มหาสารคาม - บรรยากาศรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2554/55 ที่มหาสารคามเป็นไปอย่างคึกคัก เกษตรกรแห่นำรถบรรทุกข้าวไปจอดรอคิวรับจำนำเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กม. ปริมาณข้าววันละกว่า 4,000 ตัน หลังเสร็จโครงการจะมีเงินหมุนเวียนในจังหวัดกว่า 200 ล้านบาท
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2554/55 โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก.และองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.รับฝากข้าวเปลือก และออกใบประทวนสินค้า และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.รับจำนำใบประทวนสินค้าที่ อ.ต.ก.และ อคส. ที่ออกใบประทวนให้แก่เกษตรกร
ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามได้เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ที่โรงสีข้าวทองมหาสารคาม ตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมืองมหาสารคาม พร้อมไปเปิดจุดรับจำนำข้าวสาขาอีก 3 จุด คือ ที่ศูนย์ธุรกิจสหกรณ์อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และที่ศูนย์ธุรกิจสหกรณ์บ้านเชียงเหียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม
โดยเริ่มเปิดจุดรับจำนำตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2555 เป็นต้นมานั้น พบว่าบรรยากาศการรับจำนำข้าวเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่โรงสีข้าวทองมหาสารคามมีเกษตรกรนำรถบรรทุกข้าวไปจอดรอคิวเข้ารับจำนำเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปริมาณข้าวร่วมวันละ 2,000 ตัน
ส่วนอีก 3 จุดไม่ต่ำกว่าจุดละ 1,000 ตันต่อวัน จากการสอบถามเกษตรกรส่วนใหญ่แม้จะรอคิวนานแต่ก็พอใจที่เกษตรกรบางรายจำนำข้าวได้ราคาสูงถึงตันละ 14,000 บาท ณ ที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เกษตรกรไปขอรับการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปี 2554/55 ไว้ต่อกรมส่งเสริมการเกษตร ที่สำนักงานเกษตรอำเภอแต่ละแห่งแล้ว 18,953 ครัวเรือน
รวมพื้นที่ปลูก 266,732 ไร่ ผลผลิต 165,840 ตัน หลังเสร็จสิ้นโครงการจะทำให้มีเงินหมุนเวียนภายในจังหวัดกว่า 200 ล้านบาท
ด้านนายทองหล่อ พลโคตร เจ้าของโรงสีข้าวทองมหาสารคาม กล่าวว่า แต่ละวันมีปริมาณข้าวเปลือกที่เข้ารับจำนำวันละ 4,000-5,000 ตัน นับเป็นปริมาณที่มาก จึงทำให้เกิดการล่าช้าไปบ้าง รวมถึงเกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเรื่องราคา ความชื้น และการออกใบประทวน แต่ก็แก้ได้ โดยรวมเกษตรกรส่วนใหญ่พอใจที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2554/55 โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก.และองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.รับฝากข้าวเปลือก และออกใบประทวนสินค้า และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.รับจำนำใบประทวนสินค้าที่ อ.ต.ก.และ อคส. ที่ออกใบประทวนให้แก่เกษตรกร
ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามได้เปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ที่โรงสีข้าวทองมหาสารคาม ตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมืองมหาสารคาม พร้อมไปเปิดจุดรับจำนำข้าวสาขาอีก 3 จุด คือ ที่ศูนย์ธุรกิจสหกรณ์อำเภอโกสุมพิสัย อำเภอกันทรวิชัย และที่ศูนย์ธุรกิจสหกรณ์บ้านเชียงเหียน ตำบลเขวา อำเภอเมืองมหาสารคาม
โดยเริ่มเปิดจุดรับจำนำตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2555 เป็นต้นมานั้น พบว่าบรรยากาศการรับจำนำข้าวเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่โรงสีข้าวทองมหาสารคามมีเกษตรกรนำรถบรรทุกข้าวไปจอดรอคิวเข้ารับจำนำเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ปริมาณข้าวร่วมวันละ 2,000 ตัน
ส่วนอีก 3 จุดไม่ต่ำกว่าจุดละ 1,000 ตันต่อวัน จากการสอบถามเกษตรกรส่วนใหญ่แม้จะรอคิวนานแต่ก็พอใจที่เกษตรกรบางรายจำนำข้าวได้ราคาสูงถึงตันละ 14,000 บาท ณ ที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เกษตรกรไปขอรับการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ปี 2554/55 ไว้ต่อกรมส่งเสริมการเกษตร ที่สำนักงานเกษตรอำเภอแต่ละแห่งแล้ว 18,953 ครัวเรือน
รวมพื้นที่ปลูก 266,732 ไร่ ผลผลิต 165,840 ตัน หลังเสร็จสิ้นโครงการจะทำให้มีเงินหมุนเวียนภายในจังหวัดกว่า 200 ล้านบาท
ด้านนายทองหล่อ พลโคตร เจ้าของโรงสีข้าวทองมหาสารคาม กล่าวว่า แต่ละวันมีปริมาณข้าวเปลือกที่เข้ารับจำนำวันละ 4,000-5,000 ตัน นับเป็นปริมาณที่มาก จึงทำให้เกิดการล่าช้าไปบ้าง รวมถึงเกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเรื่องราคา ความชื้น และการออกใบประทวน แต่ก็แก้ได้ โดยรวมเกษตรกรส่วนใหญ่พอใจที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล