เรือโดยสารสุดอั้น ราคาดีเซลเกิน 30 บาท “เรือด่วน” เล็งขึ้น 2 บาท “เรือข้ามฟาก” ปรับขึ้น 50 สตางค์ “เรือแสนแสบ” ยังกัดฟันตรึงราคา เตรียมส่งรายงานต้นทุนการดำเนินธุรกิจต่อกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จับตา "เจ๊เกียว" ขอปรับขึ้นค่าโดยสารรถทัวร์วันที่ 16 ม.ค.นี้ อีก 3-6 สตางค์ต่อกิโลเมตร
น.ท.ปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด กล่าวถึงราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวแพงขึ้นต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง โดยระบุว่า ภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2555 นี้ บริษัทจะทำรายงานต้นทุนการดำเนินธุรกิจต่อกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เพื่อขอปรับราคาค่าโดยสารขึ้นอีก 2 บาทต่อระยะทาง และเรือข้ามฟาก จะปรับเพิ่มขึ้นอีก 50 สตางค์ หลังจากราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญการดำเนินธุรกิจของบริษัทได้ปรับตัวเกินลิตรละ 30 บาท
โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคม และผู้ประกอบการมีมติร่วมกันว่า จะมีการหารือกันเพื่อพิจารณาความจำเป็นในการปรับเพิ่มค่าโดยสาร หากราคาน้ำมันดีเซลราคาเพิ่มขึ้นกว่า 30 บาทต่อลิตร นอกจากนี้การปรับเพิ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ก็จะหารือกับกระทรวงคมนาคมด้วย
อย่างไรก็ตาม น.ท.ปริญญา กล่าวว่า หากกรมเจ้าท่า และกระทรวงคมนาคม ไม่มีการอนุมัติให้มีการปรับราคาค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยา ก็อาจทำให้แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท กระทบทั้งนี้ในปี 2554 เรือด่วนเจ้าพระยามีรายได้จากการเดินเรืออยู่ที่ 160 ล้านบาท ขณะที่ผู้โดยสารต่อปีอยู่ที่ 9,500,000-10,500,000 คน
นายชวลิต เมธยะประภาส นายกสมาคมเรือไทย และเจ้าของบริษัท ครอบครัวขนส่ง จำกัด ผู้ให้บริการเรือคลองแสนแสบ เปิดเผยว่า แม้ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นเกินลิตรละ 30 บาทไปแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการปรับค่าโดยสารแต่อย่างใด ค่าโดยสารจะปรับต่อเมื่อราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มมาอยู่ที่ 32 บาทต่อลิตร จึงจะเรียกประชุมผู้ประกอบการเรือโดยสารเพื่อพิจารณาในการปรับค่าโดยสาร ซึ่งปัจจุบันค่าโดยสารเรือคลองแสนแสบ อยู่ที่ราคา 10-20 บาท
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สมาคมผู้ประกอบการผู้โดยสาร เตรียมปรับขึ้นค่าโดยสารอีกประมาณ 3-6 สตางค์ต่อกิโลเมตร แต่ทั้งนี้ต้องรอดูราคาน้ำมันดีเซลที่จะปรับเพิ่มในวันที่ 16 ม.ค.2555 นี้ ว่าจะอยู่ที่อัตราลิตรละเท่าใด จากนั้นประชุมสมาชิก เพื่อขอปรับขึ้นค่าโดยสารให้สอดคล้องกับต้นทุนราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เพราะค่าโดยสารปัจจุบันจัดเก็บอยู่บนพื้นฐานราคาน้ำมันดีเซลที่ 24-25 บาทต่อลิตรเท่านั้น
นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการผู้โดยสาร กล่าวว่า ผู้ประกอบการแบกรับภาระต้นทุน จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว จะต้องขอความเห็นใจจากรัฐบาล ขึ้นค่าโดยสารตามข้อกำหนดการคิดค่าโดยสารของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ประกอบการยังประสบปัญหารถตู้วิ่งทับเส้นทางอยู่แล้ว หากปล่อยไปเช่นนี้ ผู้ประกอบการอาจจะต้องขาดทุนจนต้องปิดกิจการได้ อย่างไรก็ตาม การขอขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้ อาจจะต้องปรับขึ้นหลายขั้นและในระดับที่มากพอสมควร ไม่ใช่แค่ 1 ระดับตามปกติ ที่มีการพิจารณากัน
