พระนครศรีอยุธยา - รมว.สาธารณสุข เตรียมดันสมุนไพรไทย เข้าบัญชียาหลักแห่งชาติให้ได้ 100 รายการ ภายในปี 2558 ยันสมุนไพรไทยหลายชนิดที่นำมาทำเป็นยารักษาโรคแล้วได้ผลดี
วันนี้ (18 พ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เป็นประธานในการเปิดงานรวมพลังแพทย์แพทย์แผนไทยภาคกลาง ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายทวี นริสศิริกุล รอง ผบก.พระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ. นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกใหม่ นพ.สุรพล บุญสืบชาติ สาธารณสุขจังหวัดพะนครศรีอยุธยา
นายวิทยา กล่าวว่า สมุนไพรไทยหลายชนิดที่นำมาทำเป็นยารักษาโรคแล้วได้ผลดี เพื่อเป็นการเผยแพร่ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนและหันมาใช้ภูมิปัญญาไทย เพื่อนำมาใช้ดูแลสุขภาพทั้งที่ไม่เจ็บป่วย และเจ็บป่วยแล้ว กระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินการสนองนโยบายายกรัฐมนตรีในการลดค่าใช้จ่ายยารักษาโรค ซึ่งไทยมีมูลค่าการนำเข้ายาแผนปัจจุบันสูงถึงปีละกว่า 130,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35 ของค่าใช้จ่ายสุขภาพทั้งหมด ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ที่ใช้เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น
โดยกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศทุกระดับกว่า 10,000 แห่ง ให้การบริการรักษาผู้ป่วยนอกด้วยแพทย์แผนไทย และใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบันอย่างน้อย 20 รายการ ซึงขณะนี้ได้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2554 แล้ว 71 รายการ ในระยะเริมต้นในปี 2555 นี้ จะให้บริการผู้ป่วยนอกให้ได้ร้อยละ 10 ของผู้ป่วยทั้งหมดที่ใช้บริการ และเพิ่มเป็นร้อยละ 20 ในปีหน้า
“ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ศึกษาวิจัยสมุนไพรอีก 4 รายการเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติภายในปี 2555 นี้ และจะเพิ่มปีละประมาณ 5-10 รายการ โดยมีเปาหมายจะเพิ่มให้ได้ทั้งหมด 100 รายการ ภายในปี2558 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมียาสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน และผ่านการวิจัยด้านคุณภาพและความปลอดภัย ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยทดแทนยาแผนปัจจุบันมากยิ่งขึ้น”