กาญจนบุรี - รถทัวร์นักท่องเที่ยวรัสเซียเฉี่ยวรถตู้บรรทุกพระตกถนนที่อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี บาดเจ็บ 14 ราย ส่วนที่อำเภอท่ามะกา รถกระบะทับเด็กชายวัย 8 ขวบสมองเละ
เมื่อเวลา 14.50 น.วันนี้ (14 เม.ย.) พ.ต.ท.บุญรัตน์ เพลินคู่ธรรม พงส. (สบ 3) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิกู้ภัยกาญจน์ว่า เกิดเหตุรถทัวร์ท่องเที่ยวเฉี่ยวชนกับรถตู้บรรทุกพระ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บนถนนสายไทรโยค-ทองผาภูมิ พื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.บุญรัต รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์ท่องเที่ยว ยี่ห้อ วอลโว่ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 31-1449 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนถนน ด้านหน้ากันชนยุบเล็กน้อย ส่วนข้างทางพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 2696 กาญจนบุรี จอดอยู่ข้างทางในสภาพหน้ารถชนต้นไม้ข้างทาง
โดยในที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บจำนวน 14 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9 คน เป็นพระสงฆ์ที่โดยสารมาบนรถตู้จำนวน 5 รูป โดยได้รับความช่วยเหลือนำส่ง รพ.ไทรโยค เพื่อรักษาพยาบาล แต่ปรากฏว่า 6 ราย มีอาการหนักจึงนำส่งต่อ รพ.พหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก จ.กาญจนบุรี
โดยเมื่อมาถึง รพ.พหลฯ นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 5 ราย ได้ถูกนำส่งต่อไปยัง รพ.ธนกาญจน์ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อรักษาต่อไป ส่วนที่ รพ.พหลฯ คงเหลือ พระบุญสม พุ่มทอง อายุ 76 ปี อยู่วัดหนองขอน ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นอนรักษาตัวอยู่รูปเดียวเท่านั้น โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คน มีอาการบาดแผลถลอกปอกเปลือกตามแขนขา โดยอาการทั้งหมดปลอดภัย ส่วนอีก 8 คนบาดเจ็บเล็กน้อยรับการรักษาตัวที่รพ.ไทรโยค
จากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทราบว่ารถยนต์ตู้ขับจากวัดหนองขอนมุ่งหน้าไปทางทองผาภูมิเพื่อไปร่วมกิจกรรมสงฆ์ที่วัดพุตะเคียนใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนรถทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียวเต็มคันขับตามรถตู้มา แต่รถตู้คาดว่าจะเลี้ยวเข้าวัดพุตะเคียนอย่างกะทันหันทำให้รถทัวร์เฉี่ยวชนเข้าที่ท้ายรถตู้ทำให้รถทั้งสองคันเสียหลักโดยรถตู้เสียหลักลงข้างทาง และชนต้นไม้ข้างทาง
ส่วนรถทัวร์เบรกกะทันหันทำให้ผู้โดยสารเกิดแรงกระแทกได้รับบาดเจ็บจำนวนทั้งหมดรวม 14 คน ช่วยเหลือนำส่ง รพ.ไทรโยค เพื่อรักษาพยาบาล ทุกคนปลอดภัย
ส่วนในท้องที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เกิดอุบัติเหตุอีกรายหนึ่ง มีเด็กชาย 8 ขวบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุโดย เมื่อเวลา 16.32 น. พ.ต.ท.ชาญ บุญคง พงส. (สบ 3) สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่าเกิดเหตุรถยนต์ชนกับรถกระบะ 1 ศพ เหตุเกิดบนถนนสายท่าเรือ-พระแท่น บริเวณทางแยกเข้าหมู่บ้านหนองขี้แรด หมู่ 6 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
หลังจากรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.ชาญ พร้อมแพทย์เวรจากรพ.ท่ามะการักษ์รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพของเด็กชายขวัญชัย ยางหลวง อายุ 8 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 2 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นอนเสียชีวิตในสภาพศพถูกล้อรถทับที่บริเวณศรีษะสมองไหลกระจายเกลื่อนถนนนอนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มาสด้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บย 4794 สุพรรณบุรี จอดอยู่ในสภาพด้านหน้ากระโปรงมีรอยเฉี่ยวชน และพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแชมป์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กก 9451 กาญจนบุรีจอดอยู่ในที่เกิดเหตุสภาพรถถูกชนที่ตัวถัง
จากการสอบสวน เชื่อว่ารถยนต์เก๋งและรถกระบะวิ่งสวนทางกันมา และรถเก๋งหักเลี้ยวตัดหน้า จนทำให้รถกระบะเฉี่ยวชนทำให้เด็กชายขวัญชัยที่อยู่รถเก๋งกระเด็นออกจากรถร่างตกนอนกลางถนน และทำให้รถกระบะเบรกไม่อยู่วิ่งทับศรีษะของเด็กชายขวัญชัยจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.ทำการสอบสวนผู้ขับขี่รถทั้งสองคันเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในการขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป
เมื่อเวลา 14.50 น.วันนี้ (14 เม.ย.) พ.ต.ท.บุญรัตน์ เพลินคู่ธรรม พงส. (สบ 3) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุมูลนิธิกู้ภัยกาญจน์ว่า เกิดเหตุรถทัวร์ท่องเที่ยวเฉี่ยวชนกับรถตู้บรรทุกพระ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก บนถนนสายไทรโยค-ทองผาภูมิ พื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.บุญรัต รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถทัวร์ท่องเที่ยว ยี่ห้อ วอลโว่ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 31-1449 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บนถนน ด้านหน้ากันชนยุบเล็กน้อย ส่วนข้างทางพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 2696 กาญจนบุรี จอดอยู่ข้างทางในสภาพหน้ารถชนต้นไม้ข้างทาง
โดยในที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บจำนวน 14 คน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9 คน เป็นพระสงฆ์ที่โดยสารมาบนรถตู้จำนวน 5 รูป โดยได้รับความช่วยเหลือนำส่ง รพ.ไทรโยค เพื่อรักษาพยาบาล แต่ปรากฏว่า 6 ราย มีอาการหนักจึงนำส่งต่อ รพ.พหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก จ.กาญจนบุรี
โดยเมื่อมาถึง รพ.พหลฯ นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 5 ราย ได้ถูกนำส่งต่อไปยัง รพ.ธนกาญจน์ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อรักษาต่อไป ส่วนที่ รพ.พหลฯ คงเหลือ พระบุญสม พุ่มทอง อายุ 76 ปี อยู่วัดหนองขอน ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นอนรักษาตัวอยู่รูปเดียวเท่านั้น โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 6 คน มีอาการบาดแผลถลอกปอกเปลือกตามแขนขา โดยอาการทั้งหมดปลอดภัย ส่วนอีก 8 คนบาดเจ็บเล็กน้อยรับการรักษาตัวที่รพ.ไทรโยค
จากการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่า ทราบว่ารถยนต์ตู้ขับจากวัดหนองขอนมุ่งหน้าไปทางทองผาภูมิเพื่อไปร่วมกิจกรรมสงฆ์ที่วัดพุตะเคียนใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนรถทัวร์บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียวเต็มคันขับตามรถตู้มา แต่รถตู้คาดว่าจะเลี้ยวเข้าวัดพุตะเคียนอย่างกะทันหันทำให้รถทัวร์เฉี่ยวชนเข้าที่ท้ายรถตู้ทำให้รถทั้งสองคันเสียหลักโดยรถตู้เสียหลักลงข้างทาง และชนต้นไม้ข้างทาง
ส่วนรถทัวร์เบรกกะทันหันทำให้ผู้โดยสารเกิดแรงกระแทกได้รับบาดเจ็บจำนวนทั้งหมดรวม 14 คน ช่วยเหลือนำส่ง รพ.ไทรโยค เพื่อรักษาพยาบาล ทุกคนปลอดภัย
ส่วนในท้องที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เกิดอุบัติเหตุอีกรายหนึ่ง มีเด็กชาย 8 ขวบเสียชีวิตในที่เกิดเหตุโดย เมื่อเวลา 16.32 น. พ.ต.ท.ชาญ บุญคง พงส. (สบ 3) สภ.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่าเกิดเหตุรถยนต์ชนกับรถกระบะ 1 ศพ เหตุเกิดบนถนนสายท่าเรือ-พระแท่น บริเวณทางแยกเข้าหมู่บ้านหนองขี้แรด หมู่ 6 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
หลังจากรับแจ้งเหตุ พ.ต.ท.ชาญ พร้อมแพทย์เวรจากรพ.ท่ามะการักษ์รีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพของเด็กชายขวัญชัย ยางหลวง อายุ 8 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ 2 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นอนเสียชีวิตในสภาพศพถูกล้อรถทับที่บริเวณศรีษะสมองไหลกระจายเกลื่อนถนนนอนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มาสด้า สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บย 4794 สุพรรณบุรี จอดอยู่ในสภาพด้านหน้ากระโปรงมีรอยเฉี่ยวชน และพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแชมป์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กก 9451 กาญจนบุรีจอดอยู่ในที่เกิดเหตุสภาพรถถูกชนที่ตัวถัง
จากการสอบสวน เชื่อว่ารถยนต์เก๋งและรถกระบะวิ่งสวนทางกันมา และรถเก๋งหักเลี้ยวตัดหน้า จนทำให้รถกระบะเฉี่ยวชนทำให้เด็กชายขวัญชัยที่อยู่รถเก๋งกระเด็นออกจากรถร่างตกนอนกลางถนน และทำให้รถกระบะเบรกไม่อยู่วิ่งทับศรีษะของเด็กชายขวัญชัยจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.ทำการสอบสวนผู้ขับขี่รถทั้งสองคันเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในการขับรถประมาทจนเป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิตในครั้งนี้ต่อไป
