก่ชาวบ้านผู้ไม่มีที่ทำกินกลุ่มดังกล่าวเสร็จสิ้น
ด้านนายสุรพันธ์ จันทรประภา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กล่าวว่า การผ่อนผันให้ชาวบ้านทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ต้องอยู่ในวงจำกัดไม่ให้เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่เพิ่มเติมอีก รวมทั้งไม่ให้ปลูกพืชเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้น ปลูกได้เพียงพืชอายุสั้นได้เท่านั้น หากชาวบ้านรายใดฝ่าฝืนก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที ซึ่งจะเป็นการลดการกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
วันนี้ (1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านผู้ไม่มีที่ทำกินที่เข้าไปบุกรุกจับจองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ที่หมดสัญญาสัมปทานกว่า 23,000 ไร่ เป็นที่ทำกิน ทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กลุ่มบ้านตลาดควาย และกลุ่มบ้านเก้าบาตร ร่วม 100 คน ได้เดินทางมารับฟังการแก้ไขปัญหาที่ทำกิน หลังได้เข้าร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเหยียบย่ำทำลายพืชผลการเกษตรที่ชาวบ้านเพาะปลูกไว้ และใช้อาวุธปืนข่มขู่ชาวบ้าน ไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลรับปากไว้ จนเกิดการกระทบกระทั่งกัน และเรียกร้องให้ทางจังหวัดฯ แก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน
ล่าสุด นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายบัณฑิต คบหมู่ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า จ.นครราชสีมา, นายสุรพันธ์ จันทรประภา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชาวบ้านทั้ง 3 กลุ่มเพื่อแก้ไขปัญหาและลดความขัดแย้งที่เกรงจะบานปลาย
โดยที่ประชุมมีมติให้ชาวบ้านที่บุกรุกป่าดงใหญ่ได้ทำกินไปก่อนชั่วคราวจนสิ้นสุดฤดูกาลผลิตนี้หรือจนกว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่ทำกินให้แก่ชาวบ้านผู้ไม่มีที่ทำกินกลุ่มดังกล่าวเสร็จสิ้น
ด้านนายสุรพันธ์ จันทรประภา ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กล่าวว่า การผ่อนผันให้ชาวบ้านทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ต้องอยู่ในวงจำกัดไม่ให้เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่เพิ่มเติมอีก รวมทั้งไม่ให้ปลูกพืชเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้น ปลูกได้เพียงพืชอายุสั้นได้เท่านั้น หากชาวบ้านรายใดฝ่าฝืนก็จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทันที ซึ่งจะเป็นการลดการกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
