ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ศาลโคราชชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต “พ.อ.อ.พลภพ” ทหารทัพฟ้ามือปืนสังหารโหด ผอ.โรงเรียน อ.จักราช และภรรยาดับ ขณะขับรถกลับบ้าน ส่วน “ครูสาวใหญ่” ผู้จ้างวานจำคุกตลอดชีวิต แต่ยังปากแข็งปฏิเสธยื่นประกันตัวขอสู้ต่อชั้นอุทธรณ์ ขณะ “สาวกิ๊กมือปืน” คนขับรถวันสังหารศาลนัดฟังคำพิพากษา 19 กรกฎาคมนี้ ด้านญาติพี่น้องผู้ตายพอใจคำพิพากษา พร้อมขอบคุณตำรวจลากคนร้ายมาดำเนินคดีได้ยกแก๊ง
วันนี้ (1 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 20 ศาลจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายดนุพร คีรีกิจขจร ผู้พิพากษา ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีอาญา หมายเลขคดีดำ อ.1614/54 หมายเลขคดีแดง อ.1149/55 ในคดีฆ่านายสุฌาน นาศรี อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง อ.จักราช จ.นครราชสีมา และนางสุนันท์ นาศรี อายุ 49 ปี ภรรยาครูชำนาญการโรงเรียนเดียวกันเสียชีวิต ขณะขับรถยนต์กระบะเดินทางกลับบ้าน ได้มีคนร้ายขับรถกระบะตามประกบรถยนต์ของผู้ตาย ก่อนใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงถล่มเสียชีวิตคารถทั้ง 2 คน ส่วนลูกชายวัย 9 ขวบที่นั่งมาในรถรอดชีวิตหวุดหวิด เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา
โดยพนักงานอัยการจังหวัดนครราชสีมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางเพ็ชรีย์ สงวนดี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนบ้านหนองบัว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 ม.7 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำเลยที่ 1 กับพวก 2 คน คือ พันจ่าอากาศเอก (พ.อ.อ.) พลภพ ขนทอง ทหารอากาศ สังกัดกองพันปฏิบัติการพิเศษอากาศโยธิน กองทัพอากาศ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/171 ซ.สายไหม 23 (หมู่บ้านเก้าแสนห้า) แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ในวันนี้ นางเพ็ชรีย์ สงวนดี พร้อมด้วย พันจ่าอากาศเอก พลภพ ขนทอง จำเลยทั้ง 2 ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง ขณะที่บุตรชายและญาติพี่น้องของ นายสุฌาน นาศรี อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง และนางสุนันท์ นาศรี อายุ 49 ปี ภรรยาครูชำนาญการโรงเรียนเดียวกันที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต จำนวนกว่า 40 คน ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินให้จำเลยที่ 1 คือ นางเพ็ชรีย์ สงวนดี ผู้จ้างวาน จำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 2 พันจ่าอากาศเอก พลภพ ขนทอง มือปืน ศาลตัดสินลงโทษประหารชีวิต ซึ่งจำเลยทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ และขอต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป พร้อมยื่นขอประกันตัว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดนครราชสีมา
ส่วนจำเลยอีก 1 คนที่ร่วมกันฆ่าในคดีนี้ คือ น.ส.พรรณชนกพร ผมน้อย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/523 ซ.คู้บอน 20 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ ซึ่งมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับ พันจ่าอากาศเอก พลภพ ขนทอง จำเลยที่ 1 และทำหน้าที่ขับรถให้ พ.อ.อ.พลภพลงมือยิงผู้ตายทั้ง 2 คนในวันเกิดเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานและศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 19 กรกฎาคม 2555 นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรดาญาติพี่น้องและลูกของนายสุฌานต่างพอใจในคำพิพากษาของศาลที่ลงโทษคนผิด และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยติดตามตัวคนผิดมาดำเนินคดีได้ทั้งหมด ซึ่งนายสุฌาน และครอบครัวเป็นคนดี เป็นที่รักของชาวบ้านและครูในโรงเรียนทุกคน แม้จะจากไปอย่างไม่มีวันกลับแต่ยังคงทิ้งความดีเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้พูดถึงตลอดไป
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2553 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จักราชได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิง นายสุฌาน นาศรี อายุ 48 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองบัวกลาง อ.จักราช จ.นครราชสีมา และนางสุนันท์ นาศรี อายุ 49 ปี ภรรยาครูชำนาญการโรงเรียนเดียวกันเสียชีวิต ขณะขับรถยนต์กระบะเดินทางกลับบ้าน โดยคนร้ายขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ตามประกบรถยนต์นายสุฌาน ก่อนใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงถล่มจนเสียชีวิตคารถ ส่วนลูกชายวัย 9 ขวบที่นั่งมาในรถรอดตายหวุดหวิด
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2553 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม พ.อ.อ.พลภพ ขนทอง ทหารอากาศ สังกัดกองพันปฏิบัติการพิเศษอากาศโยธิน กองทัพอากาศ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/171 ซ.สายไหม 23 (หมู่บ้านเก้าแสนห้า) แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ มือปืน และนางเพ็ชรีย์ สงวนดี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนบ้านหนองบัว อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 ม.7 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับผู้ตายทั้งสองคน ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน พร้อมของกลางรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุ
สำหรับชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องวางแผนฆ่าผู้อำนวยการโรงเรียนครั้งนี้ เนื่องจากมีความขัดแย้งในหน้าที่การงานหลายเรื่องมานานร่วม 2 ปี ทั้งเรื่องการจัดงานภายในโรงเรียน การบริหารจัดการ และเรื่องอื่นๆ และยังพบว่าอดีตสามีนางเพ็ชรีย์ ซึ่งเป็นดาบตำรวจสังกัด สภ.ห้วยแถลง อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา มารักใคร่ชอบพอกับน้องสาวภรรยาของนายสุฌาน ผู้ตายทำให้นางเพ็ชรีย์ไม่พอใจ ประกอบกับเมื่อช่วงวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา ลูกชายนางเพ็ชรีย์ ซึ่งมีอาชีพเป็นทหารอากาศอยู่สังกัดเดียวกันกับ พ.อ.อ.พลภพ ผู้ต้องหา ได้นำเครื่องบินมาแสดงพร้อมโดดร่ม แต่นายสุฌานไม่เห็นด้วยจึงมีปัญหากันเรื่องเบิกค่าใช้จ่าย จึงนำมาสู่การสังหารโหดครั้งนี้
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2554 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม น.ส.พรรณชนกพร ผมน้อย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/523 ซ.คู้บอน 20 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ มีสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับมือปืน รับสารภาพว่าทำหน้าที่ขับรถยนต์ให้นายพลภพ มือปืนลงมือในวันเกิดเหตุจริง