ศรีสะเกษ - ประธานตรวจสอบโครงการแทรกแซงราคาหอมแดงเผย หอมแดงศรีสะเกษเน่าเสีย ส่อทุจริตหลายรายการ ทำให้รัฐสูญเงินกว่า 200 ล้านบาท ไม่หวั่นหากม็อบหอมแดงบุกพบนายกรัฐมนตรี ชี้จะต้องมีคนรับผิดชอบกรณีทุจริตครั้งนี้
วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการแทรกแซงราคาหอมแดงของกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการบริหารจัดการหอมแดง ตามโครงการแก้ไขปัญหาหอมแดง ฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 ทั้งระบบขององค์การคลังสินค้า จ.ศรีสะเกษ โดยมีการนำเอกสารชี้แจงมูลเหตุ และพฤติการณ์ที่ส่อทุจริตหลายรายการ
นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเดิมหอมแดงมีจำนวนทั้งสิ้น 20,006 ตัน ซึ่งหลังจากได้ไปตรวจสอบตามสถานที่จัดเก็บหอมแดงของ จ.ศรีสะเกษทั้ง 48 แห่งพบว่ามีหอมแดงหายไปจากสถานที่จัดเก็บจำนวนประมาณ 7,300 ตัน ซึ่งตีเป็นเงินงบประมาณกว่า 100,000,000 ล้านบาท ส่วนหอมแดงที่เหลือเกิดการเน่าเสียเกือบทั้งหมด ซึ่งถือว่าใช้การไม่ได้แล้ว โดยขณะนี้ถือว่าโครงการประกันหอมแดงจำนวน 295,000,000 บาท ทำให้รัฐบาลต้องสูญเงินถึง 241,000,000 บาท
จากการที่ตนได้ตรวจสอบเอกสารที่ได้รับทั้งหมดนั้น พบว่ามีการกระทำที่ส่อถึงการทุจริตหลายรายการ โดยเฉพาะรายละเอียดบัญชีของเกษตรกรกรบางรายมีการหมุนเวียนเข้า-ออก ในบุคคลเดียวกันหลายรอบ ซึ่งถือว่าผิดปกติ และในแนวคิดของตนคาดว่าคงมีการรวบรวมหอมแดงจากพ่อค้าคนกลาง แล้วนำมาสวมสิทธิเกษตรกรเพื่อนำหอมแดงมาฝากขาย ซึ่งตนจะได้นำเอกสารที่ได้รวบรวมไว้ทั้งหมดนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทยกล่าวต่อไปว่า ในขณะนี้มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจำนวนหนึ่งได้พากันรวมตัวเพื่อเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินค่าประกันหอมแดง งวดที่สอง ก่อนการตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ผนวกกับมีเรื่องการเมืองท้องถิ่นแอบแฝงอยู่ ซึ่งตนไม่กลัวแต่อย่างใด หากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจะมีการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีการเร่งจ่ายเงินค่าขายหอมแดงนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สูญเปล่า และไร้ประโยชน์ ตนอยากเสนอให้มีการพูดคุยกันแบบสันติวิธี โดยการจับเข่านั่งคุยกันเพื่อเป็นการหาแนวทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม กระบวนการทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามความถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมาย และมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทุกฝ่ายจะต้องได้รับความผิดถึงการกระทำที่ก่อลงไป และที่สำคัญ บุคคลใดที่ได้กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษ และผู้บริสุทธิ์จะต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากรัฐบาลอย่างแน่นอน
วันนี้ (16 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการแทรกแซงราคาหอมแดงของกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการบริหารจัดการหอมแดง ตามโครงการแก้ไขปัญหาหอมแดง ฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 ทั้งระบบขององค์การคลังสินค้า จ.ศรีสะเกษ โดยมีการนำเอกสารชี้แจงมูลเหตุ และพฤติการณ์ที่ส่อทุจริตหลายรายการ
นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากเดิมหอมแดงมีจำนวนทั้งสิ้น 20,006 ตัน ซึ่งหลังจากได้ไปตรวจสอบตามสถานที่จัดเก็บหอมแดงของ จ.ศรีสะเกษทั้ง 48 แห่งพบว่ามีหอมแดงหายไปจากสถานที่จัดเก็บจำนวนประมาณ 7,300 ตัน ซึ่งตีเป็นเงินงบประมาณกว่า 100,000,000 ล้านบาท ส่วนหอมแดงที่เหลือเกิดการเน่าเสียเกือบทั้งหมด ซึ่งถือว่าใช้การไม่ได้แล้ว โดยขณะนี้ถือว่าโครงการประกันหอมแดงจำนวน 295,000,000 บาท ทำให้รัฐบาลต้องสูญเงินถึง 241,000,000 บาท
จากการที่ตนได้ตรวจสอบเอกสารที่ได้รับทั้งหมดนั้น พบว่ามีการกระทำที่ส่อถึงการทุจริตหลายรายการ โดยเฉพาะรายละเอียดบัญชีของเกษตรกรกรบางรายมีการหมุนเวียนเข้า-ออก ในบุคคลเดียวกันหลายรอบ ซึ่งถือว่าผิดปกติ และในแนวคิดของตนคาดว่าคงมีการรวบรวมหอมแดงจากพ่อค้าคนกลาง แล้วนำมาสวมสิทธิเกษตรกรเพื่อนำหอมแดงมาฝากขาย ซึ่งตนจะได้นำเอกสารที่ได้รวบรวมไว้ทั้งหมดนำเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทยกล่าวต่อไปว่า ในขณะนี้มีกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจำนวนหนึ่งได้พากันรวมตัวเพื่อเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินค่าประกันหอมแดง งวดที่สอง ก่อนการตรวจสอบแล้วเสร็จ ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ผนวกกับมีเรื่องการเมืองท้องถิ่นแอบแฝงอยู่ ซึ่งตนไม่กลัวแต่อย่างใด หากกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงจะมีการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีการเร่งจ่ายเงินค่าขายหอมแดงนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สูญเปล่า และไร้ประโยชน์ ตนอยากเสนอให้มีการพูดคุยกันแบบสันติวิธี โดยการจับเข่านั่งคุยกันเพื่อเป็นการหาแนวทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม กระบวนการทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามความถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมาย และมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ทุกฝ่ายจะต้องได้รับความผิดถึงการกระทำที่ก่อลงไป และที่สำคัญ บุคคลใดที่ได้กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษ และผู้บริสุทธิ์จะต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากรัฐบาลอย่างแน่นอน
