ชาวบ้านแม่ฟ้าหลวงโวยถูกสวมบัตร-โร่ร้องผู้ว่าฯ ชี้มีนักการเมืองเอี่ยวด้วย

เชียงราย - ชาวบ้านแม่ฟ้าหลวงรวมตัวเข้าร้องผู้ว่าฯ เชียงราย โวยชื่อญาติพี่น้องหายจากบัญชีบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือแบบสำรวจ 89 แต่มีชื่อจีนฮ่อปริศนาโผล่แทน หวั่นทำให้เสียสิทธิ บอกเคยร้องผ่านอำเภอแล้วแต่เรื่องกลับเงียบ พร้อมแฉมีคนการเมืองเอี่ยวด้วย ขณะที่พ่อเมืองรับปากตรวจสอบให้เห็นแจ้งใน 1 เดือน

วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย กลุ่มชาวบ้านจากหมู่บ้านแม่สะแลบ ม.19 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ประมาณ 60 คน ได้พากันเดินทางไปร้องเรียนต่อนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ให้ช่วยเหลือกรณีมีชาวบ้านในหมู่บ้านหลายคนถูกสวมชื่อลงไปในแบบสำรวจประชากรจนทำให้เสี่ยงต่อการเสียสิทธิ

พวกเขาระบุว่า ได้เคยร้องเรียนไปยังที่ว่าการ อ.แม่ฟ้าหลวงไปแล้ว แต่เนื่องจากครบกำหนดระยะเวลาที่ทางอำเภอรับปากว่าจะแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จวันที่ 20 เมษายน 55 แต่เรื่องไม่คืบหน้า ทำให้ชาวบ้านพากันมาร้องเรียนต่อทางจังหวัดอีกครั้ง

โดยชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนมีเนื้อหาว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านอาศัยอยู่มานาน จากนั้นเมื่อปี 2550 ฝ่ายปกครองเข้าไปสำรวจเพื่อจัดทำเอกสารบุคคล โดยมีรายชื่อชาวบ้านหลายรายเข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อด้วย

แต่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 54 ได้มีการจัดทำประชาคมและสำรวจข้อมูล ณ หอประชุมของหมู่บ้าน เพื่อจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือแบบสำรวจ 89 ปรากฏว่าไม่มีชื่อชาวบ้านที่เคยสำรวจเอาไว้ก่อนหน้านี้จำนวน 7 ราย แต่กลับมีรายชื่อของบุคคลอื่นที่ชาวบ้านไม่รู้จัก ทราบเพียงเป็นชาวจีนฮ่อ เข้าไปอยู่ในรายชื่อแทนจำนวน 2 คน และเป็นชื่อของบุคคลในหมู่บ้านอื่นอีก 1 คน ทำให้ชาวบ้านเกรงว่าญาติพี่น้องจะเสียสิทธิให้บุคคลภายนอกที่ไม่เคยรู้จัก และอาจจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะต้องกลายเป็นบุคคลที่ตกสำรวจไปในที่สุด

พวกเขาสงสัยในตัวผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้เสนอรายชื่อ แต่กลับมีชื่อคนแปลกหน้าปรากฏในบัญชีรายชื่อ โดยชาวบ้านได้พาคนที่ถูกสวมชื่อและเอกสารใบสำรวจเมื่อปี 2550 ไปแสดงให้ดูอย่างชัดเจนด้วย

นายอาเพียว แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกที่การสำรวจเมื่อปี 2550 มีรายชื่อของชาวบ้านครบหมด แต่ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 กลับมีรายชื่อคนใหม่เข้าไปสวมแทน ซึ่งพวกตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะหลายคนอาศัยอยู่มานานโดยบางคนอยู่มานานกว่า 20 ปีแล้ว และหลายคนก็มีรายชื่อในใบสำรวจและรอว่าจะได้รับทะเบียนมานานกว่า 4-5 ปี แต่ท้ายที่สุดกลับถูกตัดสิทธิออกไป พวกเราจึงจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป

ต่อมา นายธานินทร์ได้เข้ารับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านพร้อมสอบถามข้อมูลได้ความเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันทางฝ่ายปกครองอำเภอได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้ใหญ่บ้านแม่สะแลบแล้ว รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อยู่

นายธานินทร์ยังเสนอว่าจะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และช่วงนี้ให้พักราชการผู้ใหญ่บ้านออกไปก่อนจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ ทำให้ชาวบ้านพอใจ

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านบางส่วนระบุว่า มีฝ่ายการเมืองเข้าไปพยายามช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ใหญ่บ้านด้วย ซึ่งผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายยืนยันว่าจะให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยจะติดตามเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาทำให้ชาวบ้านพอใจและแยกย้ายกันกลับ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมามักเกิดปัญหาชาวบ้านร้องเรียนเรื่องการถูกสวมชื่อหลายครั้ง โดยการสำรวจและจัดทำทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือแบบสำรวจ 89 เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายปกครองได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีลงวันที่ 18 มกราคม 2548 และมีผลปฏิบัติในปี 2550 เป็นต้นมา แต่ก็ปรากฏชื่อบุคคลแปลกหน้าเข้าไปในทะเบียนจนมีการร้องเรียนกันมาแล้วหลายครั้ง โดยบางรายระบุว่า ถ้าไม่ให้มีปัญหาจะต้องเสียเงินหัวละ 1,000 บาท จากนั้นเมื่อถึงเวลาถ่ายบัตรผู้ไม่มีสถานะก็เก็บอีกคนละตั้งแต่ 1,500-3,000 บาท

ขณะที่มีรายงานอีกว่า มีชื่อบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนทั่วประเทศ ประมาณ 80,000 คน เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นชายแดนไทย-พม่า มากถึง 60,000-70,000 คน ซึ่งน่าสังเกตว่า ตัวเลขที่ปรากฏสูงมากจนทำให้สงสัยกันว่าอาจจะมีการเพิ่มเติมรายชื่อเข้าไปหรือไม่ด้วย ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีการดำเนินการสำรวจจะอยู่ในเขต อ.แม่สาย และ อ.แม่จัน มากที่สุด