สระบุรี - รปภ.หึงโหดแฟนสาว “เอไอเอ” แอบนอกใจไปมีชายอื่น ตามประกบไล่ยิงดับ ตำรวจรวบได้ทันควัน เจ้าตัวสารภาพถูกหลอกมาโดยตลอดจึงแค้น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (4 พ.ค.) พ.ต.ท.นคร เพิ่มพูน สวส.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่ร้าน “โตมอเตอร์” เลขที่ 215/2 ริมถนนสุดบรรทัด เขตเทศบาล ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพากันไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.สระบุรี พ.ต.อ.จักรกฤช วีระเดช ผกก.สภ.แก่งคอย ชุดสืบสวน มูลนิธิร่วมกตัญญู
พบศพ น.ส.ศิริญา สร้อยภูภา อายุ 44 ปี เป็นตัวแทนขายประกันของบริษัท เอไอเอ มีบ้านพักอยู่ที่ 53/59 ต.บ้านป่า ม.2 อ.แก่งคอย ถูกยิงเข้าที่โหนกแก้มขวา 1 นัดนอนเสียชีวิตอยู่ที่หลังร้าน มีเศษเนื้อและเลือดโหนกแก้มผู้ตายกระเด็นไปติดที่ผนังห้องน้ำ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้อีกสองคนที่ถูกลูกหลง ชื่อ ด.ญ.มุนิตา ศรีเกิด อายุ 12 ปี และ ด.ญ.วิลาณี เวียงทอง อายุ 10 ปี ถูกพลเมืองดีนำส่ง รพ.สระบุรี ที่ถนนหน้าร้านมีรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เทน่า ทะเบียน ขฉพ 611 สระบุรี ของผู้ตายล้มอยู่กลางถนน ใกล้ๆ กัน พบรถ จยย. ฮอนด้า เวฟ สีเทาดำทะเบียน ขจม 312 สระบุรี ของมือปืนที่ก่อเหตุจอดอยู่ ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุถูก ด.ต.ปิยะชนม์ กุนอก ตำรวจจราจร สภ.แก่งคอย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ผ่านมาประสบเหตุและสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาว่า นายวรัญญู วงษ์อยู่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/1 ม.5 ต.หินซ้อน อ.แก่งคอยเป็น รปภ.รักษาความปลอดภัย (รถขนเงิน) ให้แก่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในสระบุรี พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ปลอกกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 2 ปลอก และกระสุนชนิดเดียวกันอีก 1 นัด เป็นอดีตสามี น.ส.ศิริญา ผู้ตาย
สอบสวน นายวรัญญู ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ศิริญา ถึงแก่ความตายจริง สาเหตุมาจากโกรธแค้นที่ผู้ตายหลอกให้เซ็นใบหย่าให้ตั้งแต่ปลายปี 2554 โดยอ้างว่าเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษีแพง ตนหลงเชื่อจึงยินยอมเซ็นหย่าให้ แต่จากนั้นยังคงอยู่กินกันเหมือนเดิมเรื่อยมา
แต่ต่อมาในระยะหลังๆ ภรรยาเริ่มตีตนออกห่างไล่ตนออกจากบ้าน คบชายอื่นออกเที่ยวกลางคืน ล่าสุด เมื่อสองคืนก่อนตนจับได้คาหนังคาเขาว่ามีชายอื่น จึงบุกย้อนไปที่บ้านภรรยากลางดึกเมื่อคืนนี้ (3 พ.ค.) แต่เข้าบ้านไม่ได้
กระทั่งสายวันนี้ (4 พ.ค.) น.ส.ศิริญา ขับขี่รถ จยย.มีนางบุญเรือน อบลา อายุ 63 ปี มารดามาเป็นเพื่อนพากันเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.แก่งคอย ให้จับกุมตนในข้อหาบุกรุก ด้วยความแค้นตนจึงมาดักรอที่หน้าโรงพัก เมื่อคนทั้งสองออกจากโรงพักแก่งคอยตนจึงได้ขี่รถ จยย.ไล่ยิง จนรถ จยย.ของภรรยาที่ขับขี่มาล้มลงแล้ววิ่งหนีเข้าไปในร้านซ่อมไดนาโมที่อยู่ข้างทางตนจึงไล่ติดตามไปยิงซ้ำจนถึงแก่ความตาย และกระสุนลูกหลงได้ไปถูกเด็กหญิงอีกสองคนบาดเจ็บ พอดีตำรวจจราจรผ่านมาประสบเหตุจับกุมตนไว้ได้ ตนยอมรับว่าแค้นมาก เมื่อยิงแล้วต้องยิงให้ตาย รปภ.หนุ่มแค้นจัดกล่าว
ด้าน ด.ต.ปิยชนม์ กุนอก ตำรวจจราจร สภ.แก่งคอย ผู้จับกุมนายวรัญญู มือปืนที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยาของตนไว้ได้ เปิดเผยว่า ขณะตนขี่ จยย.สายตรวจผ่านมา พบรถ จยย.ล้มอยู่กลางถนน และได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้หญิงดังออกมาจากร้านซ่อมไดนาโม แต่ยังไม่ทันที่ตนจะจอดรถที่ขับขี่มา กลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนจึงได้จอดรถ พอดีกับนายวรัญญู เดินถืออาวุธปืนลูกซองสั้นออกมา เตรียมจะวิ่งไปขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่หลบหนี ตนจึงร้องให้หยุดพร้อมชักอาวุธปืนประจำกายเล็งไปที่ร่างของมือปืน และบอกให้วางอาวุธมิเช่นนั้นจะยิงทันที ทำให้นายวรัญญู ยอมวางอาวุธตนจึงตรงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังตรวจที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.สระบุรี ได้มอบเงินรางวัลจำนวน 1 หมื่นบาทแก่ ด.ต.ปิยชนม์ กุนอก ตำรวจจราจร สภ.แก่งคอย ที่ได้ใช้ความกล้าและมีวิญญาณของตำรวจสามารถจับกุมตัวนายวรัญญู วงษ์อยู่ มือปืนที่ก่อเหตุไว้ได้ทันท่วงที ทั้งๆ ที่ในมือยังถืออาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุอยู่