xs
xsm
sm
md
lg

“ตู่-เต้น” ขึ้นเวทีเชียงใหม่-อัด ปชป.มันปาก กล่อมชาวบ้านอย่ากังวลของแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทย บนเวทีที่ จ.เชียงใหม่
“เพื่อไทย” เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัครเขต 3 เชียงใหม่ “ตู่” มันปากเล่านิทานเรื่องเก่า อ้าง ปชป.กักน้ำไว้ปล่อยใส่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ หวังคว่ำตั้งแต่ 3 เดือนแรก โวยเป็นรัฐบาลบงการฆ่า 2 ปี แต่กลับขวางแผนปรองดอง ยันจ่ายเยียวยาช่วยทั้งแดง-เหลือง ทหาร ตำรวจ “เต้น” โว พรรคแพ้ที่ปทมุฯ แค่อุบัติเหตุ โอ่รัฐบาลผลงานเยี่ยม อย่ากังวลของขึ้นราคา เหน็บฝ่ายค้านปลุกผีอีแพง

เวลา 17.00 น. วันที่ 12 พ.ค. พรรคเพื่อไทยได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อช่วยนายเกษม นิมมลรัตน์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่เป็นครั้งแรกที่สนามกีฬาโรงเรียนมัธยมสันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีแกนนำของพรรคผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัย เช่น นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. นอกจากนี้ยังมีแกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตร นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเวทีเรียกคะแนนด้วย โดยมีประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงมาฟังการปราศรัยกว่า 2 พันคน ทั้งนี้ ป้ายด้านหลังบนเวทีนั้นเป็นพื้นสีแดง เขียนสโลแกนของพรรคว่า “พรรคเพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย จริงใจลุยงานหนัก ก้มหัวให้ประชาชน”

นายจตุพรปราศรัยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวันสู้พรรคที่อยู่ในนามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ ไม่ว่าจะเป็นในนามพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย ถ้ามีการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวันสู้ได้ ประชาธิปัตย์แพ้มา 20 ปีจนบรรลุนิติภาวะ แพ้จนถึงวัยบวช และ 20 ปีที่พ่ายแพ้ ยังให้คนไปปล้นอำนาจมาให้อีก 2 รอบ ทั้งสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่เกิดกรณีงูเห่า และสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จัดตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร ประชาธิปัตย์รู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศครบ 4 ปี เลือกตั้งแล้วก็แพ้อีก และประชาธิปัตย์ก็จะฉลองแพ้ในวัยเบญจเพส ฉะนั้น ความหวังเดียวของพรรคประชาธิปัตย์คือการคว่ำรัฐบาลกลางคัน โดยการปลุกเร้าให้ประชาชนเข้าใจผิดรัฐบาล

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์ตั้งใจให้รัฐบาลอยู่แค่ 3 เดือน ตอนเป็นนายกฯ เก็บน้ำรอไว้ พอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้ามาเป็นนายกฯ ก็เปิดน้ำใส่จนท่วมระเนระนาด โชคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์รอดมาได้เพราะว่ายน้ำเป็น พรรคประชาธิปัตย์คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ตนได้บอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าจะเอาสไนเปอร์มายิงน้ำตามใจมันเหรอ ซึ่งก็ผ่านวิกฤตมาได้ ปีนี้ไม่เก็บน้ำเหมือนปีที่แล้ว พรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามเล่นเรื่องส่วนตัว โดยเอาเรื่องจากนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร ที่เขียนผ่านเฟซบุ๊กดูถูกสตรีภาคเหนือ นายเอกยุทธโกงแชร์ชาร์เตอร์ ถูกรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ จับหนีไปอยู่ประเทศอังกฤษ และพยายามโผล่กลับมาไทย บอกว่ามีเงิน อยากจะสนับสนุนพรรคการเมือง พรรคแมลงสาปตกใจเงิน นัดพบกันที่พรรคแล้วก็หายหน้าไป โผล่มาอีกทีเขียนข้อความต้องการขย้ำนายกฯ โดยบอกว่าสตรีภาคเหนือเป็นได้แค่ผู้หญิงขายตัว เขียนเสร็จก็หายตัวโผล่อีกทีที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ใบหน้าบวม

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ตอนที่นายกฯ ประชุมน้ำท่วมน้ำตาไหล พวกนี้เข้าใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะถอดใจลาออก เพราะเคยทำสำเร็จกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ที่เจอกระดาษเปล่าพ่อเป็นคนจีน ตัวนายบรรหารเกิดเมืองจีน เป็นนายกฯ ไม่ได้ ประชาธิปัตย์อ่านกระดาษเปล่าจนนายบรรหารตาลาย เตี้ยอยู่แล้วเลยทรุดหนักลงไปอีก อธิบายจนนายบรรหารจำที่เกิดตัวเองไม่ได้ จนต้องไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าตัวเองเกิดที่ไหน ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมบอกไปว่าก็เกิดที่ จ.สุพรรณบุรี สุดท้ายนายบรรหารต้องยุบสภา และวันนี้ประชาธิปัตย์คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะลาออก แต่ต้องผิดหวัง นอกจากไม่ลาออก ยังจะอยู่ให้ครบ 4 ปี และจะเป็นต่ออีก 4 ปี และ 4 ปี นอกจากนี้ยังทำตัวเป็นผู้ขัดขวางความปรองดอง เพราะรู้ว่าถ้าปรองดองสำเร็จบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยปกติ ไอ้พวกนี้จะเป็นพรรคฝ่ายค้านตลอดชาติ

“ช่วงที่พวกนี้เป็นรัฐบาล ใช้บงการฆ่า 2 ปี ลากกันไปมาเกือบ 3 ปี ขณะที่เสื้อแดงถูกศาลจำคุกแล้ว แต่พรรคประชาธิปัตย์บางคนยังแลบลิ้นปลิ้นปาก เดินแขนคด โดยไม่ต้องรับโทษอะไรจนถึงปัจจุบัน ผมขอเรียนว่าฝ่ายฆาตกรไม่เคยสำนึก แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีความเป็นมนุษย์ เมื่อได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำสมาชิกพรรคลุกขึ้นยืนไว้อาลัยสดุดีวีรชนที่พลีชีพเพื่อระบอบประชาธิปไตย เมื่อเป็นรัฐบาลก็ตัดสินใจเยียวยา ไม่ใช่เฉพาะเสื้อแดง ให้เสื้อเหลือง ตำรวจ ทหาร พรรคประชาธิปัตย์ก็ขัดขวาง ร้องศาลปกครอง แต่ศาลปกครองก็ยกฟ้องทุกกรณี” นายจตุพรกล่าว และว่าคนเสื้อแดงที่ยังถูกขัง ขณะนี้พวกเรายังอยู่ในความพยายามจะช่วยเหลือออกมาให้ได้ เพราะเป็นอำนาจของฝ่ายตุลาการ แต่เรือนจำที่คุมขังคนเสื้อแดงที่โรงเรียนพลตำรวจนครบาลบางเขน ตอนก่อสร้างออกแบบเผื่อไว้อีก 2 คน คือสร้างไว้เผื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายอภิสิทธิ์

นายจตุพรกล่าวต่อว่า วันนี้เราต้องประคับประคองรัฐบาลต่อไป ปัญหาต่างๆ เราแก้ได้ เรื่องปราบยาเสพติดทำได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เรื่องสินค้าราคาแพง เราจะสามารถฝ่าฟันวิกฤติไปด้วยกันได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ที่พูดแพง ๆ ท้ายที่สุดเหลือแพงที่เดียวคือเขาแพง ดินงอกตลอดจนจะล้นประเทศไทย ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะใช้เวทีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโจมตีรัฐบาล ยืนยันรัฐบาลแก้ไขแค่มาตราเดียว คือ 291 เปิดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 40 และ ส.ส.ร.จะไปฟังเสียงประชาชนว่าควรแก้มาตราใด ยกเว้นหมวดเดียวคือหมวดพระมหากษัตริย์ ที่เหลือระดมความคิดประชาชน เมื่อเจ้าของประเทศต้องการให้กติกาประเทศมีหน้าตาอย่างไร เมื่อเขียนรัฐธรรมนูญเสร็จจะส่งกลับให้ประชาชนลงมติว่ารับหรือไม่

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ที่มาวันนี้พูดตรงไปตรงมา ไม่ได้มาหาเสียงแต่มาหาคะแนนล้วนๆ เพื่อขับเคลื่อนสำแดงให้พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ได้แลเห็น เพราะนายอภิสิทธิ์ลำพองมาจากการเลือกตั้งจากที่ จ.ปทุมธานี พยายามบอกว่า 2 มิถุนายน จะเอาคะแนนที่ไหนไปเลือกพรรคเพื่อไทย แต่อยากจะบอกว่าคนที่จะเลือกพรรคเพื่อไทยคือคนที่รอดชีวิตจากคนที่เขาฆ่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย วันนี้สถานการณ์ทางการเมืองการเลือกตั้งซ่อมพรรคประชาธิปัตย์ พยายามทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล นายกฯ อยากจะบอกว่าที่ปทุมเป็นแค่อุบัติเหตุ และเราก็ยอมรับความจริง แต่การเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่ น.ส.ชินณิชา ไม่ได้ลาออกแต่ถูก ป.ป.ช.สอยออก โดยเลือกที่จะสอยเป็นบางพรรค ครอบครัวถูกครบทั้งพ่อแม่ตัดสิทธิครบทั้งพ่อ แม่ลูกไม่มีใครเสียเปรียบ และเราอยากจะเก็บคนของครอบครัวชินวัตรไว้บ้าง ไม่อยากจะให้โดนสอยอีก พรรคจึงเลือกนายเกษม ซึ่งไม่ใช่คนอื่นคนไกล สู้เคียงบาเคียงไหล่กับพรรคมาโดยตลอด ถ้าเลือกคนที่ตนไม่รู้จัก ตนก็ไม่เอา ดังนั้นต้องขอโอกาส

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า สถานการณ์ขณะนี้ถูกตั้งคำถามตลอดว่ารัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ถูกขู่ตลอด 3 เวลาหลังอาหาร พูดทุกครั้งว่าแก้รัฐธรรมนูญ หรือเรื่องปรองดอง และเอาทักษิณกลับมา จะทำให้รัฐบาลเจ๊งในทุกมิติ อยากจะบอกว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่นาน คือยู่ไม่เกิน 4 ปีแน่นอน สมัยหน้าก็เป็นรัฐบาลอีก และก็อยู่ไม่เกิน 4 ปี ต่อไปเรื่อยๆ พรรคเพื่อไทยมักน้อยเพราะกลัวฝ่ายค้านหมั่นไส้ แต่จะอยู่ 4 ปีไปเรื่อยๆ เพราะการทำงานผลงานก็มหาศาลเห็นชัดเจน ทั้งยาเสพติด พักหนี้ 3 ปี ลด 3 เปอร์เซ็นต์ เบี้ยยังชีพผู้เสียอายุ รวมถึงเรื่องการแจกแท็บเล็ต อีกทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำไว้ ทุกนโยบายยืนยันว่าถึงมือประชาชน

นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลว่าสินค้าแพง ไอ้พวกนั้นมันดูละครหนักเลยปลุกผีอีแพงมาหลอกประชาชน และให้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต หรือ นายเทพไท เสนพงษ์ มาหลอกแทนผีอีแพง ขณะเดียวกันสินค้าบางตัวยอมรับว่าแพง แต่นายกฯ ก็ให้รัฐมนตรีและหน่วยงานราชการไปดูแลแล้ว ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ เชื่อว่าในไตรมาสที่ 3 ราคาสินค้าจะปรับตัวลดลงเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมเมื่อช่วงปลายปีจะกลับมาผลิตได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง รวมทั้งนายกฯ ได้สั่งให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ดูแลสินค้าตั้งแต่แหล่งผลิต จนถึงมือผู้บริโภค ส่วนฝ่ายค้านก็เหลือเกินปลุกผีอีแพงทุกวัน นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่โต้เถียง ก็กระแนะกระแหน และเลยเถิดไปฟัดกับปลัดพาณิชย์ จึงอบรมบ่มนิสัย จึงอยากขอให้ประชาชนตั้งสติ เพราะเวลานี้ประชาชนไม่ได้เดือดร้อนจนถึงขั้นต้องต่อแถวซื้อน้ำมันปาล์ม หรือชั่งไข่ขาย และเรื่องของการเมืองไม่ต้องห่วง ถ้ามีขบวนการล้มรัฐบาลอีกไม่ต้องกลัวว่าจะมีขบวนการนอกระบบล้มรัฐบาลอีก เพราะตนและทุกคนยืนอยู่ตรงนี้ และทุกวันนี้ตนเชื่อมั่นว่าไม่มีการปฏิวัติแล้ว แต่ถ้าหากมีการปฏิวัติอีก ก็จะได้รู้สักทีว่าใครเป็นใคร อย่างไรก็ตาม ขอให้ 2 มิถุนายน เอาน้ำมนต์ไปสะกดพรรคฝ่ายค้านอีกครั้ง

จากนั้นเวลา 19.10 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำของพรรคเพื่อไทย เดินทางถึงเวทีท่ามกลางเสียงโห่ร้องและปรบมือต้อนรับอย่างกึกก้อง เนื่องจากมีกลุ่มผู้สนับสนุนทะยอยกันมารับฟังกรปราศรัยมากขึ้น โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ปราศรัยเป็นภาษาเหนือ ตอนหนึ่งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า รู้สึกอบอุ่นมากมาย มาปราศรัยครั้งนี้ก็มาในฐานะตัวแทนของพรรคเพื่อไทยเพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งเดิมของหลานสาว (น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์) และถือเป็นบ้านเกิดของตนด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไปเอาคนนอกพื้นที่ไม่ได้ จะต้องเอาคนเชียงใหม่มาเป็นตัวแทนเพราะคนเชียงใหม่คือนายเกษม นิมมลรัตน์ ผู้สมัคร ก็เป็นคนเชียงใหม่ จะเข้าใจว่าคนเชียงใหม่ต้องการอะไร ซึ่งเมื่อเข้าไปเป็น ส.ส.ก็จะเป็นปากเสียงให้กับทุกคน ตนเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐบาลครั้งแรกก็เจอกับปัญหาน้ำท่วม แต่ไม่เคยย่อท้อเพราะต้องการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน วันนี้ตนพร้อมที่จะทำหน้าที่เดินหน้าในนโยบายต่างๆ อย่างเต็มที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนพ้นทุกข์ และมีความสุขกลับคืนมา
กำลังโหลดความคิดเห็น