กาญจนบุรี - นายกเทศบาลตำบลปากแพรก กาญจนบุรี เผยที่ดินราคาพุ่ง 50% เหตุมีห้างยักษ์ และบริษัทวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ทยอยลงทุนในพื้นที่ หวังรองรับโครงการทวายโปรเจกต์
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (30 มี.ค.) ที่บริเวณเทศบาลตำบลปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายปราโมทย์ อุ่นจิตรสกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า พื้นที่ ต.ปากแพรก มีทั้งหมด 13 หมู่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศผังเมืองรวม โดยผังเมืองเดิม ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ประกาศเป็นเทศบาล เรามีถนนอยู่สองเส้นทางคือ ถนนสาย ก ที่เชื่อมต่อระหว่าง ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ไปถึงพื้นที่ ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งปัจจุบัน เป็นถนนสายที่รองรับความเจริญของเมืองกาญจนบุรี ส่วนถนนสาย ข นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาในการก่อสร้าง หากสำเร็จก็จะเป็นถนนอีกเส้นหนึ่งที่สามารถรองรับความเจริญในอนาคตข้างหน้า
ในส่วนพื้นที่หมู่ 3 หมู่ 5 หมู่ 7 หมู่ 9 และหมู่ 11 ของ ต.ปากแพรก อนาคตก็จะกลายเป็นเมืองใหม่ ที่มีสาธารณูปโภค และสาธารณูปการต่างๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนั้น มีทั้งถนนในผังเมือง และมีการปฏิรูปที่ดินที่เป็นไปตามกฎหมายของกรมโยธาธิการ และผังเมืองที่ได้มาตรฐานสำหรับแผนในการรองรับโครงการทวายโปรเจกต์ ในพื้นที่ ต.ปากแพรก ในอนาคต เราได้พัฒนาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับบริเวณนี้มีหมู่บ้านจัดสรร และถนนสายต่างๆ ในอนาคตข้างหน้า ก็คงจะต้องมีการประกาศใช้ข้อเทศบัญญัติ เพื่อช่วยกันป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลำห้วยที่มีอยู่ในพื้นที่ก็ได้ถูกรุกล้ำไปมาก เราจะกันลำห้วยเอาไว้เป็นที่ระบายน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัย ที่ผ่านมา พื้นที่เทศบาลตำบลปากแพรกก็เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ ซึ่งหากเราไม่กันลำห้วยเอาไว้ในวันนี้ อนาคตข้างหน้าก็ไม่ทราบเช่นกันว่าจะเป็นอย่างไร และในภาพรวมของจังหวัดกาญจนบุรีของเรา ถ้าหากโครงการทวายโปรเจกต์ทำได้สำเร็จ เราก็จะเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ และจะมีกิจกรรมการค้าขายมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว โดยเฉพาะตำบลปากแพรกของเราที่กำลังมีการสร้างตึก พร้อมทั้งจะเป็นเมืองผ่านที่มีกิจกรรมการค้าขายเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“เพราะฉะนั้น หากโครงการทวายโปรเจกต์ทำได้สำเร็จ เมืองกาญจนบุรีของเราก็จะมีการพัฒนาด้านการค้าขายที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ ต.ปากแพรก ของเราก็จะได้รับความเจริญไปมากจากเดิมที่เป็นอยู่ และในพื้นที่ขณะนี้ ได้มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมทั้งบริษัทขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ ได้มีการเข้ามาซื้อที่ดินในพื้นที่ และอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งจะสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่บุตรหลานของเราในอนาคตอีกทางหนึ่งด้วย รวมทั้งมีบ้านจัดสรรขึ้นกระจายอยู่อีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ราคาที่ดินในพื้นที่พุ่งสูงขึ้นถึง 50% จากเดิมที่ซื้อขายกันในราคาไร่ละ 1 ถึง 1.5 ล้านบาท แต่ปัจจุบัน ซื้อขายกันที่ 3-4 ล้านบาท”