ครม.เสียงแตกใช้จิตวิทยากดราคาอาหารปรุงสำเร็จ ส่อแววคุมได้เฉพาะฟูดคอร์ต “โต้ง” นำทีมค้านตีกลับ เหตุผวาโดนเล่น ม.157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โยน “บุญทรง” ทบทวนเงื่อนไขให้ชัดก่อนส่ง ครม.อีกครั้ง
วันนี้ (14 พ.ค.) แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ครม. ซึ่งมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่งเป็นประธานการประชุมแทนนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่าที่ประชุม ครม.ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการหารือตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือ จูงใจ ผู้ประกอบการ แต่ยังพบว่าไม่ได้รับความร่วมมือ มีการขายสินค้าในราคาที่แพงอยู่ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ควรมีมาตรการเพื่อให้ได้รับการตอบรับมากกว่านี้ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เห็นว่า สินค้าปรุงสำเร็จควรเป็นสินค้าควบคุมราคาโดยจะกำหนดให้อาหารปรุงสำเร็จเป็นสินค้าควบคุมระดับที่ 43 จาก 42 ชนิด ที่กำหนดให้มีการควบคุมราคาสินค้า โดยที่ประชุม ครม.เสียงแตกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งกลุ่มแรกนำโดยนายยงยุทธ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ที่เห็นควรเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ แม้จะเป็นการประกาศเจตนารมณ์ที่ยังไม่มีความชัดเจน แต่ถือเป็นการส่งสัญญาณทางจิตวิทยาไปยังผู้ค้าอาหารปรุงสำเร็จให้ปรับลดราคาลง โดยเฉพาะนายยงยุทธได้ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้อยู่ร่วมเป็นประธานการประชุม ครม. แต่นายกฯก็ได้มอบหมายให้ทางกระทรวงพาณิชย์เขาเป็นผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว ถึงแม้ประกาศมาตรการออกไปแล้วจะถูกด่าอย่างไร ก็ให้กระทรวงพาณิชย์เขารับผิดชอบไป เพราะเขารับผิดชอบอยู่แล้ว
ขณะที่อีกกลุ่มนำโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม แสดงความไม่เห็นด้วย โดยนายกิตติรัตน์ระบุว่า ข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์คงปฏิบัติไม่ได้จริง เพราะยังขาดความชัดเจน และสินค้าสำเร็จรูปที่จะไปกำหนดควบคุมราคาได้ยาก ไม่เหมือนกับสินค้าอื่น เช่น ปูนซีเมนต์ นมผงเด็ก ที่มีปริมาตรบรรจุชัดเจน ไม่ว่าจะไปวางขายที่ไหน หรืออย่างกรณีราดหน้าร้านเจ๊ไฝ ขายราดหน้าจานละ 300-400 บาท แต่คนก็ยังยินดีที่จะซื้อก็ให้เขากินไป แต่ตามตลาดนัดขายราดหน้าจานละ 40 บาทก็มีคนยินดี คงไปบังคับกันไม่ได้ หรืออย่างในร้านเมคโดนัลด์ ขายโจ๊กชามละ 39 บาท แล้วถ้ามีคนไปกลั่นแกล้ง ไปร้องเรียนเจ้าหน้าที่ให้มาจับกุม แล้วเกิดจับไม่ได้ก็จะโดนมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อีก ซึ่งทางนายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก็เห็นด้วยว่า อาจจะเกิดปัญหา เพราะโอกาสที่จะโดนมาตรา 157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้าในทางปฏิบัติไม่มีความชัดเจนเพียงพอ
ขณะที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ พยายามชี้แจงว่า ความหมายของตนและกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้หมายถึงการไปควบคุมสินค้าสำเร็จรูปที่ไปวางขายในสถานที่ต่างๆ หรือตามตลาดนัด แต่ที่ตนพูดถึงนั้นหมายถึงพวกแกงถุง กับข้าวปรุงสำเร็จที่ขายตามฟูดคอร์ตต่างๆ อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ก็ยังบอกว่ายากที่จะไปควบคุม แต่ตนก็ยินดีที่จะร่วมเป็นคณะทำงานด้วย ทั้งนี้ในรัฐบาลมีความตื่นตัวเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน แต่ก็ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ที่ประชุมจึงได้ให้นายบุญทรงไปหารือร่วมกับคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เพื่อกำหนดเงื่อนไขคุณลักษณะของสินค้า และการควบคุมให้ชัดเจนแล้วนำเสนอกลับเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้งโดยเร็วที่สุด