xs
xsm
sm
md
lg

สสจ.เชียงรายหวั่นปี๋ใหม่เมืองคนกินลาบ-หลู้มากโรคถามหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงรายเตือน กินลาบ-หลู้ดิบช่วงสงกรานต์เสี่ยงเป็นโรคไข้หูดับ แถมมีโอกาสหูหนวกถาวร หรือเสียชีวิตได้ ระบุมีคนเหนือป่วยแล้วสูงสุด ย้ำความเชื่อเรื่องเครื่องปรุงฆ่าพยาธิ-เชื้อโรคได้ เป็นเรื่องเข้าใจผิด

นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันทำให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีการเฉลิมฉลองกันนั้น มักจะมีการสังสรรค์ในหมู่เพื่อนหรือญาติพี่น้องด้วยการนำเนื้อหมูและเลือดหมูมาทำเป็นลาบหมูดิบๆ สุกๆ และหลู้เลี้ยงกันในวงเหล้า ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ซึ่งจากรายงานของสำนักงานป้องกันโรคทั่วประเทศ 12 แห่ง ในปี 2553 ทั่วประเทศมีการเกิดโรคสเตรปโตคอคคัสซูอิส หรือโรคไข้หูดับ มีผู้ป่วยแล้ว 207 ราย จาก 33 จังหวัดในทุกภาคของประเทศไทย โดยพบป่วยสูงสุดในภาคเหนือถึงร้อยละ 46.9 สาเหตุก็มาจากการรับประทานลาบ-หลู้สุกๆ ดิบๆ นั่นเอง

นายแพทย์ชำนาญกล่าวว่า ที่เชื่อกันว่าเครื่องปรุงต่างๆ เช่น พริก เกลือ จะทำให้เชื้อโรคและพยาธิที่อยู่ในเนื้อหมูตายนั้นถือว่าเป็นความเข้าใจผิด เพราะเครื่องปรุงดังกล่าวไม่ได้ฆ่าพยาธิหรือเชื้อโรคออกไปเลย ทั้งยังต้องเสี่ยงต่อการเป็นโรคหูดับ หรือโรคสเตรปโตคอคคัสซูอิส และมีโอกาสหูหนวกถาวร หรือเสียชีวิตได้

“โรคไข้หูดับเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ สเตรปโตคอคคัสซูอิส เชื้อจะอยู่ในโพรงจมูกและในช่องปากของหมูโดยไม่แสดงอาการ แต่จะแพร่เชื้อมาสู่คน โดยการกินหมูดิบๆ ทั้งเนื้อหมู เลือด เครื่องใน หรือสัมผัสหมูที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้เลี้ยง ผู้ชำแหละ หลังได้รับเชื้อ 1-3 วัน จะมีไข้สูง ปวดศีรษะ อาเจียน เวียนศีรษะ บางรายจะมีอาการหนักชักกระตุก เป็นอัมพาต มีอาการอักเสบที่เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด สายตาพร่ามัว ซึ่งหากติดเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 20-30 และหากรักษาช้าจะมีโอกาสหูหนวกสูงถึงร้อยละ 50-80 หากประชาชนมีอาการป่วย เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะหลังกินหมูดิบใน 3 วัน ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน” นายแพทย์ชำนาญกล่าว

สำหรับผู้ที่บริโภคเนื้อหมูดิบและเกิดป่วยขึ้นมา เมื่อต้องไปพบแพทย์ต้องแจ้งว่ากินหมูดิบมา เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ถูก และช่วยชีวิตได้อย่างทันท่วงที

แต่วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหูหนวก หรือตาบอดดังกล่าว คือ การกินหมูสุกเท่านั้น และแม้จำเป็นต้องสัมผัสหมูก็ต้องสวมถุงมือยาง ใส่รองเท้าบูต หรือล้างมือหลังสัมผัสทุกครั้งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น