ตำรวจตามรวบแก๊ง จยย.วินเถื่อนจากกล้องวงจรปิดที่ย่านพร้อมพงษ์ กับพวกร่วมกันรุมฟันและแทงหนุ่มวินรถ จยย.สาหัส เหตุแย่งลูกค้าวิ่งทับเส้นทางกัน ทั้งยังถูกข่มขู่และทำร้ายมาโดยตลอด ขณะหนีไปกบดานเกือบปีแล้วย้อนกลับเข้ากรุงมาถูกรวบตัวไว้ได้ โดยติดตามจับกุมได้แล้ว 10 ราย ยังเหลือที่หลบหนีอีก 7 ราย
วันนี้ (14 มี.ค.) เวลา 15.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผกก.สน.มักกะสัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มักกะสัน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสุชาติ หรือฮุย อนุกูลรังสรรค์ อายุ 40 ปี และนายพิรุณ ประดิษฐ์รอด อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายชัยรัตน์ สีหวงษ์ อายุ 37 ปี ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างวินพร้อมพงษ์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาย่านวัดใหม่ช่องลม แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
พล.ต.ต.วิชัยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.54 ผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ร่วมกันกับพวกอีกนับ 10 คนรุมทำร้ายร่างกายนายชัยรัตน์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุจากกลุ่มผู้ต้องหาเป็นแก๊งวินจักรยานยนต์เถื่อน รับส่งผู้โดยสารอยู่บริเวณแยกพร้อมพงษ์ และจะคอยแย่งลูกค้าในวินจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมทั้งข่มขู่และทำร้ายร่างกายมาตลอด โดยมีนายสุชาติเป็นหัวหน้าแก๊ง กระทั่งวันเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้พาพวกมารุมทำร้ายโดยใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะและแทงที่ชายโครงซ้าย ก่อนจะพากันหลบหนีไป หลังจากอาการดีขึ้นผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.มักกะสัน และจากการสืบสวนพบว่ากล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าว สามารถจับภาพผู้ต้องหาไว้ได้ชัดเจน จนสามารถออกหมายจับได้ทั้งสิ้น 17 ราย ติดตามจับกุมตัวไปแล้ว 10 ราย ยังหลบหนีอยู่อีก 7 ราย สำหรับผู้ต้องหาทั้งสองคนหลบหนีไปนานเกือบปี กระทั่งกลับเข้ามาที่บ้านพักจึงถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการสอบสวนนายสุชาติให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าตนประกอบอาชีพขายไอศกรีมสโนว์แมน ไม่ได้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้าง และไม่ได้ทำร้ายผู้เสียหาย เพียงแต่ในวันเกิดเหตุตนทั้งสองคนผ่านไปเห็นเหตุการณ์และพยายามจะเข้าไปห้ามเท่านั้น ส่วนนายพิรุณตนก็รู้จักดี เพราะอยู่ซอยเดียวกัน ซึ่งนายพิรุณก็ไม่มีจักรยานยนต์ขับ จึงไม่ได้ไปวิ่งทับเส้นทางของผู้เสียหายแต่อย่างใด
ด้าน นายชัยรัตน์ ผู้เสียหายให้การว่า กลุ่มผู้ต้องหามักจะมาวิ่งจักรยานยนต์รับผู้โดยสารทับเส้นทางของวินที่ตนอยู่ แต่ไม่ได้มาเรียกเก็บเงิน เมื่อเข้าไปสอบถามและบอกว่าไม่ให้มาวิ่งรับผู้โดยสารย่านนี้อีก ก็ถูกตบที่หน้า จึงทำให้เกิดความบาดหมางกัน ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนรับส่งผู้โดยสารเสร็จ กลุ่มผู้ต้องหาก็พากันเข้ามารุมทำร้ายตน โดยนายสุชาติ และนายพิรุณ ถือเหล็กแป๊บเข้ามารุมฟาดใส่หลายครั้ง กลุ่มดังกล่าวจะมีอันธพาลอยู่ไม่กี่คน แต่เมื่อมีเรื่องจะพาพวกกันออกมาเกือบทั้งซอย ซึ่งก่อนที่จะโดนทำร้ายตนเคยไปร้องทุกข์ที่ สน.ทองหล่อ แต่คดีก็ไม่คืบหน้า ซึ่งนายตำรวจนายหนึ่งที่ สน.บอกกับตนว่ามีบางคนในกลุ่มผู้ต้องหาเป็นสายให้กับตำรวจ ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาย่ามใจก่อเหตุเรื่อยมา กระทั่งตนมาถูกทำร้ายในพื้นที่ สน.มักกะสัน ซึ่งตนจำหน้าผู้ต้องหาทั้งสองคนได้แม่นยำ เพราะอยู่ในย่านดังกล่าวมานานหลายปี ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้งสองคนไม่พบว่าเคยก่อคดีใดมาก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดี และสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป