กาญจนจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศมาตรการแนวทางปฏิบัติในการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆ เพื่อไปดำเนินการโครงการต่างๆ ในสหภาพพม่า
วันนี้ (29 ก.ย.54) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้มีประกาศจังหวัดกาญจนบุรี ลงวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2541 เรื่องกำหนดมาตรการแนวทางปฏิบัติในการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิง และอื่นๆ เพื่อไปดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่า เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน พร้อมได้แจ้งผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชนทราบโดยทั่วกัน
เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆไปดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่า ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิดจุดผ่านแดน ครั้งที่ 5/2541 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2541 และเกิดความมั่นคงบริเวณชายแดนและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดกาญจนบุรีจึงกำหนดมาตรการแนวทางการปฏิบัติในการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆเพื่อไปดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่าไว้ ดังต่อไปนี้
1.ให้ผู้ประสงค์จะออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆเพื่อดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่า มายื่นคำร้องขออนุญาตที่สำนักงานจังหวัด ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่สำคัญคือ รายละเอียดวัสดุก่อสร้างที่จะส่งออก ให้แจ้งรายการและจำนวนของวัสดุก่อสร้างที่จะส่งออก, รายละเอียดเกี่ยวกับคนงาน ให้แจ้งชื่อ-สกุล ที่อยู่ ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของคนงานและหนังสือรับรองของผู้ว่าจ้างว่า ได้ว่าจ้างให้ออกไปทำงานในสหภาพพม่า
รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องจักร ให้แจ้ง ชนิดของเครื่องจักร หมายเลขเครื่อง ยี่ห้อและจำนวน ถ้าเป็นรถยนต์ให้แจ้งชนิดรถ หมายเลขเครื่อง ทะเบียนรถ หมายเลขตัวถัง ยี่ห้อและจำนวน, รายละเอียดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงให้แจ้งงชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณที่จะนำออกไปใช้ในสหภาพพม่า
สิ่งของอื่นๆให้แจ้ง ชนิด ขนาด และจำนวนที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้จากหนังสืออนุญาตให้นำวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆเข้าไปดำเนินการโครงการในสหภาพพม่าได้ จากทางการสหภาพหม่า
2.เมื่อผู้ประกอบการมายื่นคำร้องขออนุญาตที่สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทั้งหลักฐานตามข้อ1 แล้ว จังหวัดจะมีหนังสือสอบถามความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์ภายใน 2 วัน
3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์จะพิจารณาความเหมาะสม ในด้านผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะไดรับ ผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดน ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ความไว้วางใจกันและกัน และกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ แล้วแจ้งความเห็นกลับมาให้จังหวัดทราบภายใน 3 วัน
4.เมื่อจังหวัดได้รับความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์แล้วจะพิจารณาว่าสมควรอนุญาตหรือไม่ภายใน 2 วัน ถ้าอนุญาตจะแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ร้องทราบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์ทราบผลการพิจารณาด้วย หากไม่อนุญาตจะแจ้งผู้ร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผล
5.เมื่อผู้ร้องได้รับหนังสืออนุญาตแล้ว ให้นำหนังสืออนุญาตไปแสดงที่ด่านศุลกากรหรือด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรีแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินกรรมวิธีส่งออกต่อไป และมีหนังสือแจ้งกองกำลังสุรสีห์ก่อนออก 3 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยและแจ้งจังหวัดทราบในการนำออกด้วย
วันนี้ (29 ก.ย.54) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรีได้มีประกาศจังหวัดกาญจนบุรี ลงวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2541 เรื่องกำหนดมาตรการแนวทางปฏิบัติในการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิง และอื่นๆ เพื่อไปดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่า เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน พร้อมได้แจ้งผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชนทราบโดยทั่วกัน
เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆไปดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่า ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิดจุดผ่านแดน ครั้งที่ 5/2541 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2541 และเกิดความมั่นคงบริเวณชายแดนและความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน จังหวัดกาญจนบุรีจึงกำหนดมาตรการแนวทางการปฏิบัติในการส่งออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆเพื่อไปดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่าไว้ ดังต่อไปนี้
1.ให้ผู้ประสงค์จะออกวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆเพื่อดำเนินการตามโครงการต่างๆในสหภาพพม่า มายื่นคำร้องขออนุญาตที่สำนักงานจังหวัด ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็นและหลักฐานที่สำคัญคือ รายละเอียดวัสดุก่อสร้างที่จะส่งออก ให้แจ้งรายการและจำนวนของวัสดุก่อสร้างที่จะส่งออก, รายละเอียดเกี่ยวกับคนงาน ให้แจ้งชื่อ-สกุล ที่อยู่ ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของคนงานและหนังสือรับรองของผู้ว่าจ้างว่า ได้ว่าจ้างให้ออกไปทำงานในสหภาพพม่า
รายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องจักร ให้แจ้ง ชนิดของเครื่องจักร หมายเลขเครื่อง ยี่ห้อและจำนวน ถ้าเป็นรถยนต์ให้แจ้งชนิดรถ หมายเลขเครื่อง ทะเบียนรถ หมายเลขตัวถัง ยี่ห้อและจำนวน, รายละเอียดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงให้แจ้งงชนิดของน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณที่จะนำออกไปใช้ในสหภาพพม่า
สิ่งของอื่นๆให้แจ้ง ชนิด ขนาด และจำนวนที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้จากหนังสืออนุญาตให้นำวัสดุก่อสร้าง คนงาน เครื่องจักร น้ำมันเชื้อเพลิงและอื่นๆเข้าไปดำเนินการโครงการในสหภาพพม่าได้ จากทางการสหภาพหม่า
2.เมื่อผู้ประกอบการมายื่นคำร้องขออนุญาตที่สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมทั้งหลักฐานตามข้อ1 แล้ว จังหวัดจะมีหนังสือสอบถามความเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์ภายใน 2 วัน
3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์จะพิจารณาความเหมาะสม ในด้านผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะไดรับ ผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดน ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ความไว้วางใจกันและกัน และกฎระเบียบต่างๆของทางราชการ แล้วแจ้งความเห็นกลับมาให้จังหวัดทราบภายใน 3 วัน
4.เมื่อจังหวัดได้รับความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์แล้วจะพิจารณาว่าสมควรอนุญาตหรือไม่ภายใน 2 วัน ถ้าอนุญาตจะแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ร้องทราบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังสุรสีห์ทราบผลการพิจารณาด้วย หากไม่อนุญาตจะแจ้งผู้ร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผล
5.เมื่อผู้ร้องได้รับหนังสืออนุญาตแล้ว ให้นำหนังสืออนุญาตไปแสดงที่ด่านศุลกากรหรือด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรีแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินกรรมวิธีส่งออกต่อไป และมีหนังสือแจ้งกองกำลังสุรสีห์ก่อนออก 3 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยและแจ้งจังหวัดทราบในการนำออกด้วย
